นายฮาราลด์ ลิงค์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีกลุ่มทุนขนาดใหญ่ในประเทศตะวันออกกลางติดต่อบริษัทมาเพื่อต้องการให้เข้าไปร่วมลงทุนพัฒนา
โครงการผลิตไฟฟ้าจากแผงเซลล์แสงอาทิตย์ (โซลาร์) ขนาดกำลังผลิต 100 เมกะวัตต์ (MW) และ 30 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทมองเป็นโอกาสในการขยายฐานการผลิตไฟฟ้าและสร้างรายได้ในอนาคต โดยคาดจะมีการเดินทางไปเจรจากับกลุ่มทุนเหล่านี้ในช่วง ม.ค.65
นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาการขยายฐานการลงทุนโครงการพลังงานทดแทน หรือโซลาร์และพลังงานลม ขนาดกำลังผลิต 20-50 เมกะวัตต์ในยุโรปตะวันออกเพิ่มเติม โดยเฉพาะประเทศโครเอเชีย คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 21 ล้านยูโร เพื่อเสริมศักยภาพการผลิตไฟฟ้าให้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทวางงบลงทุนไว้ราว 1 แสนล้านบาทเพื่อรองรับการทำ M&A และการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าที่มีสัญญาซื้อขายไฟ (PPA) ได้แก่ โรงไฟฟ้า SPP Replacement จำนวน 5 แห่ง กำลังการผลิตรวม 700 MW ซึ่งจะทยอย COD ในปี 65, โรงไฟฟ้าไฮบริดที่สนามบินอู่ตะเภา แบ่งเป็นการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติกับโซลาร์ฟาร์ม และระบบกักเก็บพลังงาน กำลังผลิต 95 MW , โรงไฟฟ้า SPP อ่างทองกำลังผลิต 280 MW
โดยแหล่งเงินลงทุนก็จะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่เตรียมไว้ 22,000-25,000 ล้านบาท รวมถึงเตรียมออกหุ้นกู้วงเงิน 17,000-20,000 ล้านบาท และส่วนที่เหลือเป็นเงินกู้รูปแบบของโปรเจ็คต์ไฟแนนซ์
ด้านการนำเข้าและจัดหาเชื้อก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เบื้องต้นบริษัทฯ มีแนวทางนำเข้าทั้งหมด 500,000 ตัน และน่าจะสามารถนำเข้าได้ในปี 66 เนื่องจากเป็นช่วงที่ราคา LNG จะอยู่ในระดับที่เหมาะสมในการนำเข้ามาใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าต่างๆ ของบริษัทฯ