ว่าแล้วก็มารีวิวต่อดีักว่า ต่อจากโค้ง1-6 มาแล้ว เราจะเข้าโค้ง 7-11 กันเลยนะครับ
C: โค้ง7 ซ้ายยาวขึ้นเนิน โค้งนี้ จะเร็วไม่เร็ว ดีไม่ดี ขึ้นกับการตั้งลำที่โค้ง6 ซึ่งผมบอกไว้แล้วว่าต้องกอด apex zone เป็นหลักครับ
ถ้าที่โค้ง6 รถปลิวมาอยู่กลางแทรค ก็เป็นไปไม่ได้ที่เราจะกดคันเร่งเข้าโค้ง7ได้เต็มตั้งแต่แรก คืออาจจะต้องมีการยกหรือคลอคันเร่งเยอะเกินไป
แล้วทางเข้าโค้ง7 เป็นทางขึ้นเนิน การยก หรือคลอแบบนั้น มีผลทำให้ความเร็วตกค่อนข้างเยอะ เพราะฉะนั้น ออกจากโค้ง6 ต้องอยู่ในไลน์ที่ถูก
คือขวาสุดๆเท่าที่จะทำได้ ก่อนเริ่มเลี้ยวเข้าโค้ง7 เมื่อเริ่มเข้าได้แล้ว ตลอดย่านโค้งต้อง clip apex ให้แม่น แล้วจะได้เดินคันเร่งได้เต็มถึงโค้ง8
D: โค้ง8-9 หรือที่เรียกว่า Degner นะครับ ตรงนี้ ผมบอกได้เลยว่า ใครทำสองโค้งนี้ดี จะมีผลกับเวลาค่อนข้างมากที่สุดในช่วง sector แรก
เนื่องด้วย degner มีลักษณะเป็นโค้งเกือบหักศอก-ลงเนิน-ต่อเนื่องกัน เราต้องคำนวนให้ดีว่า การจะ attack ต้องทำยังไง ต้องมองแบบไหน
ส่วนตัวผม ก่อนเข้าโค้ง8 สปีดของรถอยู่ที่กลางๆเกียร์5 (ประมาณ170กว่าๆ หรือ180 ถ้าจำไม่ผิด) แต่โค้งนี้เราต้อง carry speed เข้าไปให้ได้
ประมาณ150++ ตลอด วิธีทำก็มีอยู่สองแบบ แต่ผมแนะนำแบบง่ายๆ แบบที่ผมทำ จะคุมได้ง่ายกว่าก็คือ ทำทุกอย่าง early หน่อยนึง
คือ เบรคก่อนจุดเบรคที่เราคิดไว้ แต่เบรคเบาๆ ให้สปีดลดลงมาเหลือประมาณ150ตามที่ผมบอก ตรงนั้นต้องเป็นจุดที่เราเริ่มเลี้ยวพอดี
ตอนเลี้ยว ต้อง early นิดๆ ให้รถลอยข้าม apex แรกไป คลอคันเร่งช่วยนิดๆ(ถ้าสปีดพอดี) หรือเดินคันเร่งเพิ่ม(ถ้าสปีดขาดไป) แล้วปลิวไปพิงที่แบงค์ฝั่งซ้าย
turn9 หรือทางออกของ degner เป็นส่วนที่ยากกว่าเห็นๆละครับ หลายรอบที่ผมเข้าโค้ง8มาโคตรดี แต่มาเสียตรงนี้ค่้อนข้างเยอะ ทำให้เวลาหายไป
เนื่องจากการที่เรามองไม่ขาด หรือมองไม่ออก พอปลิวเข้าโค้ง8มาแล้ว เรามัวแต่เพลินจนลืมเบรคตรงโค้ง9 หรือเบรคหนักไม่พอ หรือ ปล่อยเบรคเร็วไป
หรือรีบเดินคันเร่งมากไป หรือไลน์ผิด เห็นมั้ยครับ มีให้ทำพลาดตั้ง4อย่าง กับโค้งนี้โค้งเดียว เพราะฉะนั้น ใจเย็นไว้ก่อน เข้าโค้ง8มาสวยๆ
แล้วโฟกัสเรื่องพวกนี้ให้ดี ถ้าทำได้พอดี จะออกจากโค้ง9ได้ด้วยสปีดเต็ม ไม่ต้องแก้พวงมาลัยมากนัก
E: โค้ง10-11 ตรงโค้ง10 ไม่มีอะไรมากครับ เราออกจาก degner มาด้วยความเร็วเท่าไหร่ เราก็ใส่เข้าไปในโค้ง10เ่ท่านั้น คือตั้งไลน์แล้วกดเต็ม
ไม่มีพิธีอะไรมาก แต่ให้โฟกัสไปที่โค้ง11 หรือ hairpin ให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้
โค้ง11 หรือ hairpin แบบนี้ มีวิธีเข้าหลายแบบ หลายไลน์ แล้วถ้าเข้าได้เต็ม ก็สามารถไปได้เีร็วทุกไลน์เช่นกัน แต่ประการสำคัญคือ
ตอนที่เบรค รถต้องไม่เสียหลัก คือการที่เราปลิวเข้าโค้ง10มา ถ้าพวงมาลัยหักแรงหรือเร็วเกินไป อาจเกินอาการแปลกๆกับรถได้ ตรงนี้ต้องกะดีๆก่อน
พอเริ่มแตะเบรค ต้องกดให้หนักที่สุดเท่าที่จะทำได้ เลี้ยวเนียนๆ คือเพิ่มองศาพวงมาลัยไปเรื่อยๆจนถึง apex พร้อมๆกับการทำ trailing brake เพื่อให้
น้ำหนักยังอยู่ที่ล้อคู่หน้า(ช่วยให้หัวรถหันได้ง่าย) ให้ระวังตอนเริ่มเลี้ยว อย่ากระชาก และตอนปล่อยเบรค ต้องให้แน่ใจว่ารถต้องไม่ under ในโค้งแบบนี้
ขาออก ข้อผิดพลาดที่เจอง่ายสุดคือ ใจร้อน รีบเดินคันเร่งแรงๆ ในขณะที่พวงมาลัยยังหักอยู่ การคืนพวงมาลัย+เดินคันเร่งต้องสัมพันธุ์กันครับ
ไว้มาต่อครั้งต่อไปนะครับ