ผู้เขียน หัวข้อ: รบกวนขอความรู้กล่อง e-manage , s-afc , power fc ครับผม  (อ่าน 30916 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ จิ๊กโก๋อกหัก

  • ทีมนักปั่นพลังหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 1,147
  • Popular Vote : 125
    • Tia's Facebook
สวัสดีครับ

ผมอยากทราบว่ากล่อง 3 ตัวที่ผมสนใจคือ e-manage , s-afc , power fc มันมีข้อดีข้อเสีย แตกต่างกันอย่างไร จูนยากง่ายขนาดไหน
จุดประสงค์คือผมจะเอามาใช้ในการจูนอัตราส่วนผสมให้กับเจ้า GC คอแดง ของผม
เพื่อที่จะสามารถเติมโซฮอลและปรับบูสขึ้นให้สูงมากกว่าเดิมนิดนึง โดยที่ไม่คิดจะแต่งในส่วนของเครื่องยนต์มากมาย
หรืออีกอันหนึ่งคือเอากล่องไป reflash ซึ่งไม่แน่ใจว่า gc คอแดงจำทได้มั้ย
ตอนนี้กำลังตัดสินใจอยู่ครับ

อยากขอคำแนะนำของพี่ๆด้วยครับ

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ name_joker

  • *
  • กระทู้: 684
  • Popular Vote : 24
Re: รบกวนขอความรู้กล่อง e-manage , s-afc , power fc ครับผม
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 28, 2009, 05:31:53 pm »
เคยเห็นมานะครับ นำมาฝากครับผม

จาก : http://rcw.ms/forums/showthread.php?t=234952

ไม่ได้มีจุดประสงค์ในการเชียร์ของแต่อย่างใด แต่มาเพื่ออธิบาย function ต่างๆของกล่อง
ผมขอยกตัวอย่างกล่องที่อยู่ในระดับใกล้ๆกันนะครับ สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับคนซื้อที่จะตัดสินใจ
ไม่ว่ากล่องอะไรราคาเท่าไรขอให้คิดให้ดีว่า ถ้าเราคิดจะทุ่มเงินซื้อของที่ราคาสูงมากๆมาแล้ว เราจะสามารถนำเอาfunctionและความสามารถทุกอย่างที่กล่องตัวนั้นมีให้ มาใช้ให้คุ้มค่ามากที่สุดได้หรือไม่

ลองเอาเงินที่ต้องจ่าย มาหารจำนวนม้าที่เพิ่มขึ้นดูว่า 1 ม้าใช้ตังค์ไปเท่าไหร่

สมมุติว่ารถคุณ เครื่องเดิมไม่ได้ทำอะไรเลย 130แรงม้าเกียร์ออโต้ มาใส่กล่องหวังจะให้ได้ความเร็วปลายจาก 185 เป็น 220 อันนี้ถือหวังสูงเกินไปครับไม่ใช่กล่องเทพฟ้าประทานนะครับ หน้าที่ของกล่อง ในรถระดับใช้งานทั่วไปนี่คือช่วยปรับแต่งการจ่ายน้ำมันหรือการจุดระเบิด ที่ของโรงงานอาจจะเซ็ตเอาความสามารถมาแค่ 90-95จาก100% ให้มันทำงานได้ใกล้เคียง100%ที่สุด

หรือ ถ้าอยากได้เพิ่มสัก 10 ม้าจากเดิมผมก็บอกตรงๆว่าไปทำ header กะท่อเอาก็ได้แล้วถูกกว่าด้วย ม้าตัวนึงกินเงินน้อยกว่า อันนี้คุณเป็นคนตัดสินใจครับ และต่อไปนี้ เรามาดูกล่องแต่ละตัวกันครับว่าเป็นไงกันบ้าง


e-manage ฟ้า:


ราคา 12,500-13500 มือหนึ่ง มือสองอยู่ราว 8000-9000 ในตลาดก่อนซื้อถามด้วยว่ามีสายจุดระเบิดมาด้วยมั้ย มีก็ดี ไม่มีก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่หาซื้อได้ทั่วไป

วิธีดูของ

วิธีดูของมือสองที่ชัวร์ที่สุดคือ ดูของตอนที่มันยังอยู่ในรถเค้านั่นเลย ทดสอบก่อนถอดว่าติดเครื่องได้ เร่งเครื่องได้ ok จบ แต่ถ้ากลัวเค้าสลับของก็โทรนัดกันแล้วมาเจอที่ผม ให้ผมตรวจสอบดูให้ก็ได้ ดูเสร็จก็ถอดเดี๋ยวนั้นเลย

แต่ถ้าสมมติของนั้นถอดมาแล้ว ก็ไม่เป็นไรนัดมาที่เจอผมพร้อมกันเอากล่องเค้าใส่รถผมเพื่อลองติดเครื่องดู อันนี้บริการพิเศษสำหรับเพื่อนๆครับ จัดให้ เพื่อความสบายใจของท่าน

Function:
x scale ในการปรับตารางรอบเครื่องที่ละ 100 rpm
x ปรับน้ำมันตาม Airflow ได้ 16x16 ช่อง เพิ่ม/ลด น้ำมัน
x ปรับองศาการจุดระเบิดได้ 16x16 เพิ่ม/ลด องศาไฟจุดระเบิด ได้ -20/+20
x กรณีรถ set turbo หรือรถที่ต้องเพิ่มน้ำมันมากๆ ต่อสายคุมหัวฉีดได้ ปรับได้ 16x16 (เพิ่มน้ำมันได้ เท่านั้น)
x ปลดตัด Boost ได้ เช่น NA set BO หรือ เครื่อง turbo ที่ต้องการปรับ boost เพิ่ม
x กรณีเปลี่ยนหัวฉีดใหญ่ขึ้นน้ำมันจะท่วม สามารถคุ่มหัวฉีดที่เปลี่ยนได้
x คุมหัวฉีดเสริมได้ 2 หัว 16x16
x ปรับ VTEC ได้ เฉพาะ block B, H, D, F เท่านั้น Dimension, Jazz, Steam CRV ปรับไม่ได้ ถึงได้ก็ไม่มีประโยช์น VTEC เหล่านี้เปิดที่รอบ 2200-3000 อยู่แล้ว
x เก็บ datalog ได้ (แต่ต้องใช้ notebook)
x สั่ง option เพิ่ม จาก Greddy เพื่อปลด close loop ได้ [ตอนนี้กำลังทำตัวปลด close loop แบบ otop กำลังทดสอบอยู่ครับ]


close loop คืออะไรเรื่องมันยาวหากสงสัยใหัโทรถามยินดีอธิบายและให้คำแนะนำครับ

e-manage Ultimate:


ราคามือหนึ่ง 24000-27000 มือสอง ไม่ค่อยมีแต่เคยเห็นอยู่ 19000-21000
function:
x scale ในการปรับตารางรอบเครื่องที่ละ 50 rpm
x ปรับน้ำมันตาม Airflow ได้ 16x16 ช่อง เพิ่ม/ลด น้ำมัน
x กรณีรถ setbo หรือรถที่ต้องเพิ่มน้ำมันมากๆ ต่อสายคุมหัวฉีดได้ ปรับได้ 16x16 และพิเศษกว่ากล่องฟ้าตรงที่จะ เพิ่ม หรือลด ก็ได้
x รวมแล้วสามารถทำให้สามารถปรับ ได้ 30x16 (ทำมาแล้วสามารถยืนยันได้)
x ปลดลากรอบเครื่องได้เช่นรถผม [civic dimension เครื่องเดิมกระปุกตัวไม่มี vtec] ใช้รอบอยู่ 7800-8000 (จุดประสงค์นี้เพื่อเกียร์กระปุกเท่านั้น)
x LOCK รอบออกตัวได้เช่นการออกตัว quatermile ได้และถ้าเป็นรถ turbo ทำ misfire ได้
(กดคันเร่งเต็มที่รอบจะค้างอยู่ที่รอบที่เราตั่งไว้เช่น 4500 รอบ เวลายกคลัทช์ออกรอบเครื่องจะกลับมาเป็นปกติถ้าเป็นรถ turbo จะมี boost มารอด้วย ทำให้มีแรงออกตัวมากขึ้น)สำหรับเกียร์กระปุกเท่านั้น

x ปรับองศาการจุดระเบิดได้ 16x16 เพิ่ม/ลดองศาไฟจุดระเบิด ได้ -30/+30
x ปรับน้ำมันตาม อุณหภูมิน้ำได้
x ปรับองศาจุดระเบิดตาม อุณหภูมิน้ำได้
x ปรับน้ำมันตามอุณหภูมิของไอดี ได้
x ปรับองศาจุดระเบิดตามอุณหภูมิของไอดี ได้
x สามารถคุมอุปกรณ์ต่างๆตาม อุณหภูมิของไอดี และน้ำหล่อเย็นได้
เช่น สั่งให้พัดลมไฟฟ้าให้ทำงานก่อนอุณภูมิที่ผู้ผลิตปรับตั้งไว้ตอนแรก หรือสั่งให้ฉีดน้ำ intercooler เมื่อถึง intake temp ที่ตั้งไว้
x ปลดตัด Boost ได้ เช่น NA set BO หรือ เครื่อง turbo ที่ต้องการปรับ boost เพิ่ม
x คุมหัวฉีดเสริมได้ 2 หัว 16x16
x ปรับ VTECได้ หมด
x ปลด lock ความเร็ว 180 ได้เกือบทุกรุ่น
x กรณีเปลี่ยนหัวฉีดใหญ่ขึ้นน้ำมันจะท่วม สามารถคุมหัวฉีดที่เปลี่ยนได้
x สำหรับรถ เกียร์ auto แรงๆ เช่น JZ-GTE โมดิฟายเพิ่มเวลาเปลี่ยนเกียร์จะกระตุก มี functionแก้อาการนี้ได้
x เก็บ datalog ได้โดยไม่ต้องใช้ notebook
x มี switch อยู่ข้างกล่องที่ผู้ใช้รถสามารถปรับเลือกตารางน้ำมันและองศาจุดระเบิดเองได้โดยไม่ต้องพึ่ง tuner
แต่ tuner ต้องตั้งไว้ให้ก่อน มีให้ใช้ 2 ตารางจะใช้งานในกรณีไหน?? เช่น จูนไว้สำหรับ octane 95 , 91 , 100 เป็นต้น
x มี AF FeedBack เป็น option ที่ต้องซื้อเพิ่มจาก Greddy สำหรับเวลาจูน อันนี้ไม่ขออธิบายมากนะครับเพราะเรื่องค่อนข้างยาว
x สามารถซื้อ Greddy remote อันเดียวกับตัวที่รถแรงๆใช้ปรับ boost controller เพิ่มคุ่ม function ต่างๆในกล่องได้
x สั่ง option เพิ่ม จาก Greddy เพื่อปลด close loop ได้ [ตอนนี้กำลังทำตัวปลด close loop แบบ otop กำลังทดสอบอยู่ครับ]
close loop คืออะไรเรื่องมันยาวหากสงสัยใหัโทรถามยินดีอธิบายและให้คำแนะนำครับ


HKS F-CON SZ:


ราคามือหนึ่ง 3x,xxx มือสองอยู่ราวๆ หมื่นปลายๆถึง 2 ต้นๆ ตัวนี้เมื่อเทียบกับ e-manage ultimate ก็เหมือนรักพี่เสียดายน้องเพราะFCONSZ นั้น
ปรับตารางได้ละเอียดกว่าแต่ก็ขาดลูกเล่นไปเยอะเช่นปลดรอบเครื่องไม่ได้, lock รอบออกตัวไม่ได้ ฯลฯ

x scale ในการปรับตารางรอบระเอียดกว่า e-manage ultimate
x ปรับน้ำมันที่หัวฉีดได้ 24x16 ช่อง +/-นั้มน
x ปรับองศาการจุดระเบิดได้ 24x16 +/- องศาจุดระเบิด
x ปรับน้ำมันตาม Water Temp ได้
x ปรับองศาจุดระเบิดตาม Water Temp ได้
x ปรับน้ำมันตาม Intake Temp ได้
x ปรับองศาจุดระเบิดตาม Intake Temp ได้
x ปลดตัด Boost ได้ เช่น NA set BO หรือ เครื่อง turbo ที่ต้องการปรับ boost เพิ่ม
x ปลด lock ความเร็ว 180 ได้เกือบทุกรุ่น
x มี switch อยู่ข้างกล่องที่ผู้ใช้รถสามารถปรับเลือกตารางน้ำมันและองศาจุดระเบิดเองได้โดยไม่ต้องพึ่ง tuner
แต่ tuner ต้องตั่งไว้ให้ก่อน มีให้ใช้ 2 ตารางจะใช้งานในกรณีไหน?? เช่น จูนไว้สำหรับ octane 95 , 91 , 100 เป็นต้น
x สำหรับรถ เกียร์ auto แรงๆ เพิ่มเวลาเปลี่ยนเกียร์จะกะตุก มี function แก้อาการนี้ได้เหมือนกับUltimate
x มี AF FeedBack

สำหรับรถใช้งานทั่วไปเช่น civic dimension, altis, ฯลฯ ที่เน้นแอร์เย็นเพลงเพราะรถสวย โปรดฟังอีกครั้ง "ที่เน้นแอร์เย็นเพลงเพราะรถสวย" รถระดับนี้ e-manage กล่องฟ้าก็ดีพอแล้วครับใส่ ultimate หรือ F-CON ไปก็วิ่งไม่ต่างกันมากและก็ไม่ได้ใช้ function ทั้งหมดที่กล่องมีให้อย่างเป็นประโยชน์จริงจัง [จากประสบการณ์และความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ลองกับรถตัวเองมาแล้วทั้งกล่องฟ้า และ Ultimate] เปลืองเงินไปเปล่าๆ ม้า1ตัว กินเงินเยอะกว่า ค่าจูนก็แพงกว่าด้วย แบบนี้เก็บเงินไว้ทำท่อทำ header ทำกรอง ซึ่งเป็นส่วนประกอบเครื่องที่เป็นhardware แล้วใช้กล่องธรรมดาๆ ผลที่ได้ออกมาจะชัดเจนกว่าการที่ไม่ได้ปรับแต่งอะไรเครื่องเลย แต่ใช้กล่องใบละหลายหมื่นเพียงอย่างเดียว (ยกเว้นว่ารถโมดิฟายมาหนักๆ แรงม้าหลายร้อย A/Fแกว่งเป็นหมากระดิกหาง ทีนี้กล่องใบละหลายหมื่น จะได้ใช้ความสามารถของมันแน่ๆ แบบนี้คุ้ม)

ไหนๆก็ไหนๆแล้วมีคำถามมามากเกี่ยวกับพวกจอฟ้าทั้งหลายว่า"รถผมควรใส่อะไรดีต่างกันอย่างไรเพื่ออะไรฯลฯ" RSM, SAFCI, VAFCI, SAFCII,
VAFCII, และใหม่สุด AFC NEO จอสี ก็ขออธิบายไว้ตรงนี้เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับทุกท่านละกันครับ


RSM: [REV Speed Meter]


ราคามือหนึ่ง 7500-8000 มือสอง 4900-6200 ตามสภาพ
จุดประสงค์เพื่อดูค่า รอบเครื่อง, ความเร็วรถ, Battery Voltage และปลดความเร็ว 180 ของเล่นต่างๆมีดังนี้

x วัดรอบเครื่อง
x ต่อ shiftlight ได้เช่นตั้งไว้ 5000 rpm ถึง 5000 rpm ไฟจะติด
x วัดความเร็วได้
x ดู Battery voltage ได้
x ต่อไฟไว้เตือนความเร็วได้เช่น ตั้งไว้ 100 เกิน 100 ไฟจะติด
x วัดระยะทางการเดินทางได้
x ปลด lock ความเร็ว 180 ได้เกือบทุกรุ่น
x จับเวลา 0-100m , 0-200m, 0-400m
x จับเวลา 0-100 km/h, 0-200km/h, xx-xxx km/h xx=ใส่ค่าเริ่มต้นเอาเอง xxx=ใส่ค่าสิ้นสุดเอาเอง
x วัดแรง G ของรถ (เป็น option ที่ต้องซื้อG-Sensorเพิ่ม)
x วัดแรงม้า โดยคำนวนจากแรง G per second (โดยส่วนตัวผมว่าค่อนข้างไร้สาระ วัดได้ห่วยแตกมากๆ รถผมวัดได้ 900 ม้า 4A-FEเดิมๆรุ่นน้องผมมันวัดได้ 342แรงม้า BULLSHIT !!!)
x ดูค่าสูงสุดของ data ต่างๆ ได้ เช่น รอบเครื่อง โวลต์แบต ความเร็วสูงสุด


SAFCI: [Super Airflow convert]


ราคามือหนึ่ง หมื่นกว่าๆ จำไม่ได้นานแล้วไม่เห็นมีขายแล้วด้วย มือสอง 5000-6500 ตามสภาพ
จุดประสงค์เพื่อปรับน้ำมันอย่างเดียวไม่สามารถปรับไฟจุดระเบิดได้

x ปรับน้ำมันตาม airflow ได้ ตาราง 8 x 2
x ดูรอบเครื่อง, องศาลิ้นผีเสื้อได้ [หรือ % ของการกดคันเร่งได้]
x ในรถที่เป็น MAP [Manifold Absolute Pressure] sensor สามารถดู vac/boost ได้
x ดูค่าสูงสุดของ data ต่างๆ ได้ เช่น รอบเครื่อง

SAFCII: [Super Airflow convert]


ราคามือหนึ่ง 11000-12500 มือสอง 6500-7500 ตามสภาพ
จุดประสงค์เพื่อปรับน้ำมันอย่างเดียวไม่สามารถปรับไฟได้

x ปรับน้ำมันตาม airflow ได้ ตาราง 12 x 2
x ดูรอบเครื่อง, องศาลิ้นผีเสื้อได้ [หรือ % ของการกดคันเร่งได้]
x ในรถที่เป็น MAP [Manifold Absolute Pressure] sensor สามารถดู vac/boost ได้
x มี function กันเครื่อง knock ได้สำหรับรถบางรุ่นที่เขียนระบุไว้ในคู่มือผลิตภัณฑ์
x lock ไม่ให้มือบอนมาปรับตั้งน้ำมันเล่นได้
x ดูค่าสูงสุดของ data ต่างๆ ได้ เช่น รอบเครื่อง

VAFCI: [VTEC Airflow convert]


ราคามือหนึ่ง หมื่นกว่าๆ จำไม่ได้นานแล้วไม่เห็นมีขายแล้วด้วย มือสอง 5000-6500 ตามสภาพ
จุดประสงค์เพื่อปรับน้ำมันและ VTEC ไม่สามารถปรับไฟได้

x ปรับน้ำมันตาม airflow ได้ ตาราง 8 x 2
x ดูรอบเครื่อง, องศาลิ้นผีเสื้อได้ [หรือ % ของการกดคันเร่งได้]
x สามารถดู vac/boost ได้ [Honda ทั้งหมดเป็น MAP]
x ปรับ vtec ได้ เฉพาะ block B, H, D, F เท่านั้น Dimension, Jazz, Steam CRV ปรับไม่ได้ ถึงได้ก็ไม่มีประโยช์น vtec เหล่านี้เปิดที่รอบ 2200-3000 อยู่แล้ว
x ดูค่าสูงสุดของ data ต่างๆ ได้ เช่น รอบเครื่อง


VAFCII: [VTEC Airflow convert]


ราคามือหนึ่ง 11000-12500 มือสอง 6500-7500 ตามสภาพ
จุดประสงค์เพื่อปรับน้ำมันและ VTEC ไม่สามารถปรับไฟได้

x ปรับน้ำมันตาม airflow ได้ ตาราง 12 x 2
x ดูรอบเครื่อง, องศาลิ้นผีเสื้อได้ [หรือ % ของการกดคันเร่งได้]
x สามารถดู vac/boost ได้ [Honda ทั้งหมดเป็น MAP]
x มี function กันเครื่อง knock ได้สำหรับรถบางรุ่นที่เขียนไว้ในคู่มือ
x lock ไม่ให้มือบอนมาปรับตั่งน้ำมันเล่นได้
x ปรับ vtec ได้ ตามลิ้นผีเสื้อด้วย VAFCI ได้ตามรอบเครื่องเท่านั้น
x ปรับ vtec ได้ หมด มีประโยช์นสำหรับพวก K20A ฝาแดง
x ดูค่าสูงสุดของ data ต่างๆ ได้ เช่น รอบเครื่อง

AFC NEO: [Airflow convert NEO ย่อจากอะไรไม่รู้]


ราคามือหนึ่ง 13000-14000 มือสองยังใหม่ไปยังไม่เห็น
จุดประสงค์เพื่อปรับน้ำมันและ VTEC ไม่สามารถปรับไฟได้ เป็นตัวใหม่ล่าสุดจาก APEXi เป็นจอสี display ได้สวยหรู hi-so มาก
หลังจากจอฟ้า APEXi จะไม่ทำแยก VAFC และ SAFC และก็จะมาเป็นตัวนี้แทน

x ปรับน้ำมันตาม airflow ได้ ตาราง 16 x 2
x ดูรอบเครื่อง, องศาลิ้นผีเสื้อได้ [หรือ % ของการกดคันเร่งได้]
x ในรถที่เป็น MAP [Manifold Absolute Pressure] sensor สามารถดู vac/boost ได้
x ปรับ vtec ได้ ตามลิ้นผีเสื้อด้วย VAFCI ได้ตามรอบเครื่องเท่านั้น
x ปรับ vtec ได้ หมด มีประโยช์นสำหรับพวก K20A ฝาแดง
x ดู Battery Voltage ได้
x ดูค่าสูงสุดของ data ต่างๆ ได้ เช่น รอบ


และอีกอันครับ เจาะFcon
จาก : http://www.hondaloverclub.com/forums/archive/index.php/t-8115.htmlโดยข้อแตกต่างของ F-CON S กับ F-CON V Pro สามารถแยกเป็นข้อๆแบบคร่าวๆ ได้ดังนี้ครับ:

1. F-CON S ยังจำเป็นที่จะต้องรับสัญญาณขาเข้าของ sensor มาคำนวนและปรับแต่งค่าตามที่ต้องการก่อน แล้วจึงส่งให้กับ ECU ติดรถ เมื่อ ECU ส่งสัญญาณออกมาที่กล่อง F-CON S เพื่อให้ตรวจสอบค่าที่ถูกต้องรวมไปถึงปรับเปลี่ยนค่า ต่างๆให้เหมาะสม จากนั้นจึงกำหนดองศาการจุดระเบิดและปริมาณการฉีดจ่าย น้ำมันไปยังเครื่องยนต์ พูดง่ายๆก็คือ F-CON S จะทำการดักสัญญาณทั้งขาเข้าและขาออกเพื่อตรวจสอบและป รับแต่งค่าต่างๆให้เหมาะสมที่สุด อย่างไรก็ดี F-CON S ยังจำเป็นที่จะต้องรับค่าต่างๆจากกล่อง ECU เดิมอยู่ดี หรือเป็นได้แค่ Piggy Back
ส่วน F-CON V Pro นั้นจะรับค่าต่างๆจาก sensor โดยจะประมวลผลรวมถึงปรับแต่งค่าเหล่านั้น และส่งค่าต่างๆที่ถูกกำนหดใหม่ออกจากกล่อง F-CON V Pro ไปกำหนดองสาไฟจุดระเบิดและปริมาณการจ่ายน้ำมัน ไปยังเครื่องยนต์โดยไม่จำเป็นที่จะต้องรอรับข้อมูลจา ก ECU เดิมเหมือนกับ F-CON S ส่วนข้อมูลมาตรฐานจะส่งผ่าน กล่อง F-CON V Proกลับไปที่ ECU เดิม(เช่นระบบความคุมแอร์ ) ดังนั้น F-CON V Pro ไม่จำเป้นที่จะต้องพึ่งข้อมูลเดิมจากกล่อง ECU คือสามารถทำงานได้แบบ stand alone หรือเป็นกล่องแบบ Engine Management ซึ่งทำให้ F-CON V Pro สามารถปรับแต่งข้อมูลและกำนหนดค่าต่างๆได้อิสระ กว่า
2. F-CON S จะมีค่า default ที่เป็นโปรแกรมสั่งการในขั้นเริ่มต้นมาให้ โดยจะเป็นค่าที่จะปรับแต่งเครื่องยนต์มาให้แบบ Light Tune ซึ่งค่าที่ให้มาจะเป็นของเครื่องยนต์แต่ละรหัสของรถแ ต่ละรุ่น เช่น 2JZ GTE ในรถ JZA80 เป็นต้น ซึ่งค่าเหล่านี้จะสามารถใช้ได้กับ spec รถและเครื่องยนต์นั้นๆ แม้ว่าจะเป็นเครื่องรหัสเดียวกัน แต่ว่าอยู่ในรถคนละคันก็ไม่สามารถใช้กันได้ นอกจากนี้ค่าที่ set มาใน Step Light Tune นี้จะเป็นค่าที่ถูกกำหนดมาสำหรับรถที่ใช้ octane 100 (เพราะในญี่ปุ่นเบนซินซูเปอร์จะไม่ใช่แค่ 91 ครับแต่เป็น 100 ) รวมไปถึงชุดหัวฉีดที่ใช้ต้องเป็นของเดิม และ บูสท์ไม่เกินค่าที่กำหนดไว้ด้วย ดังนั้นถ้ามีการเปลี่ยนปั้มเบนซิน หรือเปลี่ยนหัวฉีด รวมไปถึง บูสท์เกินกว่าที่กำนหด จำเป็นที่จะต้องไล่จูนป้อนค่าต่างๆที่ต้องการกันใหม่ หมด ไม่สามารถใช้ค่า default ที่กล่อง F-CON S มีมาให้ได้ แต่ถ้าทุกอย่างยังเป็น Standard ก็แค่กำหนดค่าน้ำมัน octane ใหม่ (คือยังไงก็ต้องจูนใหม่ แต่จูนนิดเดียว) ส่วน F-CON V Pro นั้นจะมาแบบว่างเปล่าเลย (เหมือนตอนก่อนเริ่มเรียนหนังสือ) ไม่มีค่า default เริ่มต้นมาให้ทำให้ทุกๆค่าจำเป็นที่จะต้องไล่ป้อนค่า กันใหม่ทั้งหมด ซึ่งจะยุ่งยากสำหรับรถที่มีสภาพ standard ชิ้นส่วนต่างๆทั้งหมดเกือบเดิมสนิท ต้องการแค่แบบ Light Tune นั้นเอง
3. F-CON S มีความฉลาดหรือที่เรียกว่าความละเอียดในการจูนนั้นน้ อยกว่า F-CON V Pro เนื่องจากหน่วยความจำในการควบคุมและสั่งการเครื่องยน ต์ของ F-CON V Pro มีจำนวนมากกว่าของ F-CON S
4. F-CON S มีราคาถูกกว่า F-CON V Pro เนื่องจากมีหน่วยความจำในการสั่งการและควบคุมเครื่อง ยนต์น้อยกว่า แต่ F-CON S สามารถปรับจูนได้ง่ายกว่า เนื่องจากมีค่า default มาให้อยู่แล้วในกล่อง (สำหรับรถที่เป็นแบบ Light Tuning) ส่วน F-CON V Pro นั้นจูนยากกว่าเยอะ เนื่องจากไม่มีค่า default เริ่มต้นมาให้ ทำให้จำเป็นต้องนั่งเขียนค่าทั้งหมดใหม่เลย นอกจากนี้ F-CON V Pro ไม่สามารถบอกทุกๆอย่างเกี่ยวกับตัวรถได้ เพราะรับสัญญาณค่าเข้าจาก sensor แล้วจึงนำค่าที่ได้ไปแปลงแล้วกำหนดองศาการจุดระเบิดแ ละปริมาณการฉีดจ่ายน้ำมันของเครื่องยนต์ แต่ไม่ได้ควบคุมระบบอื่นๆของรถ เช่นการ เปิดแอร์ปิดแอร์ ดังนั้นหากยังต้องการให้รถของคุณสามารถใช้งานได้ทุกว พันยังจำเป็นที่จะต้องพ่วง F-CON V Pro กับกล่อง ECU เดิมติดรถอยู่ดี แต่ถ้าไม่แคร์ว่าไม่มีแอร์ก็ไม่เป็นไร อากาศเมืองไทยมันโคตรเย็น จะใช้ F-CON V Pro แบบ stand alone ก็ได้ไม่มีปัญหา
5. แม้ว่า F-CON S จะมีราคาถูกกว่า และมีหน่วยความจำในการสั่งค่าและควบคุมเครื่องยนต์น้ อยกว่า F-CON V Pro รวมถึงมี range ในการจูนได้น้อยกว่า (พูดง่ายๆก็คือมีข้อจำกัดมากกว่าหากต้องการจะทำเครื่ องเยอะๆ) แต่ถ้าเป็นการจูนแบบใช้งานทั่วไปไม้ได้ boost บ้าพลัง คลั่งแรงม้า มากนัก F-CON S ก็สามารถที่จะสร้างแรงม้าและแรงบิดได้ไม่แพ้ F-CON V Pro สักเท่าไร จากตัวอย่างข้อมูลของ HKS ญี่ปุ่นมีดังนี้ครับ ในการจูน JZA 80 เครื่องยนต์ 2JZ GTE Turbo T04 R ด้วยหัวฉีดขนาด 650 cc. (ของเดิมขนาด 480 cc.) ใช้ F-CON S ในการจูนสามารถสร้างแรงม้าได้ที่ 485 แรงม้า ส่วนของ F-CON V Pro สามารถสร้างแรงม้าออกมาได้ 508 แรงม้าซึ่งจะเห็นว่า F-CON S มีแรงม้าน้อยกว่า F-CON V Pro อยู่ประมาณ 23 ตัว สำหรับบางคนอาจจะมองว่ามันเยอะนะ แต่ว่าถ้ามองในแง่ของเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มแล้วล่ะก็ มันก็น่าจะ OK ใช่ไหมครับ ส่วนความสามารถในการสร้างแรงม้าของ F-CON S กับ F-CON V ธรรมดานั้นแถบจะไม่ต่างกันเลยคือ F-CON V สามาถสร้างแรงม้าได้ 487.5 ซึ่งมากกว่า F-CON S เพียง 2.5 ตัวเท่านั้น จุดที่เหมือนกันของ F-CON S กับ F-CON V Pro ก็คือจะมี function ปลดล็อคความเร็ว และปลดล็อคบูสท์มาให้เรียบร้อยแล้วทำให้ไม่มีความจำเ ป็นที่จะต้องติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมเข้าไปอีก เอาละเมื่อเรารู้แล้วว่า กล่อง F-CON S กับ F-CON V Pro แตกต่างกันอย่างไร คราวนี้มาดูกันสิว่าเราจะสามารถใช้กล่อง F-CON S กับ F-CON V Pro ปรับแต่งและ set ค่าต่างๆ ได้อย่างไร ก่อนจะจูนเราก็ต้องติดตั้งก่อนโดยกล่อง F-CON S กับ F-CON V Pro จะมีชุด Harness ที่ใช้สำหรับต่อพ่วงเข้ากับกล่อง ECU เดิมของรถยนต์ถ้าเป็นของ F-CON S จะเป็นแบบ Plug in ได้เลยถ้ากล่องนั้นตรงกับเครื่องยนต์และรถรุ่นนั้นๆ ไม่ต้องเสียเวลาเดินสายไฟให้เมื่อยตุ้ม แต่ถ้าเป็นของ F-CON V Pro แล้วอาจจะต้องไล่สายไฟใหม่บ้างบางจุดไม่ได้เป็นแบบ plug in เหมือนกับ F-CON Sทั้งหมด แหมก็ของมันแพงต้องยุ่างยากในการใช้หน่อยสิ ซึ่งก็คงป็นหน้าที่ของช่างที่จะติดตั้งหรือไม่ก็คนจู น แต่ถ้าอยากจะลองเดินสายไฟเอาเองก็ตามสะดวกครับ แต่ส่วนใหญ่ที่ผมเห็นมักจะเป็นแบบเหมาจ่ายเหมือน Package มือถือ คือจ่ายทีเดียวรวมติดตั้ง จูน แล้วก็เก็บงาน (ส่วนหลังจากนั้นจะพังไม่พังไม่เกี่ยวแล้วนะครับ) สำหรับการปรับแต่งค่าต่างๆ เพื่อ Tune เครื่องยนต์ให้ไปตามที่เราต้องการ นั้นจะใช้ program Power Writer ซึ่งเป็น program ที่ HKS ใช้ในการปรับแต่งค่าต่างๆของ F-CON S กับ F-CON V Pro การใช้ program นี้จะทำให้สามารถควบคุม ปรับแต่งการสั่งจ่ายน้ำมันและองศาไฟจุดระเบิดกันใหม่ หมดเพื่อให้ Match กับเครื่องยนต์ที่ทำmodify ขึ้นมาใหม่ ซึ่งขั้นตอนการปรับแต่งค่าต่างๆ นั้นมีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะมาก


F-CON V Pro, F-CON V, F-CON SZ และสุดท้าย F-CON S ซึ่งก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่จะเห็นใช้กันอยู่สองรุ่นเป็นหลักนั้นก็คื อ F-CON V Pro กับ F-CON S ไม่ใช่รุ่นอื่นๆเค้าไม่ใช้กันนะ แต่ว่าส่วนใหญ่เห็นจะไป up-grade F-CON V ให้ไปเป็น V-PRO กันหมด (ไอ้กล่องสีทองๆ) หรือไม่ก็เล่น F-CON S เลย เพราะราคาถูกกว่ากันเยอะ คราวนี้ผมเลยจะถือโอกาศนำสองรุ่นยอดฮิตมาเล่าให้ฟังว ่ามันแตกต่างกันอย่างไร บางคนอาจจะรู้แล้ว บางคนอาจจะรู้แล้ว บทความนี้อาจจะน่าเบื่อไปบ้าง แต่ผมพยายามที่จะเรียบเรียงให้เป็นภาษที่อ่านง่ายๆ ยังไงก็ลองอ่านกันดูละกันนะครับหลายคนอาจจะเคยได้ยิน คำว่า Piggy Back มาก่อนซึ่งถูกแล้วล่ะครับ F-CON นี้ทั้งหมดเป็น Piggy Back แต่มีอยู่รุ่นเดียวที่สามารถใช้แทนกล่อง ECU เดิมๆได้เลยโดยไม่ต้องพ่วงนั้นก็คือ F-CON V Pro ซึ่งสามารถเป็น Stand Alone หรือ Engine Management ได้ (เดี๋ยวผมจะกล่าวที่หลังเดี๋ยวหมดมุข) เอาเป็นว่าเราไปทำความรู้จักกับ Piggy Back กันก่อนดีกว่า

Piggy Back เป็นอุปกรณ์ Electronics ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ไปในลั กษณะต่างๆตามที่ผู้จูนต้องการได้ อย่างไรก็ดี Piggy Back ยังคงต้องต่อพ่วงกับกล่อง ECU เดิมๆ และ Piggy Back ยังสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทได้ดังนี้:

1. Piggy Back ประเภทดักสัญญาณขาเข้า (Input) ก่อนเข้ากล่อง ECU

โดยจะทำหน้าที่แปลงสัญญาณหลังการอ่านค่าของ sensor เป็นรูปแบบของแรงดันกระแสไฟฟ้าหรือความถี่ (แล้วแต่ชนิดของ sensor) ก่อนเข้ากล่อง ECU เพื่อเป็นการประมวลผลในการสั่งจ่ายน้ำมัน,ไฟจุดระเบิ ด เป็นไปตามที่ต้องการ (เปลี่ยนไปจากที่โรงงานตั้งมาก่อนที่จะเข้ากล่อง ECU) เช่น ตอนแรก ณ.ระดับ 2500 RPM มีการวัดระดับไฟได้ที่ 1.2V หลังติดตั้ง Piggy Back เข้าไป Piggy Back จะเปลี่ยนค่าไฟจาก 1.2 V ไปเป็น 1.4V ตามที่เราจูนก่อนที่จะส่งสัญญาณไปเข้ากล่อง ECU นั้นเอง หรือเรียกง่ายๆว่าเป็นการหลอก ECU ให้อ่านค่าเป็นไปตามที่เราต้องการ โดยแปลงสัญญาณจาก sensor ที่ส่งมาก่อนที่จะส่งเข้า ECU

อย่างไรก็ดี Piggy Back ประเภทนี้จะมีขีดจำกัดในการปรับแต่ง เนื่องจากเป็นแบบดักสัญญาณก่อนส่งเข้ากล่อง จึงไม่สามารถที่ปลดรอบเครื่อง หรือสั่งให้หัวฉีด ”ยก” ได้เกินกว่าเดิม เพราะทั้งหมดจะถูกล็อคและสั่งการโดยการประมวลผลของ ECU คือออกมาจาก ECU เลยไม่ได้มาจากการอ่านค่าของ sensor แล้วค่อยส่งเข้ามา

ดังนั้นเจ้า Piggy Back แบบนี้ก็หมดสิทธ์ที่จะไปดักสัญญาณก่อนเข้า (เหมือนผมหมดโอกาศที่จะไปดักเจอและหลอก Paula Taylor ระหว่างทางให้เธอหลงเข้าบ้านผมแทน เพราะเธอไม่ได้ผ่านมาแถวนี้) ทำให้กล่องประเภทนี้ ทำได้เพียง ปลดล็อคความเร็ว เพิ่มบูสท์ เปลี่ยนและปรับ Map ของน้ำมันกับไฟ เปลี่ยนจังหวะการเปิดปิดของ Valveแปรผัน (พวก Vtec-VVTi) และลูกเล่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูลหลักของกล่อง ECU เช่นคุมหัวฉีด และอื่นๆ

ส่วนความละเอียดในการปรับจูนนั้นก็ขึ้นอยู่กับชนิดขอ ง Piggy Back ชนิดนั้นๆ บางประเภทถูก Fix ตำแหน่งในการปรับมาได้ไม่กี่ที่เช่น พวก APEXi S-AFC / V-AFC ส่วนที่สามารถปรับได้ละเอียดทุกๆย่านความเร็วและรอบเ ครื่องเช่น Perfect Power ของ Smart Tuner (ซึ่งอันนี้บ้านเราไม่ฮิต) เป็นต้น

2. Piggy Back ประเภทดักสัญญาณขาออก (Out-put) จากกล่อง ECU

โดยกล่องประเภทนี้จะดักสัญญาณที่ส่งออกมาจากกล่อง ECU มาเข้าที่ตัวเองก่อนแล้วปรับแต่งค่าต่างๆของสัญญาณให ้เป็นไปตามที่ต้องการก่อนที่จะส่งค่าแรงดันกระแสไฟฟ้ าที่ปรับแต่งแล้ว ไปสู่หัวฉีดหรือ Ignition Module ทำให้ Piggy Back ประเภทนี้สามารถที่จะปรับแต่งเครื่องยนต์ได้อิสระมาก กว่าแบบแรก (เหมือนกับถ้าผมไปดัก Paula ตั้งแต่หน้าบ้านของเธอ ผมก็มีโอกาศที่จะหลอกเธอให้ไปกับผมและทำตามที่ผมต้อง การได้มากกว่าต้องไปดักรอเธอตอนกลับจากข้างนอก) เช่น Power FC และ F-CON ของ HKS ก็รวมอยู่ในชนิดหลังนี้ด้วย

ส่วน Engine Management จะมีหลักการทำงานโดยอิสระไม่ขึ้นกับ ECU เพราะจะใช้การประมวลผลที่ตรวจวัดโดยตรงของ sensor ซึ่งมีทั้งแบบที่ให้ใช้กับ sensor และสายไฟเดิมได้เลย ไม่ต้องมานั่งเดินสายไฟกันใหม่หมด แต่แบบนี้ก็มีจะมีข้อจำกัดเช่นหาก sensor เดิมรับบูสท์ได้เพียงแค่ 1.0 BAR แต่เราต้องการ Boost 1.5 BAR ก็ต้องมานั่งเปลี่ยน sensor กันใหม่หมด

ส่วนอีกประเภทหนึ่งก็คือใช้ sensor ที่ติดมากับกล่อง Engine Management ซึ่งจะเสียเวลายุ่งยากในการติดตั้งเพราะต้องเดินสายไ ฟและ sensor ใหม่หมด แต่ข้อดีก็คือเราสามารถที่จะเลือกค่าต่างๆในการอ่านค ่าสัญญาณ ได้ตามใจคนจูน ที่นี้จะบูสท์กันกี่ BAR ก็ตามแต่สะดวก นอกจากนี้จุดเด่นของ Engine Management คือการที่มี function ต่างๆที่มีให้เล่นกันหลากลหาย (แล้วแต่ยี่ห้อนะครับ บางยี่ห้อก็เป็น function มาตรฐานบางยี่ห้อก็เป็น option ที่ต้องเสียตังค์เพิ่มเอง) เช่น Anti-Lag

โดยกล่องประเภท Engine Management นั้นส่วนใหญ่จะลงชื่อด้วย tech ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น Motec Haltec Microtech และยังรวมไปถึง Power FC และ F-CON V Pro (เท่านั้นนะครับ F-CON ตัวอื่นๆไม่เกี่ยว) ที่สามารถเป็นได้ทั้ง Piggy Back และ Engine Management ได้ด้วย แล้วแต่จะเลือก

หลังจากที่รู้แล้วว่า Engine Management กับ Piggy Back มีคุณสมบัติแตกต่างกันอย่างไร เราลองมาดูกันดีกว่าว่า เจ้ากล่อง F-CON เนี่ยมันมีประวัติความเป็นมาอย่างไร

กล่อง F-CON เป็นผลผลิตของบริษัท HKS ที่ได้ทำการคิดค้นและพัฒนาอุปกรณ์ที่จะใช้ในการควบคุ มระบบเชื่อเพลิงและการจุดระเบิด โดยปู่ของเจ้า F-CON มีชื่อว่า Programmed Fuel Computer System หรือที่เรารู้จักในชื่อ PFC F-CON โดยมันถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกบวมๆใบนี้ตั้งแต่ปี 1985 นู้น โดยมันสามารถปรับจูนปริมาณการฉีดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิ งฝนแต่ละรอบเครื่องยนต์และความดันในท่อร่วมไอดีทุกๆค ่าได้

อย่างไรก็ดีมันยังไม่มี Function FCD (Fuel Cut Defencer) หรือที่เรารู้จักกันในนามตัวป้องกันการตัดน้ำมัน และตัว GCC (Graphic Control Computer) ซึ่งเป็นตัวทำหน้าที่ปรับค่าการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง และองศาการจุดระเบิดของเครื่องยนต์ ทำให้ต้องพ่วงอุปกรณ์เสริมทั้งสองอย่างนี้อยู่ตลอด

Feature Story: F-CON Series
F-CON for Dummies...


ก่อนอื่นเลยต้องขออภัยที่ดองบทความนี้ไว้นานมากจนแถบ บูด เนื่องจากมีข่าวและเหตุการณ์ใหม่ๆเกิดขึ้นมากมายในโล กยานยนต์ ไม่ว่าจะเป็นภาพ version ผลิตจริงๆของ Series 3 E90 หรือการเปิดตัวครั้งแรกของ Ferrari รุ่นต่อของ F360 หรือที่เรียกว่า F430 Modena Evoluzione ทำให้เราอยากจะนำเสนอบทความที่กล่าวมาก่อน เลยทำให้บทความเกี่ยวกับกล่อง ECU นี้ถูกเลื่อนออกไปเรื่อยๆ จนพึ่งมีโอกาศนำมาเสนอนี่แหละ เอาเป็นว่าเพื่อนๆชาว Motortoday คงไม่โกรธกันนะคร้าบ



โดยครั้งนี้เราจะเอาใจคนชอบ modify บ้าง เพราะปัจจุบันเห็นฮิตกันเหลือเกินสำหรับการจะตกแต่งร ถสักคันให้สามารถแสดง performance ออกมาได้เต็มที่เหมือนกับกินไวอากร้า แน่นอนว่าสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในยุคนี้คงไม่พ้นรกล่อง ที่ปรับจูนได้ โดยคราวนี้ผมจะนำเสนอเกี่ยวกับกล่อง ECU ยอดฮิตติดลมบน สำหรับรถญี่ปุ่น แน่นอนว่าคงไม่พ้น F-CON ซึ่งมีหลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น F-CON V Pro, F-CON V, F-CON SZ และสุดท้าย F-CON S ซึ่งก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่จะเห็นใช้กันอยู่สองรุ่นเป็นหลักนั้นก็คื อ F-CON V Pro กับ F-CON S ไม่ใช่รุ่นอื่นๆเค้าไม่ใช้กันนะ แต่ว่าส่วนใหญ่เห็นจะไป up-grade F-CON V ให้ไปเป็น V-PRO กันหมด (ไอ้กล่องสีทองๆ) หรือไม่ก็เล่น F-CON S เลย เพราะราคาถูกกว่ากันเยอะ คราวนี้ผมเลยจะถือโอกาศนำสองรุ่นยอดฮิตมาเล่าให้ฟังว ่ามันแตกต่างกันอย่างไร บางคนอาจจะรู้แล้ว บางคนอาจจะรู้แล้ว บทความนี้อาจจะน่าเบื่อไปบ้าง แต่ผมพยายามที่จะเรียบเรียงให้เป็นภาษที่อ่านง่ายๆ ยังไงก็ลองอ่านกันดูละกันนะครับ

หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า Piggy Back มาก่อนซึ่งถูกแล้วล่ะครับ F-CON นี้ทั้งหมดเป็น Piggy Back แต่มีอยู่รุ่นเดียวที่สามารถใช้แทนกล่อง ECU เดิมๆได้เลยโดยไม่ต้องพ่วงนั้นก็คือ F-CON V Pro ซึ่งสามารถเป็น Stand Alone หรือ Engine Management ได้ (เดี๋ยวผมจะกล่าวที่หลังเดี๋ยวหมดมุข) เอาเป็นว่าเราไปทำความรู้จักกับ Piggy Back กันก่อนดีกว่า

Piggy Back เป็นอุปกรณ์ Electronics ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ไปในลั กษณะต่างๆตามที่ผู้จูนต้องการได้ อย่างไรก็ดี Piggy Back ยังคงต้องต่อพ่วงกับกล่อง ECU เดิมๆ และ Piggy Back

Article By : Narun Lee

ออฟไลน์ name_joker

  • *
  • กระทู้: 684
  • Popular Vote : 24
Re: รบกวนขอความรู้กล่อง e-manage , s-afc , power fc ครับผม
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กันยายน 28, 2009, 05:33:46 pm »
อ่อ อีกเรื่องครับ คุ้นๆเหมือนเคยโทรไปถามพี่ที่จูนกล่องคนหนึ่ง พี่เค้าว่าGCจะreflashไม่ได้นะครับ ต้องตั้งแต่GDขึ้นไปเลยครับผม

ออฟไลน์ SilverGC

  • *
  • กระทู้: 1,958
  • Popular Vote : 20
    • อีเมล์
Re: รบกวนขอความรู้กล่อง e-manage , s-afc , power fc ครับผม
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กันยายน 28, 2009, 05:40:44 pm »
อ่ะ แยกประเด็นก่อน อุปกรณ์ทั้ง 3 ตัวนี้คนละประเภทกันนะครับ

1.) e-manage เป็นกล่อง piggy back หรือกล่องพ่วง ซึ่งจะต้องใช้กล่องเดิมควมคุมการทำงานอยู่ แต่จะพ่วงกล่องตัวนี้ไปเพื่อหลอกสัญญาณเข้ากล่องเพื่อให้สามารถปรับจูนน้ำมันและไฟได้ตามต้องการ ซึ่งกล่องประเภทนี้นอกจาก e-manage แล้วยังมี F-con ตระกูล S ของ HKS อีกตัวที่มีคุณสมบัติเดียวกัน แต่ได้ยินว่าของ HKS จะทำงานได้ดีกว่า

2.) Power FC เป็นกล่องที่ใส่แทนกล่องเดิม โดยจะมีโปรแกรมพื้นฐานของเครื่องตัวนั้นๆอยู่ และสามารถปรับจูนทีหลังได้ แต่ตัวนี้จะเป็นของใครของมัน ใช้ข้ามรหัสเครื่องไม่ได้

3.) S-afc อันนี้เป็นเพียงอุปกรณ์ปรับแต่งการจ่ายน้ำมัน ไม่สามารถปรับแต่งองศาจุดระเบิดได้ แต่ด้วยราคาของเจ้า AFC neo ตัวใหม่ค่อนข้างแพง คือถูกกว่าพวก piggy back นิดเดียว การลงทุนด้าน piggy back น่าจะคุ้มค่ากว่า

ส่วนเรื่อง reflash ถ้าเป็นเครื่องคอแดงของ GC ไม่สามารถทำได้ ต้องใช้ option 3 ตัวด้านบนเท่านั้นครับ

ออฟไลน์ Bossma

  • ???
  • *
  • กระทู้: 5,157
  • Popular Vote : 146
    • อีเมล์
Re: รบกวนขอความรู้กล่อง e-manage , s-afc , power fc ครับผม
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กันยายน 28, 2009, 05:49:10 pm »
ไม่รู้ว่าตรงกับความต้องการของ จขกท ป่าวนะครับ แต่ลองเอามาให้อ่านดู  :supergrin: :supergrin: :supergrin:

ข้อมูลอาจจะคลาดเคลื่อนต้องขออภัยครับ ( ค้นจากกะทู้เก่ามาครับ )

Safc APeX

mega fireเดี่ยว เสียบได้เลย

กล่อง REvalution ecu shop เดี่ยว ต้องเดินสาย ใส่กระบะจุนกัน สองร้อยกว่าม้ามาแล้ว

F Tune จุนไฟยังไม่ค่อยได้ รออีกนิดน่ามีเฮ

emanage blue จูนน้ำมันได้ ไฟ นิดหน่อยกล่องพว่ง ต้องเดินสาย ใช้แอโฟ

emanage untimate จุนน้ำมัน ไฟได้ ไม่มีลูกเล่นมาก กล่องพ่วง ต้องเดินสาย ใข้ แอโฟ

intercepter haltec picky back ต้องเดินสาย ใช้แอโฟ

fcon sz กล่องพ่วง ต้องเดินสาย ใช้ แอโฟ

EMS 4424 กล่องเดี่ยว ไม่ต้องใช้แอโฟ แต่ไม่มีคนจูน ที่ไว้ใจได้

power fc กล่องเดี่ยว ไม่ต้องเดินสาย เสียบปุ๊บ จุนปั้บ ข้อเสีย รุ่นใครรุ่นมัน ไม่มีลูกเล่นมาก ใช้ แอโฟ

EMS 8860 มีล็อกรอบ ไม่ต้องใช้แอโฟ กล่องดี ไม่มีคนจูน

Microtech นิยมกันใน อาเอ็ก เซเว่น แต่ความจิงก้อใช้ได้กับรถหลายรุ่นเหมือนกันมะค่อยมีค นจุน

Hydra EMS ปรับบูส เทอร์โบทามเมอ Antilag ลูกเล่นมากมาย แต่คนจุนมะค่อยมี

F con V ไม่ต้องใช้แอโฟ มี ล็อกรอบ ออกตัว เข้าเกีย ไม่ต้องยกคันเร่ง กล่องเดี่ยว

F Con V pro กล่องดี ฉลาด ใหม่สด เสมอ มี ล็อกรอบ Flat shiff คนจูนเยอะ ละเอียดดี ลูกเล่นเพียบ แต่ไม่มี Anti lag stan alone non air flow

HALL TECH E6 กล่องดี คนจุน เยอะ มีบริษัท รองรับ มีล็อกรอบ เข้าเกียไม่ต้องยกคันเร่ง Anti lag stan alone non air flow

Hall Tech E8 same same e6 but out put เยอะ กว่า รายละเอียดโปรดถามจานยศ เพราะมันเยอะมากๆ

GEMS กล่องใบนี้ เทียบเท่าโมเทคเลยคับ โมเทคมีอะไร เค้าก้อมีเหมือนกาน แต่ความนิยมน้อย และคนจุนน้อยคับ


Motec ทั้งหลายแหล่ มีทุกอย่างที่คุณต้องการ คับ มันยอดมาก ราคามหาโหด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 28, 2009, 05:53:14 pm โดย bossma »

ออฟไลน์ จิ๊กโก๋อกหัก

  • ทีมนักปั่นพลังหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 1,147
  • Popular Vote : 125
    • Tia's Facebook
Re: รบกวนขอความรู้กล่อง e-manage , s-afc , power fc ครับผม
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กันยายน 28, 2009, 06:19:30 pm »
ตอบรวดเร็วมากเลยครับ

แสดงว่าเท่าที่อ่านมาเสตปเริ่มต้น e-manage น่าจะเป็นตัวเลือกต้นๆใช่มั้ยครับ
เพราะของหาง่าย แถมคนจูนน่าจะมีเยอะ

แต่ถ้าหา Power FC ได้ก็น่าจะดีกว่า

มีใครพอจะแนะนำเพิ่มได้อีกมั้ยครับ

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ winman1394

  • *
  • กระทู้: 86
  • Popular Vote : 0
  • Standard Use Car
    • อีเมล์
Re: รบกวนขอความรู้กล่อง e-manage , s-afc , power fc ครับผม
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กันยายน 28, 2009, 07:18:27 pm »
Power FC สถานเดียวครับ
Tune By
STi
Sunoco
Nong V-Pro
Power Speed
Dixcel by P'S Narasak

ออฟไลน์ pao

  • *
  • กระทู้: 410
  • Popular Vote : 1
    • อีเมล์
Re: รบกวนขอความรู้กล่อง e-manage , s-afc , power fc ครับผม
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กันยายน 28, 2009, 10:48:55 pm »
ดูที่ความต้องการ ข้อจำกัด ข้อกำหนดของตัวเองก่อนละครับ อันนี้แต่ละคนคงไม่เหมือนกัน พูดเหมือนกันแต่ความรู้สึกที่อยากได้หรือที่ได้มาก็พอใจต่างกันอีกครับ

emanage กล่องฟ้า ราคาย่อมเยา กว่า ปรับได้ไม่มากเท่า fc แต่น่าจะติดตั้งปรับจูนง่าย ดีตรงโปรแกรมจูนหาได้ทั่วไป อยากจูนลองเล่นเองก็ได้ หาคนจูนก็ได้
ขายต่อก็น่าจะปล่อยง่ายขายคล่องกว่า ถ้าไม่พอใจอยากขยับ

power fc แพงกว่า แต่ต้องหาตรงรุ่นเครื่อง รุ่นปี ไม่ต้องมีสาย เพราะกล่องมันจะตรงกับปลั๊กรุ่นใครรุ่นมัน ถอดสลับกล่องโรงงานได้เลย มีตารางพื้นฐานของรถมาให้ แต่ยังไงก็ต้องปรับอยู่ดี
ใช้ commander ได้ แต่ลำบากนิดนึง แต่ก็ยังใช้ได้ครับ แค่อาจจะเล่นบางฟังก์ชั่นไม่ได้ที่ต้องใช้ปรับจากโปรแกรมผ่านคอม
สามารถต่อยอดจูนเพิ่มเติมถ้าจะโมเพิ่มเติมได้อีก น่าจะซัพพอร์ทได้อีกพอควรเลยทีเดียว ที่ญี่ปุ่นเอง ก็เล่น fc กันมานานเห็นได้ผลดีๆกันเยอะครับ มันแค่เก่าและหมดรุ่นไม่ทำรุ่นใหม่ๆออกมามันเลยเงียบจางหายไป

ถ้าจะจูนใช้โปรแกรมต้องหาคนมีโปรแกรม ไม่ได้โหลดได้ทั่วไปเหมือนอีเมเนจ แต่ก่อนจะต้องเป็นดีลเลอร์ของ apexi ถึงจะมีโปรแกรมเค้า ลำบากนิดนึง
แต่ก็มีโปรแกรมแครกมาเหมือนกัน แต่แพงหน่อย หมื่นกลางๆ เพราะต้องมีกล่องสายพ่วงอีกทีครับ บ้านเราก็มีจูนเนอร์เยอะพอควร ที่ดีๆ  แต่ต้องหาต้องคุยดูดีๆหน่อยนึง
โปรแกรมที่พูดถึงที่ใช้กันในหมู่คนเล่นเอฟซีครับ http://www.fc-datalogit.co.nz/index.html


คนจูนเยอะ ไม่ใช่ว่าจะดีเยอะนะครับ ไม่ได้ดูถูกแต่ที่เห็นๆ พอเล่นๆเป็นก็รับจ้างกันแล้ว ไม่เข้าใจ
จูนเครื่อง กล่องเป็นแค่เครื่องมืออุปกรณ์ตัวนึงครับ คนจูนที่สำคัญกว่าครับ คนจูนเก่งๆ ให้จูน อีเมเนจ ก็จะดีกว่า ผมไม่รู้เรื่องรู้ราวไปนั่งปรับ fc หรือ fcon



ผมเองก็ใช้ gc เครื่อง คอแดง ver6 เหมือนกันครับ รีเฟรช ไม่ได้ชัวร์ หาข้อมุลมานานมาก ลุ้นแล้วลุ้นอีก มีที่พอได้ก็ ecutek แต่คิดว่าไม่ค่อยยืดหยุ่นและแพง
ตอนนี้มี fc อยู่ แต่ยังวางอยู่เลยหลายเดือนละไม่ได้ต่อซักที ฮ่าๆ

ร้านเปิดเมื่อไหร่ครับ เห็นเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาเอง ยังชอบชื่อร้านอยู่เลยครับ

ออฟไลน์ จิ๊กโก๋อกหัก

  • ทีมนักปั่นพลังหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 1,147
  • Popular Vote : 125
    • Tia's Facebook
Re: รบกวนขอความรู้กล่อง e-manage , s-afc , power fc ครับผม
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กันยายน 29, 2009, 12:53:37 am »


ส่วนตัวก็ลังเล E-Manage กับ Power Fc แต่คิดว่าน่าจะจบที่ Power FC ครับถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด

ตอนนี้รถผมจอดอยู่ที่อู่ ทำเครื่อง ช่วงล่างและเบรคให้เรียบร้อยก่อนกลับสีและแปลงเป็น V.4 ให้ดูเชยตามไสตล์ผม ไว้รถเสร๊จแล้วจะเอามาให้พี่ๆในนี้ดูกันครับ

ขอบคุณสำหรับชื่อร้านครับ ส่วนตัวผมเองเป็นคนชอบอะไรไทยๆและเชยๆอยู่แล้ว  สังเกตุจาก log in พอมีโอกาสได้เปิดร้านล้างรถ ก็เลยอยากจะตั้งชื่อให้มันแสดงออกถึงความเป็นไทย  เพราะภาษาไทยนั้นมันมีหลายคำหลายประโยคที่มีสัมผัสที่สวยงาม น่านำมาใช้ คำว่าล้างละมุนเองก็เช่นกัน ผมนั่งคิดไปคิดมาหลายชื่อ มาได้ชื่อนี้ตอนนั่งทำภารกิจในห้องน้ำ

จริงๆแล้วนอกจาก จิ๊กโก๋อกหักแล้วผมยังมีเพื่อนอีกคน ตั้งชื่อว่า จิ๊กโก๋สมหวัง ครับ เราสองคนมี GC สีขาวคนละคัน เป็นสมาชิกใหม่ด้วยกัน หากไปที่ร้านก็จะเห็นรถเราสองคนจอดอยู่ครับ

ขอบคุณพี่ๆทุกท่านสำหรับคำแนะนำดีดีอีกครั้งครับ




ออฟไลน์ โอ_Imp

  • SSS FC / Shirt # 9
  • *
  • กระทู้: 3,038
  • Popular Vote : 1
  • MY08 STi(GRB) JDM
    • http://hatcha23.multiply.com
Re: รบกวนขอความรู้กล่อง e-manage , s-afc , power fc ครับผม
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กันยายน 29, 2009, 09:07:45 am »
แอบมาดู อิอิ
◄◄◄◄◄◄ Brand-new GT3 ►►►►►►

ออฟไลน์ Chaiwatinov

  • *
  • กระทู้: 630
  • Popular Vote : 10
    • http://www.facebook.com/profile.php?id=100001433686301
    • อีเมล์
Re: รบกวนขอความรู้กล่อง e-manage , s-afc , power fc ครับผม
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กันยายน 29, 2009, 11:18:56 am »
แล้ว แมว wrx ใช้อะไรดีครับ
อย่าให้คนไม่รู้จักซูบารุทำซูบารุ
คบเพื่อนอย่ามีเรื่องเงินไม่งั้นโดนหลอก

ออฟไลน์ จิ๊กโก๋อกหัก

  • ทีมนักปั่นพลังหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 1,147
  • Popular Vote : 125
    • Tia's Facebook
Re: รบกวนขอความรู้กล่อง e-manage , s-afc , power fc ครับผม
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กันยายน 29, 2009, 02:30:20 pm »
แอบมาดู อิอิ

ไม่เจอน้องโอนาน ยังมีอารมขี่มอไซอยู่มั้ยน้อง....

 :clown:

ออฟไลน์ PEPE

  • *
  • กระทู้: 46
  • Popular Vote : 0
Re: รบกวนขอความรู้กล่อง e-manage , s-afc , power fc ครับผม
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กันยายน 30, 2009, 02:30:59 pm »
Power FCครับ เพราะใช้อยู่ครับ แล้วเสาร์ที่10 ตค. ไปเป็นinstructor ด้วยรึเปล่าครับ อ้อร้านชื่ออะไรครับ เปิดเมื่อไร

ออฟไลน์ จิ๊กโก๋อกหัก

  • ทีมนักปั่นพลังหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 1,147
  • Popular Vote : 125
    • Tia's Facebook
Re: รบกวนขอความรู้กล่อง e-manage , s-afc , power fc ครับผม
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กันยายน 30, 2009, 11:45:29 pm »
Power FCครับ เพราะใช้อยู่ครับ แล้วเสาร์ที่10 ตค. ไปเป็นinstructor ด้วยรึเปล่าครับ อ้อร้านชื่ออะไรครับ เปิดเมื่อไร

ร้านชื่อ ล้างละมุนครับพี่

เสาร์ที่ 10 ตค. คงพลาดอีกตามเคยครับ เพราะน่าจะต้องรีบมาดูร้านเพราะใกล้เปิด แต่ล๊อคตัวเองไว้ให้กับเพื่อนๆใน pantip.com สิ้นปีครับ ขัดสนิมตัวเองซักหน่อย

 :spiny:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 01, 2009, 12:09:25 am โดย จิ๊กโก๋อกหัก »

ออฟไลน์ chart

  • *
  • กระทู้: 15
  • Popular Vote : 0
Re: รบกวนขอความรู้กล่อง e-manage , s-afc , power fc ครับผม
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2009, 12:02:05 am »
  F Con V pro กล่องดี ฉลาด ใหม่สด เสมอ มี ล็อกรอบ Flat shiff คนจูนเยอะ ละเอียดดี ลูกเล่นเพียบ แต่ไม่มี Anti lag stan alone non air flow
...

ขอรบกวนขอความรู้ หน่อยครับพี่

   อยากรู้ว่า F Con V pro 3.3 ตัวใหม่ได้มีการปรับปรุง ให้ มี  Anti lag หรือไม่ครับ

ขอบคุณมากครับ .................... :agree: