พอดีได้FW.mail มาจากเพื่อนๆครับ ผมเห็นว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวคนใช้รถอย่างเราๆมากน่ะครับ เลยก๊อปปี้มาฝากเพื่อนๆพี่ๆในSSS.
ระวังห้องน้ำในปั้มและรถที่ขับตามมา
ด้วยความปรารถนาดีและห่วงใย โปรด Fw:
ต่อให้กับคนที่ท่านรักและห่วงใยต่อไป
สัตว์โลกทั้งหลายพึงตั้งอยู่บนความไม่ประมาท
ความตายอยู่รอบตัว
เขาเคยคิดว่าภาพข่าวอาชญากรรมที่มีให้เห็นบนน.ส.พทุกวันเป็นเรื่องไกลตัว
จนกระทั่งกลางดึกคืนหนึ่ง
ในห้องน้ำของปั๊มน้ำมันที่เปิดไฟฟ้าสว่างไสว
ผม วิชชุ เศรษฐกนก
ศิลปินฝึกหัดของบริษัท
Aratist ในเครือแกรมมี่กรุ๊ป
จึงตระหนักว่า
ไม่ว่าใครก็มีโอกาสตกเป็นเหยื่อของอาชญากรได้พอๆกัน
วันที่เกิดเหตุผมไปคุยเรื่องงานดนตรีกับพวกเพื่อน ๆ และพี่ ๆ
ที่พรีเมียร์พระราม 9 คุยเสร็จเกือบตีสาม
ปกติก็ไม่ได้กลับดึกขนาดนั้น
แต่วันนั้นคุยกันค่อนข้างซีเรียสเลยใช้เวลานาน
คุยเสร็จต่างคนต่างแยกย้ายกลับบ้าน
ผมขับรถเกือบจะถึงบ้านแล้ว
ผ่านปั๊มแห่งหนึ่งก็เลยแวะเข้าไป จริง ๆ
แล้วไม่ถึงกับอยากเข้าห้องน้ำขนาดทนไม่ได้
แต่อยากซื้อขนมกับ ไอศกรีมไปกินที่บ้านมากกว่า
ตอนนั้นไม่มีรถคันอื่นเข้ามาเติมน้ำมันเลย
ผมขับไปจอดหน้ามินิมาร์ทเข้าไปซื้อของเสร็จ
คิดว่าเข้าห้องน้ำล้างหน้าหน่อยดีกว่า
ก่อนจะเข้าห้องน้ำ ก็เดินไปล็อครถก่อน
ห้องน้ำของปั๊มอยู่ข้างหลังมินิมาร์ท
ไม่มีใครในห้องน้ำเลย
แต่ไฟสว่างมากเพราะเป็นไฟนีออน
กำลังจะรูดซิปกางเกงก็ได้ยินเสียงตึง...
เป็นเสียงคนเดินเข้ามา
พอเอี้ยวตัวไปมองก็เห็นปืนจ่ออยู่ตรงหน้า
ความรู้สึกแรกคือไม่อยากเชื่อว่าถูกปล้น
แต่พอได้สติก็รู้ว่านี่ของจริง...
จังหวะนั้นมันเร็วมาก
พอผมเอี้ยวตัวไป
เห็นคนเดินตามหลังมาอีกสองคน
คนถือปืนก็ขึ้นลำ ปืน
แล้วพูดด้วยเสียงดุ ๆ
ว่า... ถ้ามึงไม่อยากตายหันหลังไป พอผมหันกลับ
เขาก็ผลักผมกระเด็นไปติดกำแพงห้องน้ำ
แล้วเอาด้ามปืนตบที่ท้ายทอยซ้อนกันหลายครั้ง
ผมบอกเขาว่า.พี่อยากได้อะไร..เอาไปเลยหวังว่าเขาคงจะไม่ทำอะไรร้าย
แรง
แต่ปรากฎว่าเขาไม่สน
ทุบเอาอีก...
แล้วอีกคนก็เข้ามาจับมือผมไปไพล่หลัง
ได้ยินเสียงแกะเทปกาวดังแควกก่อนจะเอาเทปนั้นมัดมือผมไว้พอมัดเสร็จ
ก็จับตัวผมหันมา
จากนั้นก็ต่อยที่ท้องผมอย่างแรง
หมัดเดียวแต่จุกมาก
จนผมทรุดลงไปนอนตัวงออยู่กับพื้น
ต่อจากนั้นเขาก็จับขาผมรวบให้นั่งบนพื้น
แล้วทำท่า เหมือนจะเอาเทปมามัดที่เท้า
แต่เปลี่ยนใจเป็นมาพันที่หน้าก่อน
เริ่มจากปิดตา ปิดปาก
ตอนปิดปากเขาปิดจมูก
ไปด้วย
ผมพยายามร้องว่าหายใจไม่ออก
แต่เสียงมันดังออกมาแค่อือๆ
เท่านั้น
โชคดีว่าพันไม่แน่นมากยังมีช่องเหลือให้หายใจได้
หลังจากนั้นมันก็เอาเทปมามัดเท้าต่อ
ก่อนค้นตัวเอากุญแจรถไป
แล้วทุกอย่างก็เงียบ
ตอนแรกผมคิดว่าพวกเขาคงทิ้งผมไว้
เอาแต่รถไปอย่างเดียวรออีกเดี๋ยวค่อย ๆ
กลิ้งออกไปหาคนช่วยก็ได้
แต่ยังไม่ทันจะโล่งใจเลย
ก็รู้สึกว่าตัวเองถูกยกลอยขึ้น
ตอนนั้นตกใจสุดขีดเลย
ตกใจกว่าตอนเห็นปืนอีก
เพราะคิดว่าคราวนี้คงต้องถูกเอาไปยิงทิ้งแน่
ผมดิ้นสุดชีวิตเลยโดนอัดหรือเตะไม่รู้แน่เข้า
หลังจากนั้นมันไม่เชิงว่ามีสติตลอด
มันกึ่งรู้สึกตัวกับไม่รู้สึกตัว
เนื่องจากถูกมัดตาเอาไว้
ทำให้ไม่รู้ว่าเค้าอุ้มไป?หน
รู้สึกว่าหลังแตะอะไรสักอย่าง
คิดว่าน่าจะเป็นรถเพราะพอวางเสร็จรถก็ออกตัวตอนนั้นนึกถึงพ่อแม่.
ท่านจะอยู่อย่างไร
เพราะผมเป็นลูกคนเดียว
แล้วก็นึกถึงพระปลงว่าท่าจะไม่รอดรถวิ่งไปได้ซักพักก็หยุด
รู้สึกตัวว่าถูกยกลอยขึ้น
ก่อนจะถูกโยนโครมลงไปที่หญ้าคาดว่าคงเป็นข้างทางที่ไหนซักแห่ง
กลั้นใจว่าจะโดนอะไรอีกไหม
รู้สึกว่าจะถูกเตะเข้าที่กลางลำตัวอีกสองครั้ง
จากนั้นก็ได้ยินเสียงรถขับออกไป...
เขาคอยจนแน่ใจว่าพวกนั้นไปแล้ว
แล้วก็พยายามแกะเทปแล้วตะกายไปขอความช่วยเหลือ
มีคนขับรถผ่านมา ช่วยเขาพาไปส่ง
ร.พ. ไปนอนไอ.ซี.ยู 1 คืน
เค้าบอกว่าพ่อแม่เคยเตือนแล้วว่าการขับรถกลับบ้านดึก
ให้ระวังคนขับรถมาชนอาจเป็นโจร.............
คนๆนี้โชคดีกว่าหลายคนที่เค้ายังกลับไปหาพ่อแม่ของเค้าได้...โลกนี้มันมีทั้ง
เรื่องที่ดีงาม แล้วก็เรื่องที่ไม่ดี
มันเป็นโลกแห่งความจริง
ขอให้ระวังตัวอย่าชะล่าใจ
หลาย ๆ คนคิดว่า... ไม่เป็นไรแค่นี้เอง แต่แค่นี้เองนั้น
มันเท่ากับเราได้เอาตัวของเราทั้งชีวิตเข้าไปเสี่ยงซะแล้วถึงแม้จะไม่ห่วงตัว
ก็ขอให้คิดถึงคนที่บ้านคนที่เป็นห่วงเราด้วยละกัน..
ป.ล. ถ้าเป็น ญ.
ก็อาจจะสูญเสีย
ทั้งร่างกายทั้งใจ...