หุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์หนุนนำตลาด นักวิเคราะห์คาดจากการเก็งกำไรงบผลประกอบบริษัทจดทะเบียนรายไตรมาส ผลักดันตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวบวก ประเมินกรอบการลงทุนให้แนวรับที่ 1,630 จุด และแนวต้านที่ 1,640-1,645 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 โดยปิดตลาดปรับตัวขึ้น 4.79 จุด หรือ +0.29% โดยปิดที่ 1,638.73 จุด มูลค่าการซื้อขาย 69,469.56 ล้านบาท โดยในระหว่างวันดัชนีตลาดหุ้นแกว่งตัวอยู่ในแดนบวก ซึ่งปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 1,642.60 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,635.22 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 603 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 566 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 1,088 หลักทรัพย์
ขณะที่ปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -436.95 ล้านบาท และ นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -1.77 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า 429.11 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า 9.61 ล้านบาท
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1.TRUE มูลค่าการซื้อขาย 3,158.32 ล้านบาท ปิดที่ 4.12 บาท เพิ่มขึ้น 0.34 บาท
2.CBG มูลค่าการซื้อขาย 2,270.01 ล้านบาท ปิดที่ 120.00 บาท ลดลง 3.50 บาท
3.KCE มูลค่าการซื้อขาย 1,721.57 ล้านบาท ปิดที่ 92.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
4.BAM มูลค่าการซื้อขาย 1,638.97 ล้านบาท ปิดที่ 20.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท
5.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,442.10 ล้านบาท ปิดที่ 65.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.2
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTA ปิดที่ 424.00 บาทเพิ่มขึ้น 20.00 บาทหรือ4.95%
2.HANA ปิดที่ 92.75 บาท เพิ่มขึ้น อ6.25 บาทหรือ7.23%
3.EA ปิดที่ 69.00บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาทหรือ3.76%
4.BH ปิดที่ 156.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 1.62%
5.KCE ปิดที่ 92.50 บาท เพิ่มขึ้น1.75 บาทหรือ +1.93%
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
X
1.CBG ปิดที่ 120.00 บาท ลดลง 3.50 บาทหรือ 2.83%
2.CPN ปิดที่ 57.00 บาท ลดลง 1.25 บาทหรือ 2.15%
3.MINT ปิดที่ 32.50 บาท ลดลง 0.75 บาทหรือ 2.26%
4.BGRIM ปิดที่ 40.50 บาท ลดลง 0.50 บาทหรือ 1.22%
5.GULF ปิดที่ 41.25 บาท ลดลง 0.50 บาทหรือ 1.20%
ส่วนดัชนี SET100 ปิดที่ 2,244.41 จุด เพิ่มขึ้น 9.87 จุด หรือ 0.44% ด้านดัชนี SET50 ปิดที่ 984.06 จุด เพิ่มขึ้น 4.47 จุด หรือ 0.46% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 557.38 จุด ลดลง -0.71 จุด หรือ -0.13%
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวถึงภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้ว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่ง Sideway Up ได้แรงหนุนกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ขึ้นนำตลาดฯ ลักษณะสอดคล้องกับตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวในแดนบวก ทั้งตลาดหุ้นไต้หวัน และเกาหลีใต้ เป็นไปในทิศทางเดียวกับดัชนี Nasdaq ที่ยืนบวกได้ดีจากกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ตลาดในกลุ่ม TIP จะอ่อนตัวลง ยกเว้นตลาดหุ้นไทยที่บวกได้ จากการเล่นเก็งกำไรผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) และแนวโน้มไตรมาส 4/64 ที่จะฟื้นตัว ซึ่งตลาด ฯ ยังเป็นลักษณะของการเลือกเล่นหุ้นเป็นรายตัวตามปัจจัยเฉพาะ
อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามการประกาศงบ ฯ วันนี้วันสุดท้าย และหลังจากนั้นจะเป็นการให้ข้อมูลของ บจ.โดยเฉพาะมุมมองต่อผลงานไตรมาส 4/64 และปี 65 อย่างไรก็ดี มองว่ากลุ่ม Domestic play ยังคงแข็งแรงจากการเปิดประเทศ ส่วนนอกประเทศก็ให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศสำคัญ อย่าง GDP ยูโรโซนงวดไตรมาส 3/64 เป็นต้น ขณะที่แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ มองว่าแนวโน้มดัชนียังคงยังแกว่งตัวไซด์เวย์ โดยประเมินแนวรับที่ 1,630 จุด และแนวต้านที่ 1,640-1,645 จุด
