ประเด็นระดับน้ำมันเบนซินลด อยู่ที่ลักษณะการติดของช่างว่าตัดปั้มติ้กหรือไม่ครับ ในกรณีนี้ผมคิดว่าน่าจะไม่ได้ตัดครับ ซึ่งของผมก็ไม่ได้ตัดเหมือนกัน แต่มันจะลดนิดหน่อยไม่ลดเหมือนช่วงใช้น้ำมันครับ ผมติดตั้งแต่ 5พันกิโล ตอนนี้จะ4หมื่นกิโลแล้วครับ ยังไม่มีปัญหาอะไรครับ
และขอถามอีกเรื่องนะครับ ติดแบบมี function obd หรือไม่ครับ ถ้าใช้ function obd มันจะ connect กับ ecu แล้วปรับจูนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด จะประหยัดขึ้นหน่อย แต่ถ้านำอุปกรณ์ gauge ที่ต้องไปเชื่อมต่อแบบ obd เพื่ออ่านค่าต่างๆของการทำงานของเครื่องยนต์ (รถผมติดของ AC แบบมี obd) ถ้าต่อ gauge เหล่านั้นในขณะที่ใช้ function obd ของแกสด้วย gauge นั้นยังจะใช้ได้ แต่ function obd ของแกสจะไม่สามารถconnect กับecu ได้เนื่องจาก ecu ยอมให้ guage ดังกล่าว connect ไปแล้ว(ผมคิดว่าอาจเป็นวิธีป้องกันความเสียหายของ ECU load ในกรณีมีอุปกรณ์มาต่อพ่วงมากๆเลยอนุญาติให้connect อุปกรณ์ได้ไม่เยอะ) ทำให้ระบบแกสทำงานโดยไม่ได้ใช้function obd (วิธีสังเกตุแกส1ถังจะไม่ประหยัดเท่ากับใช้function obd หรือดูจากการกินเชื้อเพลิงจากจอ litre/100km) แต่ถ้าถอด gauge ดังกล่าวออก ระบบแกสก็จะสามารถกลับมา connect กับ ECU และใช้งาน function obd ได้ครับ ในส่วนตัวผมจะต่ออุปกรณ์ในกรณีที่ต้องการดูค่าต่างๆ ที่ต้องการตรวจสอบเท่านั้นครับ ไม่ได้ต่อไว้ตลอด นานๆจะดูซักที
ยังไงใช้แกสแล้ว ใช้น้ำมันบ้างนะครับ ผมใช้วันละ150 กิโล ในอาทิตย์นึงจะวิ่งน้ำมันยาวๆซัก 60-70 กิโล ครับ เพื่อให้น้ำมันไปล้างคราบเขม่าแกส และไม่ให้บ่าวาวล์แห้งครับ
ขอให้มีความสุขกับการใช้แกสนะครับ
ไล่ทีละหัวข้อละกันนะครับ
รถผมตัดติ้กแล้วคับ แต่จริงๆจะตัดหรือไม่ตัด ถ้าไม่ตัดสุดท้ายถ้าแรงดันในท่อน้ำมันเกิน ยังไงก็ไหลกลับลงถังอยู่แล้วครับ
ประเด็นที่ผมถาม อาจจะสื่อไม่เข้าใจ ผมหมายถึงว่า เวลาวิ่งแก๊ส ปรัมาณน้ำมันที่โชว์อยู่ที่หน้าปัทม์รถยนต์ จะน้อยลงเรื่อยๆ แต่พอเอา OBD ไปเช็ก ก็จะเท่าเดิมครับ
เรื่องต่อมาคือระบบประมวลผล กับ OBD2 ในรถนั้น ไม่ส่งผมถึงกันแน่นอน เดี๋ยวจะอธิบายเพิ่มเติมต่อครับ ส่วนการต่อ OBD ของผมต่อแปบเดียวครับ ตรวจความผิดปกติในรถเฉยๆ
ประเด็นใหญ่ต่อมาอีกเรื่องว่า ECU แก๊สมี function OBD หรือไม่นั้น ผมขออธิบายแบบนี้ละกันครับ
คือผมค่อนข้างมีความคิดแบบโบราณๆ นิดนึง ตัวผมเองเลยติด ECU ของแก๊ส แยกจากน้ำมันไปเลย คล้ายๆกัน กับกล่อง stanalone ของพวกรถซิ่งครับ
ถ้าถามว่าดียังไง อธิบายแบบนี้ดีกว่าละกัน คือช่างเค้าจะเอาพวก sensor ต่างๆในรถมาต่อตรงกับกล่องเลยครับ ในที่นี้ของรถผมใช้ของ lambdajet
ทีนี้เวลาตัดกลับเป็นน้ำมัน ก็จะ bypass ระบบเดิมกลับเข้าไปเลยครับ
เรื่องกล่องที่มี funtion OBD นั้น ตามความคิดของผมคิดว่าน่าจะสู้พวกกล่องแยก รับเซนเซอร์ตรงไปเลย กับฝีมือช่างที่เทพๆไม่ได้ครับ แต่เหมาะมาก ถ้าเน้นจูนเร็ว กับโอกาสผิดพลาดน้อยกว่าเฉยๆ
เหตุผมที่ผมคิดไว้คือ OBD เป็นการประมวลผลและส่งข้อมูลมาจาก ECU หลักของรถซิ่งแน่นอนว่าเกิด Delay ครับ สู้ไปเอาข้อมูลจาก sensor ในรถโดยตรงดีกว่า
อาจจะขัดแย้งกับเรื่องที่คิดว่ามี OBD แล้วดี ใช่ครับ สำหรับจูนเบื้องต้นที่เน้นออโต้เป็นหลัก OBD ช่วยได้เยอะครับ
แต่ผมลองถามหลายๆร้านแล้วเหมือนกันครับ ถ้าผีมือช่างเทพจริงๆแล้ว สู้ไปลงทุนกับ ECU แยกที่จูนได้ละเอียดมากๆ กับมีประสบการณ์ด้านรถแข่ง เข้าใจเครื่องยนต์อย่างถ่องแท้ดีกว่าครับ
ประเด็นสุดท้ายคือการสลับไปใช้น้ำมันกับรถที่ติดแก๊ส เมื่อก่อนผมเคยคิดครับว่าส่งผมกับรถ แต่พอศึกษาจากหลายๆที่แล้ว คิดว่าวิ่งแก๊สให้คุ้มไปเลยดีกว่า เสียก็ซ่อมได้ไม่ยากครับ
รถ XV ไม่ใช่รถหัวฉีดในห้องเผาไหม้ครับ ฉีดตรงท่อไอดี เพราะฉะนั้นหัวฉีดแก๊สก็เจาะตรงตำแหน่งกับระยะเดียวกันไปเลย แล้วก็จูนหัวฉีดในเรื่องเวลาเอา
ส่วนเชื้อเพลิงไม่ว่าอะไรถ้าส่วนผสมในห้องเผาไหม้ถูกต้องแล้ว หลังจุดระเบิดคราบหรือเขม่าต่างๆก็ต้องมีความคล้ายคลึงกัน แถมแก๊สเองผมว่าสะอาดกว่าน้ำมันนะครับ การเผาไหม้กับออกเทนก็น่าจะดีกว่า
เรื่องบ่าวาล์วต่างๆอาจมีส่วนจากอุณหภูมิในการเผาไหม้ที่สูงกว่า แต่ผมว่าความประหยัดจากแก๊สผมอาจจะเก็บไว้เป็นค่าซ่อมเครื่องยนต์ดีกว่าคับ
จริงๆหัวข้อกระทู้ผมกะถามแค่ว่าทำยังไงให้ไฟเครื่องยนต์ไม่ขึ้นเวลาทำให้เข็มน้ำมันไม่ตรงเฉยๆครับ
ถ้าความเห็นของผมผิดพลาดตรงไหนก็พูดคุยได้ครับ
ถือว่าเป็นการชี้แนะความรู้ต่างๆครับ