ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันศุกร์ (10 ธ.ค.) โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ขณะที่การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐที่เป็นไปตามคาดการณ์นั้นแทบไม่ได้ช่วยลดความไม่แน่นอนที่เกี่ยวกับนโยบายการเงินของสหรัฐ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 475.56 จุด ลดลง 1.43 จุด หรือ -0.30%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,991.68 จุด ลดลง 16.55 จุด หรือ -0.24%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,623.31 จุด ลดลง 15.95 จุด หรือ -0.10% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,291.78 จุด ลดลง 29.48 จุด หรือ -0.40%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันจากความวิตกที่ว่า มาตรการต่าง ๆ ในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนนั้น อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
แต่ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดสัปดาห์นี้บวก 2.8% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 6.8% ในเดือนพ.ย.เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2525 หลังจากเพิ่มขึ้น 6.2% ในเดือนต.ค.
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มค้าปลีกนำตลาดปรับตัวลงในวันศุกร์ โดยหุ้นโรลส์-รอยซ์ ร่วง 3.37%, หุ้นไอเอจี ร่วง 3.2% และหุ้นเอ็นเทน ร่วงลง 2.12%
แต่หุ้นกลุ่มรถยนต์ปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด นำโดยหุ้นเดมเลอร์ เอจี ซึ่งพุ่งขึ้น 2.9% หลังหุ้นเดมเลอร์ ทรัค ซึ่งเป็นบริษัทลูก ปรับตัวขึ้นในการซื้อขายวันแรกที่ตลาดหุ้นแฟรงค์เฟิร์ต