ตลาดหุ้นไทยปิดตลาด +4.48 จุด โบรก ฯ มองหุ้นกลุ่มสื่อสารเข้ามาช่วยหนุน แม้จะมีแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงานเข้ามา และความกังวลการแพร่ระบาดโควิด-19 รอบใหม่ แนะจับตา การคัดเลือกประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คนใหม่
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.48 จุด หรือ +0.27% โดยปิดที่ 1,649.54 จุด มูลค่าการซื้อขาย 94,488.27 ล้านบาท โดยในระหว่างวัน หุ้นไทยแกว่งตัวอยู่ในแดนบวกโดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 1,653.33 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,645.09 จุด
ขณะที่ส่วนหลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 775 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 485 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง 989 หลักทรัพย์
ขณะที่ปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า 1,738.67 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า 1,647.04 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -2,174.39 ล้านบาท และ บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -1,211.32 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.TRUE มูลค่าการซื้อขาย 11,361.52 ล้านบาท ปิดที่ 4.76 บาท เพิ่มขึ้น 0.44 บาท
2.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 7,244.28 ล้านบาท ปิดที่ 209.00 บาท เพิ่มขึ้น 13.00 บาท
3.DTAC มูลค่าการซื้อขาย 4,054.15 ล้านบาท ปิดที่ 45.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.75 บาท
4.PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,486.63 ล้านบาท ปิดที่ 37.25 บาท ลดลง 0.50 บาท
5.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,065.56 ล้านบาท ปิดที่ 64.25 บาท ลดลง 0.75 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.ADVANC ปิดที่ 209.00 บาทเพิ่มขึ้น 13.00 บาทหรือ 6.63%
2.DELTA ปิดที่ 430.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาทหรือ0.94%
3.DTAC ปิดที่ 45.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.75 บาทหรือ 9.09%
4.INTUCH ปิดที่ 78.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาทหรือ 3.62%
5.COM7 ปิดที่ 78.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาทหรือ 2.97%
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.AEONTS ปิดที่ 192.50 บาท ลดลง 3.00 บาทหรือ1.53%
2.TQM ปิดที่ 108.50 บาท ลดลง 2.00 บาทหรือ1.81%
3.SCC ปิดที่ 393.00 บาท ลดลง 2.00 บาทหรือ 0.51%
4.PTTEP ปิดที่ 117.50 บาท ลดลง 1.50 บาทหรือ 1.26%
5.MINT ปิดที่ 31.75 บาท ลดลง 1.00 บาทหรือ 3.05%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,258.99 จุด เพิ่มขึ้น 10.05 จุด หรือ 0.45% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 989.18 จุด เพิ่มขึ้น 4.79 จุด หรือ 0.49% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 563.20 จุด เพิ่มขึ้น 1.13 จุด หรือ 0.20%
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าคาด แม้กลุ่มพลังงานคอยถ่วงจากราคาน้ำมันปรับฐาน แต่ได้หุ้นกลุ่มสื่อสารเข้ามาช่วยหนุน และยังมีหุ้นกลุ่มอื่น ๆ บวกได้บ้าง ซึ่งโดยรวมจึงอยู่ในทิศทางที่ดีพอควร ระหว่างเทรดดัชนีฯสามารถแกว่งตัวมาเหนือ 1,650 จุดได้
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้แกว่งไซด์เวย์ทั้งในแดนบวก-ลบในกรอบแคบ ขณะที่ตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้บวกได้เล็กน้อยหลังจากวันศุกร์ลงแรงจากความกังวลการแพร่ระบาดโควิด-19 รอบใหม่ นอกจากนี้ยังต้องติดตามประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คนใหม่ และตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศสำคัญ อย่าง PMI เบื้องต้นภาคการผลิตและภาคบริการของหลายประเทศที่จะทยอยออกมา ขณะที่แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (23 พ.ย.) นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า ตลาดฯคงแกว่งแคบหลังยังยืนเหนือ 1,650 จุดไม่ได้ พร้อมให้แนวรับ 1,640-1,635 จุด ส่วนแนวต้าน 1,658 จุด