ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่พุ่งขึ้นเมื่อวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 28,282.01 จุด เพิ่มขึ้น 354.64 จุด หรือ +1.27% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 23,690.01 จุด เพิ่มขึ้น 340.63 จุด หรือ +1.46%
นักลงทุนทั่วโลกคลายกังวล หลังจากที่นายแพทย์เฟาชีกล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ CNBC เมื่อวานนี้ว่า "แม้ดูเหมือนว่าเร็วเกินไปที่จะออกมาสรุปในเรื่องนี้ แต่นับจนถึงขณะนี้เรายังไม่มีข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าไวรัสโอมิครอนก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยรุนแรง"
ขณะที่นักวิเคราะห์จากบริษัทไอจี กรุ๊ป (IG Group) ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนเปิดเผยว่า รายงานในแอฟริกาใต้ซึ่งพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเป็นครั้งแรกนั้นระบุว่า สถานการณ์ผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลยังอยู่ในระดับที่ไม่เกินกำลังเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยบวกสำหรับนักลงทุน
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในภูมิภาคที่เปิดเผยไปแล้ว สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานว่า ยอดส่งออกเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ยอดนำเข้าพุ่งขึ้น 31.7% ส่วนยอดเกินดุลการค้าในเดือนพ.ย.อยู่ที่ระดับ 7.172 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 8.275 หมื่นล้านดอลลาร์ และน้อยกว่ายอดเกินดุลเดือนต.ค.ซึ่งอยู่ที่ระดับ 8.454 หมื่นล้านดอลลาร์
ทางด้านธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ แม้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวร้อนแรงก็ตาม โดยที่ผ่านมานั้น RBA ถูกกดดันให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วขึ้นในปีนี้ เนื่องจากราคาอสังหาริมทรัพย์พุ่งแซงหน้าการขยายตัวของค่าจ้างของออสเตรเลีย
