GDA Reflash

[MuayIMM]

อยากทราบว่า ถ้า GDA เครื่องคอขาว เดิมสนิท ท่อเดิมแคทอยู่ครบ เปลี่ยนปลายท่อ เพิ่ม Boost Solinoid อย่างดียว
แล้วไป Reflash ผลที่ได้ออกมาจะเป็นอย่างไรบ้างครับ  สมรรถนะ กำลัง ความประหยัด วิ่งลื่นขึ้นบ้างไหม
แรงม้า แรงบิด จะเห็นผลได้มากขนาดไหน ความคุ้มค่าที่จะทำแค่ Step เล็กๆเท่านี้ พี่ๆเพิ่อนๆมีความเห็นอย่างไรบ้างครับ
ไม่ได้เน้นแรง เอาแค่หนุกหนานก็พอ ทนทานไม่จุกจิกครับ 
     - ปกติเติม 95 ตลอด เวลาลากรอบสูงๆ มีอาการเขกเหมือนกัน  ถ้าจูน Gasohol 95 เผื่อไว้เวลาเดินทาง
       แต่ปกติยังคงใช้ 95 จะมีผลอย่างไรบ้างครับ
     - ความต่อเนื่องในแต่ละเกียร์  Power band  จะกว้างขึ้นบ้างไหม โบเดิม TD04L ชอบตรงที่มาเร็วดี แต่ก็หมดเร็วไปนิด
 

[sexysecret]

ก่อนอื่นเลยถ้าเปลี่ยน Solinoid ของ prodrive ต้อง reflash นะครับ ไม่งั้นพังแน่ครับ
ถ้าจะ reflash แนะนำให้ตัดแคททิ้งไปเลยครับจะได้เห็นผลมากกขึ้น หรือถ้าเปลี่ยนท่อแต่งได้ด้วยจะจะยิ่งลื่นขึ้นไปอีก แต่ถ้าชอบเงียบๆหรือไม่อยากเปลี่ยนก็ไม่เป็นไรครับ

ของผม reflash, ตัดแคท, เปลี่ยน solinoid ของ prodrive, เปลี่ยนท่อซิ่ง (Fuji RM01A), จูนโซออล์ 95 ครับ
ถ้าให้เปรียบเทียบระหว่างไม่ทำอะไรเลยแล้วเติม 95 กับทำตามที่บอกไปด้านบน
ที่ต่างกันแน่ๆคือ
1) รถมันจะกระฉับกระเฉงขึ้นครับ บูสมาไวขึ้นเล็กน้อย รู้สึกเหมือนแรงขึ้นครับ
แต่ผมว่า power band, ความต่อเนื่องในแต่ละเกียร์เหมือนเดิมครับ

2) ประหยัดค่าน้ำมันไปได้เยอะมากครับ ต่างกันลิตรละเกือบสิบบาทแล้ว

แต่ถ้าอยากให้เห็นผลชัดๆ จูน95 ไปอย่างเดียวเลยครับ จะแรงกว่าจูนโซฮอล์95
ถ้าจะเติมผสม ควรบอกคนจูนด้วยครับ ว่าจะเติมผสม เค้าจะได้เผื่อไว้ให้
แล้วถ้าสมมุติเราจูนไว้เป็นโซฮอล์95 วันไหนอยากซัดเติม 95 เข้าไปแล้วอย่าเพิ่งซัดนะครับ รอให้กล่องมันปรับตัวก่อน วิ่งๆไปซัก 20-30 นาทีแล้วค่อยซัดจะดีมากครับ
อันนี้จูนเนอร์บอกมาครับ

[lucky_suby]

ก่อนอื่นเลยถ้าเปลี่ยน Solinoid ของ prodrive ต้อง reflash นะครับ ไม่งั้นพังแน่ครับ
ถ้าจะ reflash แนะนำให้ตัดแคททิ้งไปเลยครับจะได้เห็นผลมากกขึ้น หรือถ้าเปลี่ยนท่อแต่งได้ด้วยจะจะยิ่งลื่นขึ้นไปอีก แต่ถ้าชอบเงียบๆหรือไม่อยากเปลี่ยนก็ไม่เป็นไรครับ

ของผม reflash, ตัดแคท, เปลี่ยน solinoid ของ prodrive, เปลี่ยนท่อซิ่ง (Fuji RM01A), จูนโซออล์ 95 ครับ
ถ้าให้เปรียบเทียบระหว่างไม่ทำอะไรเลยแล้วเติม 95 กับทำตามที่บอกไปด้านบน
ที่ต่างกันแน่ๆคือ
1) รถมันจะกระฉับกระเฉงขึ้นครับ บูสมาไวขึ้นเล็กน้อย รู้สึกเหมือนแรงขึ้นครับ
แต่ผมว่า power band, ความต่อเนื่องในแต่ละเกียร์เหมือนเดิมครับ

2) ประหยัดค่าน้ำมันไปได้เยอะมากครับ ต่างกันลิตรละเกือบสิบบาทแล้ว

แต่ถ้าอยากให้เห็นผลชัดๆ จูน95 ไปอย่างเดียวเลยครับ จะแรงกว่าจูนโซฮอล์95
ถ้าจะเติมผสม ควรบอกคนจูนด้วยครับ ว่าจะเติมผสม เค้าจะได้เผื่อไว้ให้
แล้วถ้าสมมุติเราจูนไว้เป็นโซฮอล์95 วันไหนอยากซัดเติม 95 เข้าไปแล้วอย่าเพิ่งซัดนะครับ รอให้กล่องมันปรับตัวก่อน วิ่งๆไปซัก 20-30 นาทีแล้วค่อยซัดจะดีมากครับ
อันนี้จูนเนอร์บอกมาครับ

[aof_impz]

ตั้งแต่จูนแก๊สโซฮอลมาก็ไม่คิดจะไปเติม95 ธรรมดาอีกเลย

[sweet99]

ตั้งแต่จูนแก๊สโซฮอลมาก็ไม่คิดจะไปเติม95 ธรรมดาอีกเลย

เหมือนกันเลย เติม95น้อยมาก โซฮอลตอลดเลยครับ 

[MuayIMM]

  ถ้าจูน 95 อย่างเดียวเลย เวลาที่จำเป็นต้องเติมโซฮอลล์จริงๆ
ชั่วคราวจะมีผลเสียอย่างไรบ้างไหมครับ ยังไม่เคยจำเป็น สุดวิสัยจนต้องเติมโซฮอลล์กับคันนี้เลย
 

[Sinz]

ไม่เปนไรครับ แต่มันจะอืดลงไปหน่อยครับ

[sexysecret]

ถ้าจูน 95 อย่างเดียวเลย เวลาที่จำเป็นต้องเติมโซฮอลล์จริงๆ
ชั่วคราวจะมีผลเสียอย่างไรบ้างไหมครับ ยังไม่เคยจำเป็น สุดวิสัยจนต้องเติมโซฮอลล์กับคันนี้เลย
 

จะอืดลงเล็กน้อย
เติมเสร็จอย่าเพิ่งซัดครับ อย่างที่บอกไป ต้องให้กล่องมันปรับตัวก่อนครับ


95 โซฮอล์ ดีนะครับ ตั้งแต่จูนมารถผมไม่เคยได้กิน 95 อีกเลย
จูนเนอร์ผมก็ชอบด้วยครับ ข้อดีของโซฮอล์อีกอย่างคือมันจะมี cooling effect ทำให้เครื่องเย็นกว่า 95 ธรรมดาหน่อยนึงครับ
ส่วนเรื่องท่อน้ำมันต่างๆ, ปั๊มติ๊ก นี่ไม่ต้องไปกลัวเลยครับ ไม่มีปัญหาแน่นอนเพราะตอนแรกผมก็กลัวเหมือนกันครับ หลังจากใช้ไปได้ซักพัก น่าจะ 2-3 เดือน ผมเลยรื้อถังออกมาดูครับ ยกลงมาเลย ถอดปั๊มติ๊ก มาเช๊ค ดูท่อยางน้ำมันทั้งระบบ
เพื่อดูว่าเปื่อยไหม เป็นสนิมไหม ปรากฎว่ารถผมไม่เป็้นอะไรเลยครับ ไม่มีสนิมในถัง ท่อยางยังคงอยู่ในสภาพที่ดี แต่ไหนๆรื้อมาแล้วก็เลยเปลี่ยนท่อยางทั้งระบบไปแล้ว เพื่อความสบายใจ
แต่ถ้าเป็นรถที่วางเครื่องมา อันนี้ต้องระวังนิดนึงครับ เพราะหัวตัดที่เราได้มาจากญี่ปุ่นมันตากแดดตากฝนมาเยอะ กว่าจะมาถึงเราและอยู่ในรถเรา ท่อยางบางเส้นอาจเสื่อมสภาพหรือเสียหายไป ปั๊มอาจขึ้นสนิมก็ได้
หรือแม้แต่บางทีตอนวางเครื่องช่างถอดมันออกไป หรือมันเสียหาย/สูญหาย แต่เวลาใส่กลับมาเอาท่อเก่าๆที่มีในอู่ใส่เข้าไปแทน อันนี้ต้องตรวจเช๊คให้ดีครับ สำคัญมาก

ส่วนตัวเชียร์ 95 โซฮอล์ครับ ขับไปไหนก็ได้ไม่ต้องคอยระวัง และมันก็แรงดีนะ อย่างนาย aof_impz ด้านบนนั่น เท้าหนักมาก ยังใช้เลยครับ
แต่ต้องระวังนิดนึงถ้ารถไม่ค่อยได้ใช้งานครับ เช่นเป็น weekend car  เวลาจอดนานๆ 95 โซออล์จะเสื่อมสภาพได้เร็วกว่า
ดังนั้นตอนเพิ่งออกจากบ้านจึงยังไม่ควรซัดครับ ถ้าเติมน้ำมันใหม่เพิ่มเข้าไปได้ยิ่งดีเลยครับ

ปล. มีพี่เคยนึงเคยลองซัดดูหลังจากจอกไว้หลายๆวัน แล้วจับ knock ดู ปรากฎว่ามี knock เป็นบางช่วงครับ แต่รถก็ไม่ได้เป็นอะไรนะครับ เพราะไม่ได้ทำประจำ
ส่วนผมเองเคยลองจอดไว้หลายๆวัน น้ำมันประมาณครึ่งถัง พอเอาไปขับรู้สึกว่ารถมันหนืดๆครับ แต่พอเติมน้ำมันใหม่( 95 โซฮอล์)เข้าไป ก็วิ่งลื่นเหมือนเดิมครับ

[MuayIMM]

   ขอบคุณมากๆทุกท่านครับที่กรุณามาให้ข้อมูลและความรู้ครับ
  แต่ถามอีกนิสสสสส ว่าถ้าตัดแคทออกปกติเดินท่อกันกี่นิ้วครับ ทั้ง uppipe downpipe frontpipe
หรือควรมีการรีดขนาดท่อที่ไม่เท่ากันครับ ถ้าอยากให้รอบสูงๆดีกว่านี้หน่อย ดึงน้อยลงนิดก็ได้แต่อยากได้ปลาย
รอบสูงๆ ดึงยาวกว่าเดิมครับ ใจยังชอบโบเดิมอยู่ครับไม่ต้องการแรงมากมายแต่อยากให้นิสัยเปลี่ยนเล็กน้อย
  คล้ายๆว่าตัวเองยังชอบนิสัยเครื่อง NA อยู่ครับ ยิ่งลากยิ่งสนุก

[Noob]

-ปกติ Uppipe จะใช้ท่อ 50 mm หรือประมาณ 2 นิ้วครับ แต่ถ้ายังใช้ Header เดิมอยู่ผมว่าใช้ Uppipe เดิมก็ดีครับ ซึ่งเปลี่ยนเฉพาะ Uppipe ไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่

-ส่วน Downpipe หรือ Frontpipe (เหมือนกันครับ แล้วแต่เรียก)  แนะนำให้ใช้ตั้งแต่ 2.5 นิ้วขึ้นไปครับ แต่ผมแนะนำ 3 นิ้ว หากชอบปลายไหลๆ เนื่องจาก Back Pressure น้อยกว่า และเผื่อไว้สำหรับ Turbo upgrade ในอนาคตได้ด้วย ส่วนทางเดินท่อหลัง Frontpipe นั้น แนะนำให้เดิน 3 นิ้วไปเลย ซึ่งหากใช้ท่อของสำนักแต่งต่างๆ ส่วนใหญ่จะเดิน 3 นั้วอยู่แล้วครับ

สำคัญสุด แนะนำให้เปลี่ยน Part ทั้งหมดที่ตั้งใจไว้ใน Step นี้ แล้วค่อยนำรถไปจูน หรือ Refrash ที่เดียวครับ จะได้ไม่ต้องวิ่งไปวิ่งมาจูนหลายรอบครับ เนื่องจาก การเปลี่ยน Part แต่ละอย่างจะทำให้ Character ของเครื่องรถเปลี่ยนไป (ไม่มากก็น้อย) ซึ่งน่าจะต้องนำรถไปจูนใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับ Character ที่เปลี่ยนไปครับจึงจะดีที่สุดครับ

[ACCESS]

คอขาวเดิมๆทั้งในGCหรือGDที่Reflashหรือใส่Piggyback จะขับสนุกขึ้นพอสมควรเลยครับ ที่สำคัญผมว่าคุ้มค่าเงินมากๆครับ
ส่วนเทอร์โบเดิมๆคอขาว ในรอบปลายๆก็จะคล้ายเดิมครับเพราะลูกมันไม่ได้ขนาดใหญ่ แต่หลังจากจูนกล่องรอบต้นๆจะดึงดี+การตอบสนองจะรู้สึกมากกว่าเดิมแน่นอนครับ
  ส่วนDownpipeสำคัญอันดับแรกคือต้องไม่เล็กไปจนไอเสียคายออกไม่ทันครับ ผมเคยใช้ในคอขาวก็3นิ้วครับ ในรอบต้นๆรู้สึกโล่งไปนิดหน่อยครับถ้าเทียบกับของStd. แต่รอบปลายรู้สึกกำลังดีครับ หรือที่นิยมกันในรถเทอร์โบก็จะ3นิ้วหรือ3นิ้ว2 หรือถ้าเทอร์โบใหญ่ๆบูสท์เยอะ ไอเสียออกไม่สะดวกจริงๆก็3.5."ครับ  ขนาดใหญ่เกินไปก็ไม่ใช่ว่ายิ่งดีนะครับ ทุกอย่างต้องพอดี ถ้าท่อโล่งไปจะไม่มีแรงดูดไอเสียเก่าในท่อเพื่อช่วยดึงไอเสียในกระบอกสูบในจังหวะคาย ทำให้ไอเสียสามารถออกได้แค่ตอนคายไอเสียในจังหวะที่ลูกสูบเลื่อนขึ้นไปยังศูนย์ตายบน(TDC.)  เลือกขนาดท่อใหญ่ไปนิดไม่เป็นไรครับ อาจจะเผื่ออัพเกรดเทอร์โบด้วยครับ แต่ถ้าเล็กไปนิดคงไม่ดี ตามทฤษฎีถ้าเลือกขนาดของท่อไอเสียได้เหมาะสมก็ต้องมีแรงม้าเพิ่มขึ้นซัก2-3%ครับ
  ส่วนแคททาไลติคคอนเวอร์เตอร์ตัดทิ้งก็โอเคครับ ข้อเสียคือมลภาวะทางอากาศและเสียงเพิ่มขึ้น นอกนั้นก็ผลดีหมดครับ ไม่ต้องคอยพะวงแคทฯตัน หรือไหม้ ส่วนมากที่วิ่งสนามกันแล้วแคทไหม้ไม่ได้เกิดจากความร้อนของไอเสียครับ
เกิดจากบางจังหวะที่มีไอดีกับน้ำมันไปจุดระเบิดในท่อไอเสีย หรือที่เรียกกันว่าbackfire แล้วมีแคทขวางอยู่ ใยแคทฯที่เจอน้ำมันกับไอเสียร้อนจี๋ จึงเกิดการไหม้ครับ แล้วทำไมรถสแตนดาร์ดถึงมีแคทมาจากโรงงาน? โดยรถยนต์สแตนดาร์ดจะไม่เจอปัญหานี้ เพราะว่าไม่ได้โมดิฟายระบบจุดระเบิดหรือจูนกล่องครับ ปริมานน้ำมันกับอากาศที่ECU.สั่งมาจากโรงงานที่ทดลองแล้วจึงพอดีจริงๆ จึงเผาไหม้สมบูรณ์ทุกครั้ง ไม่ได้ต้องเผื่อให้น้ำมันจ่ายเยอะเพื่อความปลอดภัยสำหรับรถที่โมดิฟายด์ครับ

[MuayIMM]

  ได้ความรู้มากมาย ขอบคุณพี่ๆทุกท่านมากครับ