ผู้เขียน หัวข้อ: อยากรู้ว่าส่วนใหญ่ที่เราเหยียบ(คันเร่ง)แรงๆอะคับมันจะทำให้รถเป็นอะไรรึป่าวคับ  (อ่าน 5004 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ pondkup

  • *
  • กระทู้: 18
  • Popular Vote : 0
อยากรู้อะคับ พอดีว่าชอบเหยียบหนักๆ แล้วมาเจอคนพูดถึงเรื่องเหยียบหนักๆ เลยกลัวว่ามันจะเป็นอะไรรึป่าว

ออฟไลน์ norm

  • *
  • กระทู้: 317
  • Popular Vote : 3
  • duh
อ่านแล้วงงนะ เหยียบแรงๆแล้วจะเป็นอะไรมั๊ยหรอ ถ้าใส่รองเท้าแตะแล้วเหยียบแรงๆ ระวังจะเหยียบพลาดโดนมุมคมๆ เล็บฉีก เป็นผลเสียต่อรถก็คือรถจะเลอะเลือดครับ สกปรก  :a129:

ถ้าเหยียบแรงๆ หมายถึง ชอบซัดชอบขับเร่งเร็วๆเป็นประจำ อันนี้ผมว่าก็ชอบกันทุกคนล่ะครับ มันจะเป็นอะไรรึเปล่า มันก็จะเปลืองน้ำมันครับ อันตรายต่อเพื่อนร่วมทาง หนวกหู รถก็จะสึกหรอเร็วครับ

โอเครับทราบ ผ่าน  :a11:

ออฟไลน์ Chaiwatinov

  • *
  • กระทู้: 630
  • Popular Vote : 10
    • http://www.facebook.com/profile.php?id=100001433686301
    • อีเมล์
อย่าให้คนไม่รู้จักซูบารุทำซูบารุ
คบเพื่อนอย่ามีเรื่องเงินไม่งั้นโดนหลอก

ออฟไลน์ Qiang

  • *
  • กระทู้: 85
  • Popular Vote : 1
    • อีเมล์
จากข้อข้างบน ยังมีผลข้างเคียงทำให้เกิดโรค Moneyphilia ด้วยครับ...


 :a119:

โรค " MONEYPHILIA "    โรคทรัพย์จาง
ศัพท์ทางวิชาการว่า MONEYPHILIA เป็นคำสมาสระหว่างคำว่า MONEY และ PHILIA
มี ลักษณะคล้ายกับโรค HEMOPHILIA ซึ่งโรค HEMOPHILIA ผู้ป่วยจะมีอาการเลือดไหลไม่ หยุด และโรคชนิดนี้มิได้ติดต่อทางพันธุกรรม
แต่ MONEYPHILIA เป็นโรคที่เงินไหล ออกจากกระเป๋าไม่หยุด จนเกิดทรัพย์จางได้

การติดต่อ
โรคนี้มิได้ติดต่อทาง พันธุกรรมเช่นกัน แต่ติดต่อกันเฉพาะกลุ่มบุคคลที่มีรายได้น้อย ถึงปานกลาง ซึ่ง ไม่สามารถจัดสรรรายได้ให้ได้ สัดส่วน กับรายจ่าย ว่ากันง่าย ๆ ก็คือรายจ่าย มากกว่ารายได้นั่นเอง ในทุกวันนี้โรคดังกล่าวได้เริ่มระบาดในหมู่คนไทยที่มีราย ได้น้อย ถึงรายได้ปานกลางมาสองสามปีแล้ว ทำให้ส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจในการ ดำเนินชีวิต ตลอดจนบั่นทอนความเจริญก้าวหน้า ในหน้าที่การงาน บั่นทอนสุขภาพ บั่นทอนชีวิตครอบครัวและสังคมโดยร่วม ดังนั้น เราจึงควรศึกษารายละเอียดของโรค นี้ เพื่อหาวิธีหลีกเลี่ยงหรือป้องกันแต่เนิน ๆ

ระยะฟัก ตัวของโรค
เชื้อจะเริ่มฟักตัวประมาณวันที่ 15 ของเดือน แต่ก็ไม่แน่ ทุกคนไป เพราะบางคนเชื้ออาจจะเริ่มฟักตัวได้ตั้งแต่วันที่ 5 ของเดือนก็มี และ บางรายอาการรุนแรงจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ของเดือนทีเดียว อาการจะปรากฏเร็วหรือ ช้า รุนแรงหรือไม่รุนแรง ขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อ และชนิดรายได้ของแต่ละบุคคล ซึ่งแบ่งตามพฤติกรรมในการจับจ่ายใช้สอยของผู้ป่วย อีกทั้งขึ้นอยู่กับลักษณะของ โรคแทรกซ้อนที่มือด้วย ว่าเป็นโรคมือเติบหรือไม่ หากเป็นโรคมือเติบด้วย จะยิ่ง ทำให้การรักษา หรือป้องกันเป็นไปได้ยาก และระยะฟักตัวของโรคก็จะรวดเร็ว อีกทั้ง อาการก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้น


อาการ
ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการเหม่อลอย ไม่สบตาผู้อื่นโดยเฉพาะ เจ้าหนี้ เหงื่อซึมออกตลอดเวลา หงุดหงิด สูญเสียความเชื่อมั่น ไร้สมาธิในการทำ งาน เบื่ออาหาร หิวแต่ทานไม่ลง เพราะอาหารน้อย คุณภาพต่ำเนื่องจากด้อยกำลัง ซื้อ รสชาติไม่ถูกปาก ผู้ป่วยบางรายมีอาการรุนแรงถึงกับทำอัตวินิบาตกรรม บางราย มีอาการผวาเมื่อถูกเรียกชื่อ พวกที่มีอาการรุนแรงบางจำพวกจะทำการประชดชีวิตโดย การเดินมาทำงาน แทนการโดยสารรถประจำทาง หรือแท็กซี่ หรือพยายามขึ้นรถโดยสารที่ มีคนแน่นมาก ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับกระเป๋ารถเมล์ หรือเพื่อที่จะได้ หลบหลีกระหว่างบันไดหน้ากับบันไดหลังสลับไปมาได้รวดเร็ว และ ทันท่วงที อีกทั้ง เพื่อพยายามให้ได้รับอากาศที่ปลอดโปร่ง จะได้กินลมเพื่อลดอาการหน้า มืด


การป้องกัน
ไม่ควรนำเด็กหรือสัตว์เลี้ยงเข้าใกล้ เมื่อผู้ป่วยมี อาการหงุดหงิด มิฉะนั้นจะได้รับอันตรายจากผู้ป่วยได้ ไม่ควรนำของมีค่าเข้าใกล้ ในระยะสายตาและมือเอื้อมถึง

การรักษา
ยังไม่มียาชนิดใดที่ จะบำบัดโรคนี้ได้โดยตรงในปัจจุบัน แต่สามารถรักษาได้ตามอาการที่ปรากฏ เช่น
ผู้ป่วยมีอาการปวดศีรษะ (เป็นกัน โดยมาก) ก็ควรใช้ยาลดไข้ 1-2 เม็ด ทุก 4 ชั่วโมง ได้แก่ยาพาราเซตามอล ไม่ควรใช้ กับผู้ป่วยที่เป็นโรคกระเพาะ
ถ้าผู้ ป่วยมีอาการหงุดหงิด กระสับกระส่าย นอนไม่หลับ ควรใช้ยาคลายประสาท ตามที่แพทย์ แนะนำ ห้ามใช้เกินขนาด เพราะจะเกิดอันตรายต่อผู้ป่วยได้ (ห้ามใช้สตริกนินโดย เด็ดขาด)
ควรให้ผู้ป่วยได้ออกกำลังกาย พักผ่อน ในที่ลับตาคน อย่าพาผู้ป่วยออกนอกบ้าน เพราะอาจเผชิญหน้ากับเจ้าหนี้ ได้ การกระทำเช่นนี้นอกจากจะไม่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นแล้ว กลับจะมีอาการ ทรุดหนักลงเรื่อย ๆ อาการดูน่าเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย แต่อาการของผู้ป่วยจะ กระเตื้อง ตื่นเต้นได้อีกครั้งก็ถึงตอนปลายเดือนนั้น ๆ แต่บางรายก็ไม่ดีขึ้น กลับทรุดหนักลงไปอีก เนื่องจากการอักเสบของดอกเบี้ย

ไม่ควรนำผู้ป่วยไป รักษายังโรงพยาบาลเอกชนเพราะอาจจะทำให้เกิดอาการช็อคได้ เมื่อเห็นใบแจ้งหนี้ ทางที่ดีควรนำไปรักษายังสถานธนานุเคราะห์,สถานธนานุบาล โดยให้ผู้ป่วยนำของที่มี ค่าติดตัวไปด้วย ซึ่งเป็นการรักษาอย่างปัจจุบันทันด่วน และตรงตามอาการของโรคมาก ที่สุด โดยหมอหลงจู้ จะให้ผู้ป่วยบอกประวัติ โดยซักอาการอย่างละเอียด เพื่อให้ แน่ใจว่าไม่ใช่ของที่หยิบฉวยของผู้อื่นมาโดยเจ้าของไม่ยินยอม ต่อจากนั้นก็จะทำ การตรวจรักษา ตีค่า ต่อรอง และเขียนใบสั่งยา โดยต้องมีการยืนยันด้วยบัตรประจำ ตัวประชาชนของผู้ป่วย แล้วหมอหลงจู้จะให้วัคซีน โดยนำนิ้วหัวแม่มือของผู้ป่วย แปะลงบนวัคซีนสีดำ และกดลงบนใบสั่งยา ให้ปรากฏรอยเป็นที่แน่ชัด และสามารถยืนยัน เป็นหลักฐานได้ จากนั้นผู้ป่วยจะมีอาการดีขึ้นทันตาเห็น แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น อาการจะดีขึ้นได้กี่วัน ขึ้นอยู่กันของมีค่าที่นำติดตัวไป
โรคนี้จะสามารถรักษาให้หายขาดและไม่เกิดกับผู้ป่วยได้ อีก ถ้าสามารถจัดสรรรายได้ในแต่ละเดือนให้เพียงพอ ควบคุมรายจ่าย ควรให้มีราย จ่ายต่อรายได้อย่างน้อยในอัตรา 1ต่อ1 แต่ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร แต่เป็นทาง เดียวที่จะรักษาให้หายขาดได้

ปัจจุบันยังไม่มี วัคซีนป้องกัน จึงต้องรักษาตามอาการข้างต้น และอาจจะใช้ยาแผนโบราณจำพวกวงแชร์ เท้าแชร์ รักษาร่วมก็ได้ แต่ต้องระวังผลข้างเคียงที่อาจะเกิดขึ้นได้ เช่น ลูก แชร์เบี้ยว เท้าแชร์หาย โรคมือเติบ จนทำให้ไม่สามารถรักษา สัดส่วน รายได้ต่อราย จ่ายที่ 1ต่อ1 ได้ จะส่งผลในทางลบมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าหากใช้ได้ถูกต้อง เช่น เป็น เท้าแชร์เอง ก็ต้องตามลูกแชร์ให้ได้ครบ ถ้าเป็นลูกแชร์ก็ต้องตามเท้าแชร์ให้ได้ ทุกงวด และพยายามอย่าให้ถูกหมอนวดจับ จนติดโรคมือเติบ เป็นต้น



ออฟไลน์ Ricer

  • *
  • กระทู้: 837
  • Popular Vote : 2
  • PMP (Poor Man's Porsche) เห็นตูดปอร์ชอยู่ไวๆ
เหยียบแรงเกิน คันเร่งหัก emo6o
All boxer engines, regardless of no. of cylinders, provide perfect balance because the movement of a piston is exactly counter by the corresponding piston in another bank...the usage is limited to Porsche and Subaru today.    However, we'll have a Toyobaru soon???

ออฟไลน์ pong BH5

  • เมื่อก่อนชื่อ Pong GC8 ตอนนี้กลายเป็น Pong BH5
  • *
  • กระทู้: 821
  • Popular Vote : 0
    • อีเมล์
เข้าเว็ปนี้ที่ไรอาการทรัพย์จางมักกำเริบ