นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) เปิดผยว่า บริษัท
วางแผนเปิดโครงการใหม่ในปี 65 จำนวน 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 2.8 หมื่นล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม 5 โครงการ และแนวราบ 2 โครงการ
ภายใต้โครงการใหม่ดังกล่าวบริษัทเตรียมเปิดคอนโดมิเนียม 2 แบรนด์ใหม่ ครั้งแรก ได้แก่
1. แบรนด์ โคโค่ พาร์ค (COCO PARC) พัฒนาเป็นโครงการมูลค่า 4.62 พันล้านบาท ครั้งแรกในการจับมือเพื่อสร้างสรรค์แบรนด์ใหม่ระหว่าง ANANDA X DUSIT เกิดเป็นประสบการณ์โครงการที่อยู่อาศัยพร้อมบริการสุดพิเศษจากโรงแรมดุสิตธานี ด้วยมาตรฐานระดับโรงแรมห้าดาวเฉพาะโครงการ COCO PARC Managed by DUSIT คอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ก่อนเปิดขาย โดยเป็นคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ที่จะเปลี่ยนรูปแบบในการอยู่อาศัยให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เอกสิทธิ์เพียง 486 ครอบครัว ซึ่งเป็นครั้งแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยสำหรับความร่วมมือครั้งนี้ ทั้งนี้เพื่อสร้างจุดแข็งในด้านมาตรฐานที่พักอาศัยเหนือระดับให้กับลูกค้าในโครงการ
2. แบรนด์ คัลเจอร์ ครั้งแรกกับโครงการแนวคิดใหม่ของการอยู่อาศัยในสังคมร่วมสมัย ด้วยการร่วมปลุกปั้นแบรนด์ใหม่เพื่อเปลี่ยนนิยามชีวิตเมือง ANANDA X SUSTAINABILITY CONCEPTS BY SCRATCH, FROM THE CREATOR OF WONDERFRUIT ผู้นำวิถีชีวิตเมืองที่เน้นความยั่งยืนและเป็นมิตรกับธรรมชาติอย่างสร้างสรรค์ CULTURE การรวมตัวกันทางความคิดของกลุ่มคนเมืองที่มีความเชื่อในการมองหาทางเลือกการใช้ชีวิตแนวใหม่ เน้นความใกล้ชิดกับธรรมชาติ ผสานความยั่งยืน สร้างแรงบันดาลใจและสะท้อนตัวตนที่โดดเด่นในการอยู่อาศัยสู่สุดยอด 2 ทำเลศักยภาพใจกลางเมือง ได้แก่
2.1 โครงการ คัลเจอร์ ทองหล่อ (Culture Thonglor) มูลค่า 3.38 พันล้านบาท ทำเลใจกลางแหล่งธุรกิจและ LIFESTYLE เพียง 230 เมตรจากสถานีทองหล่อ การเดินทางสะดวกสบาย โดดเด่นด้วยการดีไซน์ที่คำนึงถึงคุณภาพชีวิตและประสบการณ์ร่วมของผู้อยู่อาศัย ยกระดับการใช้ชีวิตในคอนโดมิเนียมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย และบริการที่ได้มาตรฐานโรงแรมชั้นนำที่สามารถเลือกสรรบริการต่างๆ ได้ ตอบโจทย์ความต้องการอยู่อาศัยและการพักผ่อนภายในโครงการอย่างเต็มที่
2.2 โครงการ คัลเจอร์ จุฬา (Culture Chula) มูลค่า 6.03 พันล้านบาท เพียง 350 เมตร จาก MRT สามย่าน และ 240 เมตรจาก BTS ศาลาแดง ตั้งอยู่ใจกลางสถานศึกษาชั้นนำ เสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของสามย่าน วิถีชีวิตยุคใหม่ที่เชื่อมต่อเทคโนโลยีเข้ากับแนวคิดรักษ์โลกที่สร้างสรรค์อย่างลงตัวทั้งการทำงาน และการพักผ่อนด้วย CO-WORKING SPACE พร้อมรองรับการใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว 2 โครงการคอนโดมิเนียม New Series ใหม่ภายใต้แบรนด์หลัก ด้วย ไอดีโอ ได้แก่ โครงการ ไอดีโอ พหล- สะพานควาย (Ideo Phahol-Saphan Khwai) มูลค่า 7.52 พันล้านบาท ด้วยที่สุดของทำเล ติดบันไดทางขึ้นรถไฟฟ้าแบบ 0 เมตร และรายล้อมไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ต่างๆ ของคนเมือง และโครงการไอดีโอ รามคำแหง ? ลำสาลี สเตชั่น (Ideo Ramkhamhaeng Lam Sali Station) มูลค่า 2.08 พันล้านบาท ทำเลที่เป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าถึง 3 สาย ให้คุณสะดวกในทุกจุดหมาย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ และส่วนกลางแนวคิดใหม่เพื่อทุกโหมดของการใช้ชีวิต LIVE-WORK-PLAY-LEARN
สำหรับโครงการแนวราบมีแผนเปิดตัว 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ อาร์เทล พระราม 9 (Artale Rama9) มูลค่า 3.53 พันล้านบาท ด้วยจุดเริ่มต้นแนวคิด LIVE IMAGINATION นิยามใหม่ที่แตกต่างของโครงการบ้านเดี่ยวระดับ Hi-End ใจกลางเมือง จนมาสู่ความสำเร็จ และผลตอบรับที่ดีของ ARTALE Phatthanakan และ ARTALE Ekkamai-Ramintra ทำให้ แบรนด์ ARTALE เป็นแบรนด์โครงการบ้านเดี่ยวระดับ Hi-End ได้รับการยอมรับอย่างดี และต่อยอดสู่ ARTALE RAMA 9 โครงการบ้านระดับ Luxury ใจกลางเมืองบนทำเลใจกลางพระรามเก้าที่มีการออกแบบและพัฒนาโครงการด้วยความเข้าใจในความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า ARTALE โดดเด่นด้วย Design Concept ภายใต้แนวคิด URBAN LUXURY POOL VILLA ที่จะทำให้การอยู่อาศัยเป็นการใช้ชีวิตใน POOL VILLA หรูใจกลางเมือง
ขณะที่ยังมีอีก 1 แบรนด์ใหม่ของโครงการแนวราบ คือ NEW HOUSING BRAND ติวานนท์-แจ้งวัฒนะ แบรนด์โครงการบ้านใหม่ล่าสุดจากอันดาฯที่มีแนวคิดที่ชัดเจนด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งบริษัทฯ มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหาบ้านหลังแรก หรือผู้ที่กำลังเริ่มต้นชีวิตครอบครัวกับ 2 รูปแบบที่อยู่อาศัยทั้งทาวน์โฮมและบ้านแฝดในราคาเริ่มเพียง 2 ล้านต้น ซึ่งทั้ง 7 โครงการคุณภาพที่อนันดาฯ ได้สร้างสรรค์ขึ้นมาในครั้งนี้ถือว่าเป็นการนำเสนอให้ลูกค้าเพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคนเมืองที่มีความหลากหลาย และความต้องการที่แตกต่างกัน นำเสนอรูปแบบโครงการที่สามารถตอบโจทย์ในแต่ละความต้องการนั้นได้อย่างชัดเจน
แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะอยู่ในช่วงเวลาที่ท้าทาย แต่ในส่วนของบริษัทก็ยังสามารถสร้างการเติบโตได้ทั้งในส่วนของยอดขายและยอดโอนมีสัญญาณที่ดีขึ้นที่ชัดเจน โดยในช่วง 3 เดือน (ก.ค.? ก.ย. 64) เติบโตถึง 20% และคาดว่าสามารถเติบโตได้ถึงระดับตัวเลข 2 หลักต่อเนื่องใน 3 เดือนสุดท้ายของปี 64 โดยตั้งเป้ายอดขายในช่วงไตรมาส 4/64 ที่ 4.1 พันล้านบาท และตั้งเป้ายอดโอนกว่า 2.55 พันล้านบาท โดยมาจากโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการแนวราบ อีกทั้งยังมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) กว่า 1.28 หมื่นล้านบาท ที่รองรับรายได้ในช่วง 2 ปีข้างหน้า
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ANAN กล่าวว่า บริษัทมั่นใจในความพร้อมมีความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน มีศักยภาพในการลงทุนขยายโครงการต่างๆ ด้วยการตุนกระแสเงินสดกว่า 5 พันล้านบาท และเมื่อเร็วๆนี้ผู้ถือหุ้นได้ให้ความเห็นชอบในการเพิ่มทุนของบริษัทเพื่อรองรับจังหวะที่สำคัญในการเติบโตของบริษัทต่อไป
นอกจากนี้บริษัทมีแผนในการออกหุ้นกู้มูลค่าราว 5 พันล้านบาท ในเดือน ม.ค. 65 และในส่วนของการสนับสนุนจากพันธมิตรเรายังคงได้รับการสนับสนุนที่แข็งแกร่งและต่อเนื่องจากพันธมิตรชั้นนำระดับอินเตอร์เนชั่นแนล เช่น มิตซุย ฟูโดซัง, บีทีเอส กรุ๊ป, เพรซิเดนท์ ดี เวนเจอร์, ดุสิตธานี, สแครทช์ เฟิร์สท์ และดิ แอสคอทท์ เป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน
สำหรับเซอร์วิสอพารท์เม้นท์คาดว่ารายได้ประจำ (Recurring Income) จะกลับมาดีขึ้นในไตรมาส 4/64 ภายหลังจากการเริ่มเปิดประเทศและรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าปี 65 โครงการเซอร์วิสอพารท์เม้นท์จะสามารถเปิดดำเนินการได้ทั้ง 5 โครงการ คือ โครงการซัมเมอร์เซ็ต พระราม 9 โครงการแอสคอทท์ แอมบาสซี่ สาทร โครงการแอสคอทท์ ทองหล่อ บางกอก โครงการไลฟ์ สุขุมวิท 8 บางกอก และโครงการซัมเมอร์เซ็ต พัทยา