ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าในแดนบวก ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (10 ธ.ค.) หลังการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อเดือนพ.ย.ของสหรัฐที่เป็นไปตามคาด ซึ่งได้ช่วยลดแรงกดดันของนักลงทุนที่วิตกว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคุมเข้มนโยบายการเงินอย่างรุนแรง รวมถึงความเคลื่อนไหวเชิงบวกหลังจากที่รัฐบาลจีนให้คำมั่นว่า จะออกมาตรการส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 28,696.68 เพิ่มขึ้น 258.91 จุด หรือ +0.91% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 24,238.13 จุด เพิ่มขึ้น 242.41 จุด หรือ +1.01%
บรรดาผู้นำจีนได้ให้คำมั่นที่จะลดอัตราการเก็บภาษีและให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการในการประชุมแผนยุทธศาสตร์ประจำปีที่ย้ำถึงการรักษาเสถียรภาพ หลังจากที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ของจีน ขยายตัวเพียง 4.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี
นอกจากนี้ ตลาดได้รับแรงหนุนหลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 6.8% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2525 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 6.7%
นักลงทุนจับตาการรายประชุมของธนาคารกลางหลายแห่งในสัปดาห์นี้ รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยนักวิเคราะห์จาก ANZ Research ให้ความเห็นว่า "แนวโน้มที่เฟดจะเร่งปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จะมีความชัดเจนขึ้นในการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) สัปดาห์นี้" พร้อมทั้งคาดการณ์ว่า เฟดอาจปรับลดวงเงิน QE ลงมากถึง 3 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือนในเดือนม.ค.นี้ จากปัจจุบันที่ปรับลด 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน