รถผมหมู 2,500cc. หม้อโคโย(ตี้3นิ้วสอด) มีออยคูลเลอร์อีกลูกใหญ่ๆ อินเทค APS ทั้งชุด แฟชลกล่องมาแล้ว พัดลมแรงๆ
ถ้าวิ่งลอยๆ รถไม่ติด
Oil = 85 - 90 ไม่เคยเกินครับ
Water = 86 - 88 นิ่งๆไม่เคยเกิน
รวมทั้งวิ่งเร็วๆ 120 - 160 จะเท่านี้ตลอดครับ
แต่ถ้ารถติดๆ เช่นวันนี้ติดโครตๆ และ อากาศร้อนกว่า 44 องศาครับ (ตอนบ่ายกลางแดด)
Oil = 97
Water = 97
อุณหภูมิไอดี ล่อไป 80 ครับ
จนผมต้องโทรถามช่างว่า เฮ๊ย รถผมเป็นไรวะเนี่ย หรือจะเป็นโรคตัวร้อน...แต่พอรถเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ มันก็ลงครับ
ผมว่า สิ่งที่มีผลกับความร้อน มันไม่ใช่แค่หม้อน้ำครับ มันน่าจะมีเรื่องของการระบายด้วย พวกเราโฟกัสแต่ของที่ใช้ แต่บางทีลืมดูบริบท ที่ใช้รถ ณ ขณะนั้นๆด้วย
พอดีวันนี้ผมต้องจอดรถติดเครื่อง(ไม่ติดเครื่องเปิดแอร์ร้อนชิบหาย) รอลูกค้าประมาณ 30 นาที ผมเลยเปิดฝากระโปรงครับ
ผลลัพธ์ที่ได้คือ
Oil = 93 ไม่เกินครับ
Water = 88 นิ่งๆไม่เกิน
แปลว่าอะไร? นอกจากของดีที่เราใช้แล้ว ความสามารถในการระบายขณะจอดมันก็สำคัญไม่แพ้กัน
เปิดกับปิด ฝากระโปรง รู้เรื่องเลยครับ ดังนั้น เวลาวิ่งๆ เร็วๆ ยิ่งเร็ว รถผมยิ่งเย็น (ตรงข้ามกับแมวเจ้านุ ฮิฮิ)
เพราะว่า ซูบารุ มีความร้อนทั้งจากหม้อน้ำเอย เฮดเดอร์เอย อินเตอร์เอย ยิ่งติดมันก็ยิ่งร้อน (ถ้ามีฉีดน้ำอินเตอร์น่าจะช่วยได้มาก)
และข้อสำคัญคือการระบายลมออก ยิ่งปิดฝากระโปรง ความร้อนก็อบอยู่นั่นแหละ ไม่มีที่ไป ก็ไปสะสมตรงนู่น ตรงนี้ ยิ่งร้อนไปใหญ่
สังเกต อุณหภูมิไอเดีย ขณะวิ่งประมาณ 60 ครับ แต่ถ้าจอดติดไฟแดงนานๆ ล่อไป 80 แล้วครับ ผมเลยรู้สึกว่าของซิ่งบางอย่างเช่น อินเทคทั้งชุด APS
แม่งไม่ได้ส่งผลดีต่อชีวิต ในเมืองเลยแม้แต่น้อย แถมเปลี่ยนทำความสะอาดกรองยากอีก เดิมๆ น่าจะดีกว่าด้วยซ้ำไป
แต่ถ้าอยู่ต่างประเทศ อากาศเย็นๆ รถไม่ติด มันต้องดีกว่าแน่ๆ
แต่สิ่งที่รถผมยังมีคือพลาสติกปิดใต้ท้องรถนะ ถ้าเอาออกน่าจะดีขึ้น แต่ก็เสี่ยงต่อโดนเศษหินดีดใส่อวัยวะใต้ท้องเหลือเกิน เพราะเดินทางต่างจังหวัดประจำ
อีกแนวทางคือ ไปเปลี่ยนฝากระโปรงหน้าซิ่ง แบบมีช่องระบายความร้อน น่าจะช่วยได้มาก แลกกับค่าตัวหลายหมื่นก็ว่ากันไปครับ
หรือจะลูกทุ่งๆ หน่อยก็ลองแหวนฝากระโปรงสัก 1 cm ให้ลมร้อนมันมีที่ไปก็น่าจะช่วยได้บ้างครับ
ลองดูครับ