ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องเล่าสอนใจจาก..หมาขี้เรื้อน  (อ่าน 3802 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ SilverRabbit

  • *
  • กระทู้: 323
  • Popular Vote : 0
  • ความรู้คู่คุณธรรม
เรื่องเล่าสอนใจจาก..หมาขี้เรื้อน
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2010, 02:31:42 PM »
ลูกชายนักธุรกิจใหญ่มีชื่อเสียงระดับประเทศคนหนึ่ง

เพิ่งสำเร็จการศึกษากลับมาจากเมืองนอก

ยังไม่ทันทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

ก็ถูกผู้เป็นแม่ขอร้องให้บวชเรียนเสียก่อน

เพื่อเห็นแก่แม่..

บัณฑิตใหม่หมาดจากเมืองนอกจึงบวชอย่างเสียไม่ได้

เมื่อบวชที่วัดใหญ่ในกรุงเทพฯแห่งหนึ่งเสร็จแล้ว

ผู้เป็นแม่จึงพาไปฝากให้จำพรรษาอยู่กับ

พระวิปัสสนาจารย์รูปหนึ่งที่วัดป่าแถวภาคอีสาน

พระหนุ่มการศึกษาสูงมาจากตระกูลผู้ดี

มีแต่ความสุขสบายเมื่อมาอยู่วัดป่า

กว่าจะปรับตัวได้จึงใช้เวลานานเป็นแรมเดือน

แต่ก็นั่นแหละกว่าจะ'นิ่ง'

ก็ทำเอาพระร่วมวัดหลายรูปพลอยอิดหนาระอาใจไปตามๆกัน

ปัญหาที่ทำให้พระทั้งวัดเหนื่อยหน่ายจนนึกระอาก็เพราะ

พระใหม่มีนิสัยชอบจับผิดและชอบอวดรู้

ยกหู ชูหางตัวเองอยู่เป็นประจำ

วันแรกที่มาอยู่วัดป่าก็นึกเหยียดพระเจ้าถิ่นทั้งหลายว่า

ไม่ได้รับการศึกษาสูงเหมือนอย่างตน

ออกบิณฑบาตได้อาหารท้องถิ่นมาก็ทำท่าว่าจะฉันไม่ลง

เห็นที่วัดใช้ตะเกียงน้ำมันก๊าดแทนไฟฟ้า

ก็วิพากษ์วิจารณ์เสียเป็นการใหญ่หาว่า

ล้าสมัยไม่รู้จักใช้เทคโนโลยี

ตอนหัวค่ำมีการทำวัตรสวดมนต์เย็นก็บ่นว่า

ท่านรองเจ้าอาวาสทำวัตรนานเหลือเกิน

กว่าจะสิ้นสุดยุติได้ก็นั่งจนขาเป็นเหน็บชา

ครั้นพอถึงเวรตัวเองล้างห้องน้ำเข้าบ้าง

ก็ทำท่าจะล้างอย่างขอไปที

ล้างไปบ่นไปประเภทตูจบปริญญาโทมาจากเมือง

นอกต้องมาเข้าเวรล้างห้องน้ำร่วมกับใครก็ไม่รู้

โอ้ชีวิต!ความสำรวยหยิบโหย่งทำให้พระใหม่ไม่พอใจสิ่งนั้นสิ่งนี้

ถือดีว่าตัวเองมีชาติตระกูลสูง

มีการศึกษาสูงกว่าใครในวัดนั้น

ผิวพรรณก็ดูสะอาดสะอ้านชวนเจริญศรัทธากว่าพระรูปไหนทั้งหมด

มองตัวเองเปรียบกับพระรูปอื่นแล้วช่างรู้สึกว่า

ตัวเองเหนือกว่าทุกประตู

นึกแล้วก็ยิ้มกระหยิ่มอยู่ในใจกลับเข้ากุฏิเมื่อไหร่

ก็เอาปากกามาขีดเครื่องหมายกากบาทบนปฏิทินนับถอยหลัง

รอวันสึกด้วยใจจดจ่อ

อยู่มาได้พักใหญ่พระใหม่อดีตนักเรียนนอกก็สังเกตเห็นว่า

ท่านเจ้าอาวาสวัดป่าแห่งนี้ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา

ซ้ำนานๆครั้งจะออกมาให้โอวาทกับลูกศิษย์เสียทีหนึ่ง

วันๆไม่เห็นท่านทำอะไรเอาแต่กวาดใบไม้ เก็บขยะ ซักผ้าเอง

(เณรน้อยก็มีไม่รู้จักใช้) สอนก็ไม่สอน

การบริหารวัดก็มอบให้ท่านรองเจ้าอาวาสเป็นคนจัดการไปเสียทุกอย่าง

เห็นแล้วเลยนึกร้อนวิชาเสนอให้ปรับ

โน่นลดนี่สารพัดที่ตัวเองเห็นว่าไม่เข้าท่าล้าสมัย

รวมทั้งให้เสนอให้วัดใช้ไฟฟ้าแทนตะเกียงด้วย

อีกข้อหนึ่งเพราะตนเห็นว่ายุคสมัยก้าวไกลมามากแล้ว

ไม่ควรจะทำตนเป็นคนหลังเขาให้คนอื่นเขาดูถูก

อีกหนึ่งในข้อวิจารณ์จุดด้อยของวัดทั้งหลายเหล่านั้น

พระใหม่เสนอให้หลวงพ่อเจ้าอาวาส

มีปฏิสัมพันธ์กับพระลูกวัดให้มากขึ้นกว่านี้

สอนให้มากขึ้นเทศน์ให้มากขึ้น

และแนะนำว่าคนระดับผู้บริหารไม่ควรจะทำงาน

อย่างการซักจีวรเองเป็นต้นด้วยตนเอง

ควรจะกระจายอำนาจมอบงานให้คนอื่นทำดีกว่า

เย็นวันนั้นเป็นวันพระสิบห้าค่ำ

หลวงพ่อเจ้าอาวาสมานั่งทำวัตรที่โบสถ์ธรรมชาติกลางลานทรายด้วย

ท่านไม่ลืมที่จะหยิบข้อเสนอแนะจากพระใหม่มาอ่าน

ให้พระหนุ่มสามเณรน้อยทั้งหลายฟัง

แต่ท่านไม่บอกว่าพระรูปไหนเป็นคนเขียน

อ่านจบแล้วหลวงพ่อก็ยิ้มอย่างมีเมตตาพลางหยิบไมโครโฟนขึ้นมา

แล้วชี้ให้ภิกษุหนุ่มสามเณรน้อยทั้งหลาย ดูหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่ง

ที่นอนอยู่ใต้ม้าหินอ่อนตัวหนึ่งใต้ต้นอโศกที่อยู่ใกล้ๆ

"เธอทั้งหลายเห็นหมาขี้เรือนตัวนั้นหรือไม่

เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันเป็นขี้เรื้อนคันไปทั้งตัว

ฉันเห็นมันวิ่งวุ่นไปมาทั้งวัน เดี๋ยวก็วิ่งไปนอนตรงนั้น

เดี๋ยวก็ย้ายมานอนตรงนี้อยู่ที่ไหนก็อยู่ไม่ได้นานเพราะมันคัน

แต่พวกเธอรู้ไหม

เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันไปนอนที่ไหน

มันก็นึกด่าสถานที่นั้นอยู่ในใจหาว่า

แต่ละที่ไม่ได้ดั่งใจตัวเองสักอย่าง

นอนที่ไหนก็ไม่หายคัน สถานที่เหล่านั้นช่างสกปรกสิ้นดี

คิดอย่างนี้แล้วมันจึงวิ่งหาที่ที่ตัวเองนอนแล้วจะไม่คัน

หาเท่าไหร่มันก็หาไม่พบสักที

เลยต้องวิ่งไปทางนี้ทางโน้นอยู่ทั้งวัน

เจ้าหมาโง่ตัวนั้นมันหารู้สักนิดไม่ว่า

เจ้าสาเหตุแห่งอาการคันนั้น หาใช่เกิดจากสถานที่เหล่านั้นแต่อย่างใดไม่

แต่สาเหตุแห่งอาการคันอยู่ที่โรคของตัวมันเองนั่นต่างหาก"

พูดจบแล้วหลวงพ่อก็วางไมโครโฟนลงเป็นสัญญาณให้รู้ว่า

ได้เวลาภาวนาหลังการทำวัตรสวดมนต์เย็นแล้ว

ขณะ ที่ทุกรูปนั่งหลับตาภาวนาอย่างสงบนั้น ในใจของพระใหม่กลับร้อนเร่าผิดปกตินอกสงบแต่ในวุ่นวาย นึกอย่างไรก็มองเห็นตัวเองไม่ต่างไปจากหมาขี้เรื้อนที่หลวงพ่อชี้ให้ดู

ยิ่งนั่งสมาธินานๆ ยิ่งคันคะเยอในหัวใจทั้งอายทั้งสมเพชตัวเอง

นับแต่วันนั้นเป็นต้นมาพระใหม่อดีตนักเรียนนอกก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน

จากคนพูดมากกลายเป็นคนพูดน้อย

จากคนที่หยิ่งยโสกลายเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน

จากคนที่ชอบจับผิดคนอื่นกลายเป็นคนที่หันมาจับผิดตัวเอง

แม้เมื่อออกพรรษาแล้วโยมแม่มาขอให้ลาสิกขาเพื่อกลับไปสืบต่อธุรกิจจากครอบครัว ท่านก็ยังไม่ยอมสึก

"อาตมาเป็นหมาขี้เรื้อนขออยู่รักษาโรค

จนกว่าจะหายคันกับครูบาอาจารย์ที่นี่อีกสักหนึ่งพรรษา"

โยม แม่ได้ฟังแล้วก็ได้แต่ยกมืออนุโมทนาสาธุการกราบลาพระลูกชาย แล้วก็เดินออกจากวัดไปขึ้นรถพลางนึกถามตัวเองอยู่ในใจว่าคำว่า "หมาขี้เรื้อน" ของพระลูกชายหมายความว่าอย่างไรกันแน่


บทความจาก: เว็บไซต์ของมูลมิธิพัฒนาคนพิการไทย (www.tddf.or.th)
ระยะทางพิสูจน์ม้า  กาลเวลาพิสูจน์คน

ออฟไลน์ kazama

  • *
  • กระทู้: 1,365
  • Popular Vote : 6
  • I AM KAZAMA
    • อีเมล์
Re: เรื่องเล่าสอนใจจาก..หมาขี้เรื้อน
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2010, 02:38:56 PM »
ผมชอบเรื่องนี้มากพี่โมด ยิ่งอ่านยิ่งเข้าใจอะไรมากขึ้น

จะสุขจะทุกข์มันก็อยู่ที่ตัวเรานี่แหละ ง่ายๆ แต่ทำยากมาก  emo64o
Think Feel Drive

ออฟไลน์ Bossma

  • ???
  • *
  • กระทู้: 5,157
  • Popular Vote : 146
    • อีเมล์
Re: เรื่องเล่าสอนใจจาก..หมาขี้เรื้อน
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2010, 02:40:36 PM »
ขอบคุณมากครับ  emo65o

 emo48o emo48o emo52o emo52o

ออฟไลน์ SilverRabbit

  • *
  • กระทู้: 323
  • Popular Vote : 0
  • ความรู้คู่คุณธรรม
Re: เรื่องเล่าสอนใจจาก..หมาขี้เรื้อน
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2010, 03:15:00 PM »
ดีครับที่ชอบ อิอิ พี่ก็ชอบ...
ผมก็ขอบคุณเพื่อนที่ส่งให้ผมเหมือนกันคร๊าบบบบ....
ระยะทางพิสูจน์ม้า  กาลเวลาพิสูจน์คน

ออฟไลน์ monkeyart

  • *
  • กระทู้: 212
  • Popular Vote : 3
Re: เรื่องเล่าสอนใจจาก..หมาขี้เรื้อน
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2010, 05:14:01 PM »
ได้อ่านอะไรดีๆอีกแล้ว  emo60o

ออฟไลน์ Le Zaa

  • *
  • กระทู้: 204
  • Popular Vote : 1
    • อีเมล์
Re: เรื่องเล่าสอนใจจาก..หมาขี้เรื้อน
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2010, 07:52:37 PM »
อ่านแล้วรู้สึกดีครับ  ชอบมาก ...ๆ

ออฟไลน์ POP_EMS

  • *
  • กระทู้: 1,895
  • Popular Vote : 13
  • www.facebook.com/liquimolymotorsportthailand
    • liquimolymotorsportthailand
    • อีเมล์
Re: เรื่องเล่าสอนใจจาก..หมาขี้เรื้อน
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2010, 08:51:51 PM »
ขอบคุณครับ  emo64o

ผมก็กำลังพยายามรักษาโรคหมาขี้เรื้อนด้วยเหมือนกันครับ


ออฟไลน์ The Blitz

  • *
  • กระทู้: 2,237
  • Popular Vote : 40
Re: เรื่องเล่าสอนใจจาก..หมาขี้เรื้อน
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2010, 09:23:49 PM »
อ่านแล้ว โดนใจจี๊ด  emo31o

ออฟไลน์ ทอม

  • *
  • กระทู้: 485
  • Popular Vote : 0
Re: เรื่องเล่าสอนใจจาก..หมาขี้เรื้อน
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2010, 10:40:00 PM »
พี่โมดมีอะไรดีๆมาให้อ่านอีกแร้วววว emo54o

ออฟไลน์ Double You Are Ex

  • *
  • กระทู้: 783
  • Popular Vote : 10
  • Sports performance for every day use. . .
Re: เรื่องเล่าสอนใจจาก..หมาขี้เรื้อน
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2010, 02:30:53 PM »
 emo65o

ออฟไลน์ สาหร่าย05

  • *
  • กระทู้: 3,439
  • Popular Vote : 32
Re: เรื่องเล่าสอนใจจาก..หมาขี้เรื้อน
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2010, 02:45:07 PM »
 emo72o

 อ่านจบแล้วคันเลยผม  แถมอยากหอนด้วย  emo76o

 ขอบคุณพี่โมด(อีกแว้ว)สำหรับบทความเตือนสติ สอนใจครับ  emo64o
บ้าพลัง คลั่งอำนาจ  เชิญใส่กระโปรง แล้วออกไป๊!!!

ออฟไลน์ boatstd

  • SRS Member
  • *
  • กระทู้: 3,942
  • Popular Vote : 63
  • สบายเกินไปไหมเนี่ยหมาตู
    • อีเมล์
Re: เรื่องเล่าสอนใจจาก..หมาขี้เรื้อน
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2010, 02:51:45 PM »
โห พี่โมทย์หาอะไรดีๆมาให้ได้อ่านเรื่อยเลย ขอบคุณครับพี่ ไว้มีโอกาสหวังว่าจะได้เจอกันนะคร้าบบบบ
หากบูสต์น้องมา น้ำตาพี่ก้อหลั่งงง
 

ออฟไลน์ neungxx

  • *
  • กระทู้: 294
  • Popular Vote : 2
  • เป็นไทย แว้วววว !!! 2th. pantip ngamwongwan
    • อีเมล์
Re: เรื่องเล่าสอนใจจาก..หมาขี้เรื้อน
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2010, 03:01:08 PM »
ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ Chaiwatinov

  • *
  • กระทู้: 630
  • Popular Vote : 10
    • http://www.facebook.com/profile.php?id=100001433686301
    • อีเมล์
Re: เรื่องเล่าสอนใจจาก..หมาขี้เรื้อน
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 18, 2010, 10:33:21 AM »
ขอบคุณครับ   
อย่าให้คนไม่รู้จักซูบารุทำซูบารุ
คบเพื่อนอย่ามีเรื่องเงินไม่งั้นโดนหลอก

ออฟไลน์ ajcha4563

  • ผู้ที่รู้จักพอ ความพอของเขาจะเป็นความพอที่มีไปได้ตลอดชีวิต
  • *
  • กระทู้: 211
  • Popular Vote : 3
Re: เรื่องเล่าสอนใจจาก..หมาขี้เรื้อน
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 18, 2010, 11:02:09 AM »
 emo65o            ขอบคุณคร้าบ