ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันพฤหัสบดี (9 ธ.ค.) โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ขณะที่นักลงทุนจับตารอการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในวันศุกร์นี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 476.99 จุด ลดลง 0.37 จุด หรือ -0.08%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,008.23 จุด ลดลง 6.34 จุด หรือ -0.09%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,639.26 จุด ลดลง 47.83 จุด หรือ -0.30% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,321.26 จุด ลดลง 15.79 จุด หรือ -0.22%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง นำโดยหุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซ ซึ่งร่วงลง 1.1% หลังราคาน้ำมันปรับตัวลง และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังคงร่วงลงต่อไป ขณะที่บรรดานักลงทุนวิตกว่า ไวรัสโอมิครอนอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เนื่องจากรัฐบาลต่าง ๆ จะเพิ่มมาตรการเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาด
ราคาน้ำมันที่ลดลง ถ่วงหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง โดยหุ้นบีพี, หุ้นเชลล์ และหุ้นโททาล เอนเนอร์จีส์ ปรับตัวลงราว 0.6-1.5% ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของจีนซึ่งเป็นประเทศนำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก หลังจากมีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 2 แห่งของจีน
ตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับไวรัสโอมิครอน เนื่องจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญเตือนให้ระมัดระวัง เพราะยังไม่ทราบข้อมูลแน่ชัดเกี่ยวกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าว
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ปรับตัวลงอีก 0.8% ขณะที่นักลงทุนหันไปซื้อหุ้นกลุ่มปลอดภัยก่อนการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อจุดยืนด้านนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
บรรดานักลงทุนชะลอการซื้อขาย ขณะรอการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจคาดว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะขยายตัว 6.7% เมื่อเทียบรายปีในเดือนพ.ย. ซึ่งจะเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2525