น.ส.ปิติรัตน์ รัตนโชติ ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) เปิดเผยว่า บริษัทประเมินทิศทางราคาน้ำมันดิบดูไบปี 65 เฉลี่ยอยู่ที่ 65.5 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลงเล็กน้อยจากปีนี้ที่เฉลี่ยอยู่ที่ 66.4 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่ยังอยู่ในระดับสูง สะท้อนภาพเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับประเทศไทยคาดการณ์ว่า
เศรษฐกิจในปี 65 จะขยายตัวราว 3.5-4% จากปีนี้เติบโต 1.2% ได้แรงหนุนมาจากการเปิดประเทศในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา โดยทางสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวจำนวน 2 แสนราย ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ และจะสร้างรายได้เข้าประเทศประมาณ 1.3 แสนล้านบาท และในปีหน้าก็คาดจะมีนักท่องเที่ยวกว่า 5 แสนราย
อีกทั้งกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีมากขึ้นหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ประชาชนก็เริ่มเดินทางกันมากขึ้น มีการบริโภคกันมากขึ้น รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของภาครัฐ ที่ช่วยต่อการจับจ่ายใช้สอย และการส่งออกก็ดีขึ้นด้วย ทำให้ส่งผลต่อความต้องการใช้ในประเทศ และดีต่อธุรกิจของบริษัทด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายในเรื่องของการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่ปัจจุบันก็มีจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มเป็น 3 รายแล้ว ซึ่งก็ต้องรอความชัดเจนจากผู้เชี่ยวชาญว่าส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ หรือธุรกิจอย่างไร แต่ในเบื้องต้นมองว่าแม้โอมิครอนจะสามารถแพร่กระจายได้เร็วกว่าสายพันธุ์เดลต้า 2-5 เท่า แต่ว่าอาการจะน้อยกว่า รวมถึงจะต้องติดตามการกระจายวัคซีนในส่วนของการฉีควัคซีนเข็ม 3 หรือเข็มBooster และสถานการณ์หนี้ภาคครัวเรือนด้วย
น.ส.ปิติรัตน์ กล่าว่า สำหรับแผนการลงทุนในปีนี้บริษัทยอมรับว่าจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้เกิดความล่าช้า จึงได้ปรับเป้าหมายใหม่ โดยธุรกิจน้ำมันนั้น การขยายสถานีบริการน้ำมันในประเทศ จากเดิมที่คาดจะเปิดได้ 95 สาขา คาดว่าทั้งปีจะเปิดได้ 86 สาขา ขณะที่ธุรกิจศูนย์ซ่อมรถยนต์ FIT Auto ได้ขยายเพิ่มเป็น 12 สาขา จากแผนเดิมที่ 10 สาขา ส่วน EV Station ที่ร่วมกับบริษัทในกลุ่ม ปตท. การติดตั้ง EV Charging stations คาดทำได้ 97 สาขาในปีนี้ จากแผนเดิม 100 สาขา เนื่องจากติดปัญหาการขอใบอนุญาต แต่ยังคงเป้าขยายการติดตั้งให้ครบ 300 สาขา ในสิ้นปี 65
ด้านธุรกิจ Non-Oil แบ่งเป็น ร้านคาเฟ่ อเมซอน คาดเปิดสาขาได้ 407 สาขา จากแผนเดิม 420 สาขา ส่วนร้าน Texas chicken ยังคงแผนเปิดได้ทั้งสิ้น 20 สาขา
ส่วนธุรกิจต่างประเทศ (International) ที่ปัจจุบันมีการดำเนินการอยู่ใน 10 ประเทศ ประกอบด้วย กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และลาว คาดจะสามารถขยายปั๊มน้ำมันได้ 43 สาขาในปีนี้ จากเป้าหมายเดิมที่ 45 สาขา รวมถึงสาขาร้านคาเฟ่ อเมซอน ก็จะเปิดได้ 46 สาขา จากเดิมคาดเปิดได้ 51 สาขา