กลายเป็นข่าวร้ายที่คนไทยคงไม่อยากให้เกิดขึ้นกรณีการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่"โอมิครอน"รายแรกในประเทศไทย เป็นชายไทยสัญชาติอเมริกัน แม้ว่าระยะสั้น
บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยหลังผ่านพ้นช่วงวันหยุดยาวจะกลับมาเคลื่อนไหวเชิงบวก สวนทางกับกระแสข่าวเชิงลบดังกล่าว ส่วนหนึ่งมาจากความเชื่อมั่นว่าทางกระทรวงสาธารณสุขมีศักยภาพรับมือกับความเสี่ยงการระบาดระลอกใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับมีการประเมินด้วยว่าอาการของผู้ติดเชื้อ "โอมิครอน" ไม่รุนแรงมากนัก แม้ว่าแพร่ระบาดเร็วกว่าสายพันธุ์ที่ผ่านมา 2-5 เท่าก็ตาม
แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นของการระบาดเชื้อ "โอมิครอน" ช่วงปลายปีนี้และอาจต่อเนื่องไปถึงปี 65 อาจเป็นปัจจัยความเสี่ยงสร้างแรงกดดันให้กับบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้ในระยะถัดไป และหากสถานการณ์กรณีเลวร้ายที่เกิดขึ้นจำนวนผู้ติดเชื้อ "โอมิครอน" ในไทยมีแนวโน้มเร่งตัวอย่างรวดเร็วเหมือนกับการระบาดรอบที่ผ่านมา ความเชื่อมั่นนักลงทุนที่หดตัวกลายเป็นแรงถล่มขายในลักษณะภาวะ "Panic sell" จะทุบดัชนีฯทรุดตัวลงไปได้ลึกสุดแค่ไหน ??
สำหรับสัปดาห์นี้ "Wealth Me Please" ชวนไปค้นหาคำตอบหลายกรณีการระบาดระลอกใหม่ของเชื้อ "โอมิครอน" ในไทยตั้งแต่เลวร้ายที่สุดที่ Downside Risk อาจฉุดให้ดัชฯร่วงลึกถึง 1,500 จุด พร้อมกับแนวทางปฎิบัติของนักลงทุนรายย่อยว่าต้องปรับพอร์ตการลงทุนกันอย่างไรเพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่ไม่คาดฝันผ่านมุมมองของนายธวัชชัย อัศวพรไชย รองกรรมการผู้จัดการ บล.เอเอสแอล
ทั้งนี้ รายการ "Wealth Me Please" จะนำข้อมูลความรู้ด้านการเงินและการลงทุน ผ่านมุมมองของผู้เชี่ยวชาญหลายๆท่านนำมาต่อยอดช่วยสร้างความมั่งคั่งได้ด้วยตัวเอง