ก้องตอบได้แจ่มมาก สมเป็นศิษย์ผู้น้องจริงๆ
เพิ่มเติมให้นิดนึงครับ สำหรับการทำความเข้าใจรอบ หรือการทำ rev/matching ของรถเราเอง เพราะมันเกี่ยวเนื่อง เกี่ยวพันกับ heel&toe ด้วย
ก่อนจะเริ่มหัดทำ heel&toe จริงๆเราต้องรู้ก่อนว่า รอบเครื่องในรถเราเอง เมื่อลดเกียร์ลงในแต่ละช่วง มันแตกต่างกันเท่าไหร่
เช่นที่ความเร็วเท่ากัน สมมุติว่าซัก80กม./ชม. จากเกียร์4 2500รอบ ลดมาเกียร์3 อาจจะโดดขึ้นไปถึง4000 หรือ 6000กว่าๆ ในเกียร์2 ขึ้นอยู่กับอัตราทดเกียร์เราเอง
ตรงนั้น เราต้องรู้ และต้องแม่นจริงๆ เพราะถ้าไม่แม่น การ"แย๊บคันเร่งด้วยส้นเท้า" ที่เราจะทำ ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย เพราะถ้ากดมากไป รอบก็สูงเกินจำเป็น
พอปล่อยคลัทช์ รถก็ไม่นิ่ง หรือในทางกลับกัน แย๊บน้อยเกินไป รอบไม่ถึง พอปล่อยคลัทช์รถก็กระชากตามรอบที่ถูกเหวี่ยงขึ้นไปอีัก
ความสำคัญและหัวใจหลักๆของการทำ heel&toe จึงอยู่ที่ ความสัมพันธ์ของรอบด้วย บางคนเน้น engine brake คือทำตั้งแต่รอบสูงๆ ก็จังหวะนึง
บางคนเบรคลงมาจนรอบต่ำๆ ก็น่าจะทำง่ายกว่า แต่ในความเป็นจริงอาจจะไม่ใช่ก็ได้ การข้ามเกียร์ก็เช่นกัน วิธีนั้นผมเคยบอกไว้หลายครั้ง
คือให้พวกเรา "โฟกัส" ไปที่เบรค/ไลน์/สปีดที่จะเข้าโค้ง มากกว่าการมานั่งเกร็งกับจังหวะในการทำ heel&toe
เำพราะฉะนั้น ในการสอนมือใหม่ๆ ผมจะเน้นเสมอว่า ถ้ายังทำได้ไม่ดี อย่าเพิ่งทำ หมายถึงถ้าวิ่งในสนามแล้วยังไม่ชินกับการทำ heel&toe
ก็ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ ให้ใช้วิธีเบรคลงให้รอบต่ำๆก่อน แล้วจังหวะการปล่อยคลัทช์หลังลดเกียร์ ให้ทำแบบนุ่มๆ ซึ่ง อาจจะเปลืองคลัทช์หน่อย
แต่ผลออกมา ใกล้เคียงกับการทำ heel&toe นี่แหละ นี่ผมพูดถึงรถบ้านๆ ที่คลัทช์ไม่โดด ไม่จับมากๆนะครับ ถ้าเป็นพวกคลัทช์จับมหาโหดก็ลำบากหน่อย
ผมเองยอมรับว่า ในรถขับหน้าทั้งหมดที่ขับในสนาม ไม่ว่าฮอนด้า โตโยต้า มิตซูหรืออะไรก็ตาม ผมไม่เคยทำ heel&toe เพราะไม่มีความจำเป็นเลย
แต่ถ้าเป็นรถขับ4 หรือขับหลัง หรือรถที่คลัทช์จับโหดๆตามที่บอก ผมก็พยายามทำเท่าที่ทำได้ หมายถึงทำแล้วไม่้มีผลเสียกับเรื่องอื่นๆนะครับ
คนที่อยากฝึกจริงๆ ก็ควรมีความเข้าใจให้ถูกต้องก่อนว่า ทำไปเพื่ออะไร ทำยังไง ขั้นตอนหรือจังหวะอยู่ตรงไหน ไม่ใช่อยากทำก็ทำ ทำผิดทำถูกแล้วมาบอกว่าทำ
อย่างนั้นใช้ไม่ได้ครับ ที่ผมเิห็นบ่อยที่สุดคือ ทำผิดจังหวะ คือเบรค เอาส้นเท้าแย๊บคันเร่งก็จริง แต่รอรอบตกก่อนแล้วถึงปล่อยคลัทช์
แบบนั้นจะทำไปทำบ้าอะไร แล้วที่ผมเห็นนี่้ ไม่น้อยนะครับ พวกนักแข่งวันเมคนี่แหละตัวดี
ยืนฟังเสียงเอาก็รู้ครับ เหมือนรอบเครื่องจะถูกเร่งขึ้นไปสองจังหวะซ้อน จังหวะแรกเพราะส้นเท้าแย๊บคันเร่ง จังหวะที่สองตามมาคือเสียงรอบที่ถูกดีดขึ้นตอนปล่อยคลัทช์
ที่ร่ายมาซะยาวนี่ไม่ใช่อะไรนะครับ แค่อยากบอกว่า "ถ้าจะทำ ทำให้ถูก ไม่งั้นไม่ต้องทำดีกว่า"
มึนมั้ยครับ