เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 57 สถานีรถไฟรังสิต นายชัชชาติสิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม ได้ลงพื้นที่สำรวจการใช้บริการรถไฟชานเมืองของประชาชน ในช่วงที่มีการชุมนุมปิดกรุงเทพฯพร้อมทั้งได้ขึ้นรถไฟขบวนแก่งคอย-กรุงเทพ ในเวลา 07.25 น. จากสถานีรังสิตเดินทางไปลงสถานีรถไฟบางซื่อในเวลา08.30 น.นายชัชชาติกล่าวว่า ช่วงที่มีการชุมนุมปิดกรุงเทพฯของกลุ่ม กปปส. ในวันแรก วันที่ 13 ม.ค. มีประชาชนใช้บริการรถไฟน้อยลงอยู่ประมาณ12,000 คน จากปกติใช้บริการ 15,000 คน วัน แต่ในวันถัดมีประชาชนมาใช้บริการรถไฟเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 16,000-17,000 คน เนื่องจากวันแรกอาจมีการหยุดงานเยอะแต่วันต่อมาประชาชนก็เริ่มทำงานปกติ ประกอบกับการรถไฟแห่งประเทศ (รฟท.) ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้และเพิ่มความสะดวกด้วยการปล่อยขบวนรถถี่ขึ้นจากทุก 30 นาที เป็น 15 นาทีเพื่อระบายจำนวนผู้โดยสารในช่วงที่การจราจรบนถนนมีอุปสรรคจากการชุมนุม
นายชัชชาติกล่าวว่า รฟท.เพิ่มเที่ยวรถไฟชานเมืองให้มากขึ้นเพื่อวิ่งเสริมรับ-ส่งผู้โดยสาร จากรอบนอกกรุงเทพฯ เข้าสู่ใจกลางเมืองโดยด้านทิศตะวันออกของกรุงเทพฯ ให้เริ่มต้นที่สถานีรถไฟหัวตะเข้ ย่านลาดกระบังด้านทิศเหนืออยู่ที่สถานีรถไฟรังสิต ด้านทิศตะวันตกและทิศใต้อยู่สถานีรถไฟศาลายา โดยได้รถไฟเสริม1 ขบวน สามารถรองรับประชาชนจำนวน 350 ที่นั่ง และยืนอีก 700 คนหรือรองรับประชาชนได้ 3,000-4,000 คนต่อชั่วโมงจึงมั่นใจว่าจะเพียงพอต่อจำนวนผู้โดยสารที่มาใช้บริการ
อย่างไรก็ตามยอมรับว่าการโดยสารรถไฟอาจช้าไม่ทันใจประชาชน แต่เชื่อว่าเป็นอีก 1ทางเลือกในการเดินทางที่สะดวกและปลอดภัย ซึ่งในอนาคต รฟท.จะมีการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพของรถไฟในการเปลี่ยนหัวรถจักรใหม่ รวมถึงการให้บริการที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
นายชัชชาติกล่าวถึงส่วนกรณีที่นายสม อิสระแกนนำกลุ่ม กปปส. จะนำมวลชนไปปิดล้อมการทางพิเศษแห่งประเทศไทยว่าคงไม่มีใครห้ามได้หากจะไปปิด แต่การทางพิเศษทีตังอยู่บริเวณบางเขนนั้นเป็นเพียงสถานที่ทำงานเท่านั้น มั่นใจว่าหากมีการปิด กทพจะไม่กระทบต่อการทำงานควบคุมระบบการใช้ทางเนื่องจากมีระบบบริหารจัดการแยกออกต่างหาก ส่วนกรณีกลุ่ม คปท.จะไปปิดบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทยนั้นก็อยากขอร้องว่าอย่าทำเลย เพราะจะกระทบและสร้างความเสียหายระดับประเทศ