ผู้เขียน หัวข้อ: ดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งกว่า 100 จุด ก่อนสหรัฐเผยตัวเลขเงินเฟ้อ  (อ่าน 531 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Jessicas

  • *
  • กระทู้: 511
  • Popular Vote : 0


ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อในคืนนี้

ณ เวลา 18.55 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 115 จุด หรือ 0.32% สู่ระดับ 35,775 จุด

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 6.7% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2525

นอกจากนี้ คาดว่า ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบรายเดือน

ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน และดีดตัวขึ้น 4.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2534

ก่อนหน้านี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 6.2% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2533 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.9% จากระดับ 5.4% ในเดือนก.ย.

นอกจากนี้ ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.6% จากระดับ 0.4% ในเดือนก.ย.

ขณะเดียวกัน ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.4% จากระดับ 0.2% ในเดือนก.ย. และพุ่งขึ้น 6.2% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2533 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.0% จากระดับ 4.0% ในเดือนก.ย.

นายทอม กราฟ หัวหน้านักวิเคราะห์ด้านตราสารหนี้ของบริษัทบราวน์ แอดไวเซอรี คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ประจำเดือนพ.ย.ที่จะมีการเปิดเผยในคืนนี้จะสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยเฉพาะตัวเลขดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งจะเป็นปัจจัยท้าทายต่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้เร่งปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นปีหน้า

"ผมคิดว่าตัวเลขเงินเฟ้อนี้จะไม่เป็นผลดีต่อหุ้น และจะกดดันตลาดให้ปรับฐานต่อไปในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ท่ามกลางความวิตกที่ว่าเงินเฟ้อจะเป็นปัญหาจนทำให้เฟดต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ย" นายกราฟกล่าว
ด้านนายสตีเวน บลิตซ์ หัวหน้านักวิเคราะห์จากบริษัททีเอส ลอมบาร์ด คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนมี.ค.2565 ซึ่งเป็นเดือนเดียวกับที่เฟดยุติการทำ QE

"กำหนดเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ถูกร่นขึ้นมา เนื่องจากเงินเฟ้อได้เร่งตัวขึ้นในอัตราที่ไม่คาดคิดมาก่อน ขณะที่เฟดรู้ตัวเมื่อสายเกินไปแล้วว่าพวกเขาต้องรีบดำเนินการ" นายบลิตซ์กล่าว
ทางด้าน FedWatch Tool ของ CME Group ซึ่งวิเคราะห์การซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐ บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็นครั้งแรกในเดือนพ.ค.หรือมิ.ย.2565 และมีแนวโน้ม 61% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2565