ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ ตามทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดบวกเมื่อคืนนี้ ขานรับรายงานที่ว่าวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์และไบออนเทคจำนวน 3 โดสมีประสิทธิภาพสูงในการสร้างภูมิต้านทานไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 28,818.53 จุด ลดลง 42.09 จุด หรือ -0.15% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 24,210.02 จุด เพิ่มขึ้น 213.15 จุด หรือ +0.89%
บริษัทไฟเซอร์ อิงค์และไบออนเทคออกแถลงการณ์ร่วมกันเมื่อวานนี้ว่า วัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทคจำนวน 3 โดสมีประสิทธิภาพสูงในการสร้างภูมิต้านทานต่อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน โดยผลการทดลองในเบื้องต้นบ่งชี้ว่าการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นช่วยเพิ่มภูมิต้านทานของแอนติบอดีได้ถึง 25 เท่า เมื่อเทียบกับการฉีดวัคซีนเพียง 2 เข็ม โดยการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ได้ลดความสามารถในการต่อสู้ของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนลงเหลือเท่ากับไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิมซึ่งร่างกายสามารถสร้างภูมิต้านทานด้วยการฉีดวัคซีนเพียง 2 เข็ม
ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เกิดจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 2.3% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.5% ในเดือนต.ค.
อย่างไรก็ดี ดัชนี CPI เดือนพ.ย.ของจีนขยายตัวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่าจะปรับตัวขึ้น 2.5% เนื่องจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้อุปสงค์และการบริโภคชะลอตัวลง
ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน เพิ่มขึ้น 12.9% ในเดือนพ.ย. แม้ว่ามากกว่าที่นักวิเคราะห์ที่ระดับ 12.4% แต่ตัวเลขดังกล่าวชะลอลงจากเดือนต.ค.ที่มีการขยายตัว 13.5% เนื่องจากรัฐบาลจีนออกมาตรการสกัดการพุ่งขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และดำเนินนโยบายที่เข้มงวดเพื่อบรรเทาปัญหาขาดแคลนพลังงาน
นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ โดยดัชนี CPI เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งหากสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ก็จะเป็นปัจจัยที่ทำให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย