ผู้เขียน หัวข้อ: สารพันปัญหาที่รอคำตอบ  (อ่าน 2162 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Pae_Sri

  • เป้าหมาย 300 BHP
  • *
  • กระทู้: 43
  • Popular Vote : 0
  • WRX 2004
สารพันปัญหาที่รอคำตอบ
« เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2010, 10:36:28 pm »
     เริ่มแรก ผมขับรถซัดกับท่อนไม่ที่วางอยู่กลางถนนไม่ทราบที่มาที่ชัดเจนของท่อนไม้ ทำให้รถกระโดดยังกับขับ Rally ผล แมกซ์ ดุ้ง สองล้อ หน้า-หลัง  emo71o
หลังจากนั้นรถก็มีอาการสั่นที่ล้อด้านขวา ซึ่งตัวตัวผมเองคิดมาตลอดว่าเกิดจากล้อที่คดทั้งสองวง หลังจากเปลี่ยนแมกซ์ใหม่ก็ยังมีอาการสั้นอยู่
- จึงอยากทราบว่าเกิดจากส่วนไหนของช่วงล่างที่ทำให้สั่นได้อีกครับ ?

      ต่อมาเรื่องเครื่องครับ ปกติผมเคยสังเกต emo60o ค่า af ของรอบเดินเบารถผม มันจะแกว่งอยู่ระหว่าง 10-14  แล้วอยู่ๆมันขยับขึ้นมาอยู่ที่ 13-16 ในรอบเดินเบา อัตราเร่งในเกียร์ 1-2-3 ปกติ แต่ 4-5 มัน
ไม่ธรรมดาครับโดยที่เกียร์ 4 จะขึ้นช้ามากๆ คาอยู่ประมาณ 4000 rpmแล้วขึ้นช้าๆเหมือนบรรทุกควายอยู่เต็มหลังรถ พยายามเค้นจนต้องเปลี่ยนเกียร์ จบที่ 5500 rpm ความเร็วปลาย 170 km/h ( boost 1.0 bar )
เศร้าครับ  emo48o  ที่อยากทราบก็มีดังต่อไปนี้ครับ
- กล่องที่เรานำไป reflash แล้วค่าของกล่องมันสามารถเปลี่ยนได้เองจากเดิมที่ set ไว้ มากไหมครับ?
- จากค่า af ที่เปลี่ยนไป สันนิฐานได้ไหมครับว่าปั๊มไกล้ไปสู่สุขติ เพราะจ่ายน้ำมันบาง เป็นไปได้ไหมครับ?
- อาการที่เกิดขึ้นเกิดจากการที่เปลี่ยน Blow off จากต่อคาย (HKS) เป็นต่อวน (ของเดิมติดรถ) เป็นไปได้ไหมครับ?
- น้ำมันเครื่องมีผลไหมครับต่ออาการที่เกิดขึ้น ตอนนี้ใช้ของ HKS 10W-45 จะต้องเปลี่ยนไปใช้เบอร์สูงกว่านี้ไหมครับ?
   
    ต่อมาเรื่องจูนเครื่องครับ หลังจากที่ผมจูนในครั้งแรกโดยหวังให้มันใช้กับ 95 โซฮอล เพราะ 95 ธรรมดานั้นราคา emo71o
โดยที่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องเพียงอย่างเดียว กรองยังดำปิดปี๋  หลังจากนั้นผมเปลี่ยนไปเป็นกรองเปลือย อยากทราบ
- ค่าที่จูนไว้มันจะเปลี่ยนไปไหมครับหลังจากเปลี่ยนกรองเปลือย แล้วต้องไปจูนเก็บอีกรอบไหมครับ?
- หากรถผมต้องไปจูนเก็บอีกรอบก็อยากทราบการเตรียมตัวก่อนไปจูนว่าต้องต้องให้ทุกอย่างดีพร้อม เช่น เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนกรองเครื่อง+อากาศ ล้าง Air Flow หรือต้องทำให้มันเจอสภาพแย่ที่สุดจึงค่อยจูน
เพราะเห็นบางคนเคยบอกหากจูนในสภาพแย่ เช่น น้ำมันที่ไม่ดี พอมันไปเจอของดีก็จะทำให้มันยิ่งวิ่งขึ้นไปอีก

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบ ผมหวังว่าคำถามผมคงจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนในบอร์ดไม่มากก็น้อยนะครับ หรืออาจจะไม่มีเลย   emo9o emo49o

ออฟไลน์ ACCESS

  • *
  • กระทู้: 462
  • Popular Vote : 9
  • Life's too short to drive boring cars.
Re: สารพันปัญหาที่รอคำตอบ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2010, 02:05:16 am »
-อย่างแรกนะครับถ้าชนแรงขนาดล้อคดถึง2ล้อ ปีกนกและ/หรือช่วงล่างส่วนอื่นๆ ต้องเกิดความเสียหายด้วยแน่นอนครับ ถ้าอยากเช็คอย่างง่ายๆก็ขึ้นแม่แรงตั้งสามขา แล้วมุดเข้าไปส่องดูครับ หรือถ้าไม่ได้ชอบซ่อมบำรุงด้วยตนเอง แนะนำว่าควรเข้าไปเช็คกับอู่ที่ไว้ใจจะดีที่สุดครับ เพราะสะดวกทั้งการหาสาเหตุและการแก้ปัญหาครับ

-A/F Ratio ที่อ่านได้นี่อ่านมาจากไหนครับ จากเกจ์วัด หรือ อุปกรณ์สำหรับจูนเนอร์โดยตรง? ความแม่นยำและรวดเร็วของเซ็นเซอร์เชื่อถือได้แค่ไหนครับ? ฝังเซ็นเซอร์ที่Downpipeในตำแหน่งที่อ่านค่าได้แม่นยำหรือเปล่า? ถ้าเป็นเกจ์วัด ผมว่าที่น่าเชื่อถือได้และตัวเลขผันแปรรวดเร็วตามค่าจริงมากที่สุดในระดับเกจ์วัดต้องเป็นของAEM Digital Wideband หรือInnovate ถึงจะพอใช้ในการอ้างอิงได้ครับ ส่วนของจูนเนอร์อันนี้ผมไม่ทราบครับ

-ค่าต่างๆในECU.รถแทบทั้งหมด จะมีค่าตายตัวของมันทั้งนั้นครับ เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งค่ามาอย่างไรก็จะเป็นอย่างนั้น ถ้าระบบไม่เกิดปัญหาค่าก็จะคงเดิมครับ แต่ค่าที่กล่องมันสามารถปรับเปลี่ยนได้เอง หลักๆก็จะเป็นอัตราการจ่ายน้ำมันเพื่อให้เหมาะสมกับปริมาณอากาศที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง โดยอ่านค่าจาก แอร์แมสเซ็นเซอร์ หรือที่คนไทย เรียกว่า แอร์โฟลวนั่นเองครับ

-A/F มีค่าสูง หรือแสดงว่าน้ำมันบาง ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง อาจเสีย? ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่หลายๆคนเคยเจอครับ เพราะแรงดันปั๊มลดลง แรงดันในรางหัวฉีดก็ลดลงด้วย แต่หัวฉีดเปิดในเวลาเท่าเดิม การฉีดน้ำมันเข้าไปย่อมน้อยลง  แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าปัญหาเกิดจากปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงหรือเปล่า หรืออาจมีท่ออากาศทั้งระหว่างแอร์โฟลวกับลิ้นปีกผีเสื้อ หรือ ระหว่างกรองอากาศกับแอร์โฟลว หรือใช้กรองเบนซินที่ไม่ได้คุณภาพพอ แล้วเศษสนิมก็ปนมาในน้ำมันทำให้หัวฉีดตัน หรือแอร์โฟลวเสีย และ/หรือจุดอื่นอีกหลายๆจุด ที่ทำให้แสดงผลค่าออกมาบางลงก็มี ปัญหาเครื่องยนต์มีสาเหตุร้อยแปดพันเก้าครับ ขอแนะนำเหมือนข้อแรกแล้วกันนะครับ ถ้าไม่ได้ชอบซ่อมบำรุงด้วยตนเองจริงๆ แนะนำว่าควรเข้าไปเช็คกับอู่ที่ไว้ใจจะดีที่สุดครับ เพราะสะดวกทั้งการหาสาเหตุและการแก้ปัญหาครับ

- ต่อแบบคายทิ้งอันนี้อย่างไรก็ไม่เกี่ยวกับA/F Ratioอยู่แล้ว ส่วนแบบต่อวน เมื่อคุณถอนคันเร่ง ลิ้นปีกผีเสื้อก็จะปิดเกือบ100%หรือเทียบเท่าตอนIdleหรือรอบเดินเบา  โดยBlow off valveก็จะคายไอดีส่วนเกินที่ถูกอัดมาจากเทอร์โบมา แล้วคุณต่อกลับให้คายเข้าไประหว่างหลังกรองอากาศกับทางเข้าโข่งไอดีของเทอร์โบใหม่อีกครั้ง อากาศส่วนที่ต่อวนเข้าไปไม่ได้ถูกBlow off valveพ่น หรือ อัดขนาดแรงที่มันสามารถพุ่งผ่านท่ออินเตอร์ฯ - ผ่านอินเตอร์คูลเลอร์ - ผ่านลิ้นปีกผีเสื้อที่เปิดแง้มอยู่นิดเดียว -  ผ่านท่อไอดี และจนกระทั่งมันทะลักเข้าไปในห้องเผาไหม้ ถึงกับทำให้อากาศทะลักเข้าเครื่องจนทำให้น้ำมันบางได้แน่นอน  Blow off valveจึงไม่ใช่ปัญหาในเรื่องน้ำมันบางครับ

- น้ำมันเครื่อง ถ้าเดิมๆหรือไม่ได้โมดิฟายด์มาก ความหนืดตัวหลัง45นี่สบายมากครับ สเป็คออกจากโรงงานPorsche Turbo S ระดับ500 แรงม้า ยังให้ใส่ 5W30 เลยครับ แต่ถ้าพวกแบริ่งชาฟท์ มันจะมีปัญหา น้ำมันเครื่องก็ส่วนหนึ่งครับ แต่ปัญหาหลักๆจะเป็นที่ภายในเครื่องยนต์ของซูบารุมากกว่า  ช่วงนี้HKS กับMobil1 ของปลอมระบาดหนัก แล้วก็ปลอมฝีมือมากครับของแถมเสื้อฯลฯเหมือนหมดครับ ระวังไว้ก็ดีครับ

-ถ้าคุณไปจูนตอนกรองอากาศดำปิ๊ดปี๋ แล้วได้ค่าที่เหมาะสม แล้วคุณเปลี่ยนกรองเปลือยมา ควรไปจูนอีกรอบอย่างยิ่งครับ เพราะว่า กรองอันหนึ่ง อากาศไหลเข้าไม่สะดวก กับอีกอัน อากาศไหลเข้าได้ดีมาก ค่าต่างๆรวมทั้งการสั่งฉีดน้ำมันย่อมเพี้ยนไปมากครับ

-เมื่อไปจูนเก็บอีกรอบ หรือไม่ว่าจะจูนครั้งไหนๆ สิ่งที่ควรเช็คทุกครั้งก็คือ ระบบหล่อลื่นและระบบหล่อเย็นทั้งหมดครับ ฝาเหลืองๆทั้งหลายในห้องเครื่องนั่นแหละครับ รวมทั้งช่วงล่างและยางด้วย จึงจะปลอดภัย และจูนออกมาได้เต็มประสิทธิภาพของรถคันนี้ครับ และผลพลอยได้คือเมื่อเกิดปัญหาต่างๆ เราจะไม่ต้องมาไล่เช็คว่าเกิดจากจุดนั้นหรือจุดนี้หรือไม่ เพราะเราเช็คความเรียบร้อยก่อนจูนแล้วครับ

-จูนในสภาพย่ำแย่ ซึ่งพอเจอน้ำมันที่ดีก็จะยิ่งวิ่งดีขึ้นไปอีก?  อันนี้มีส่วนเป็นจริง แต่ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องครับ ขอยกตัวอย่างหน่อยครับ ทำนองเดียวกันกับอู่ซ่อมรถส่วนมากในไทยที่แนะนำให้ลูกค้ารันอินเครื่องยนต์ด้วยน้ำมันเครื่องแบบไม่สังเคราะห์สุดห่วยบรม เพื่อให้มีการหล่อลื่นที่ไม่ดีและมีการสึกหรอสูงเพื่อจะได้รันอินเสร็จในระยะทางที่น้อย แต่หารู้ไม่ว่าการสึกหรอนั้นเป็นแบบหยาบ รวมทั้งส่วนอื่นที่คุณไม่ได้ต้องการจะให้มันสึกหรอก็จะยอมให้มันสึกหรอเพราะน้ำมันห่วยๆไปด้วยหรือ? ซึ่งที่ถูกต้อง ต้องใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์100%คุณภาพดี การรันอินย่อมต้องใช้ระยะทางมากกว่ารันอินด้วยน้ำมันเครื่องกระจอกหลายร้อยกิโล แต่ชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ย่อมเรียบและสนิทกันมากกว่าแน่นอน อันนี้ก็แล้วแต่คนว่าจะอยากใช้ตะไบหยาบหรือตะไบละเอียดกับเครื่องยนต์นะครับ
         ถ้าน้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพแย่ที่เราเติมมันมีออคเทนไม่ถึงหรือมีการเก็บมาเกินเดือนครึ่ง น้ำมันจะบูด สารเคมีต่างๆในเบนซินจะเปลี่ยนไปครับ ขอรับรองว่าแรงตกไปมากกว่า30%ครับ พอเรามาเติมน้ำมันที่ดีกว่ามันก็จุดระเบิดได้รุนแรงกว่า เผาไหม้ได้สมบูรณ์กว่า ในไทม์มิ่งเดิม มันก็ย่อมต้องแรงขึ้นจนเรารู้สึกได้ครับ  แต่ถ้าเราใช้น้ำมันดีๆในการจูนและใช้งาน มันย่อมต้องสมบูรณ์กว่าอยู่แล้วครับ เพราะน้ำมันที่คุณภาพต่ำกว่า แย่กว่าทั้งออคเทนไม่ถึงและการผสมของเหลวปนเปื้อนอื่นๆในน้ำมัน ยิ่งถ้าจูนแกสโซฮอล์ด้วย นี่มีตัวทำละลายหลายอย่างที่จะใส่ลงไปเพื่อกำไรได้เยอะครับ อาจไม่ใช่แค่แรงน้อยกว่าน้ำมันดีๆที่มีคุณภาพนะครับ เครื่องยนต์คุณอาจได้รับความเสียหายไปด้วย เมื่อก่อนผมเติมแถวชานเมือง โดนน้ำมันแย่ๆมาก็หลายหนครับ อย่าว่าแต่วิ่งดีหรือไม่ดีเลยครับ แค่สตาร์ทให้ติดยังยากครับ เข็ดเลยครับ ต้องมีปั๊มประจำที่ไว้ใจได้ในเส้นทางที่เราขับผ่านเป็นประจำครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 08, 2010, 02:05:04 pm โดย alpachino »
.