ดอลลาร์ปรับตัวแคบเมื่อเทียบสกุลเงินหลัก แม้สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 40 ปี
ณ เวลา 21.13 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์อ่อนค่า 0.01% สู่ระดับ 113.43 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.02% สู่ระดับ 128.12 เยน และขยับขึ้น 0.01% สู่ระดับ 1.129 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.06% สู่ระดับ 96.21
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 6.8% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2525 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.7%
นอกจากนี้ ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.7%
ดัชนี CPI ได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาอาหารและพลังงาน ซึ่งทะยานขึ้นสูงสุดในรอบ 13 ปี เมื่อเทียบรายปี
ขณะเดียวกัน ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และพุ่งขึ้น 4.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2534 สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์เช่นกัน
นักวิเคราะห์ระบุว่า สาเหตุที่ดอลลาร์ปรับตัวแคบในวันนี้ เนื่องจากได้ดีดตัวขึ้นก่อนหน้านี้รับคาดการณ์เงินเฟ้อที่จะพุ่งขึ้นแล้ว
นอกจากนี้ นักลงทุนคลายความวิตกที่เห็นว่าตัวเลข CPI ต่ำกว่าระดับ 7% ที่นักวิเคราะห์บางรายคาดการณ์ไว้
ตลาดจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 14-15 ธ.ค. หลังมีการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นในวันนี้