ผู้เขียน หัวข้อ: ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าลบ วิตกโอมิครอนฉุดเศรษฐกิจโลก  (อ่าน 477 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Prichas

  • *
  • กระทู้: 1,059
  • Popular Vote : 0

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนกังวลสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 สายพันธ์โอมิครอน หลังมีรายงานยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นในยุโรปและอาจนำไปสู่การใช้มาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งสร้างความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะได้รับผลกระทบ

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 28,055.28 จุด ลดลง 490.40 จุด หรือ -1.72% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 22,858.50 จุด ลดลง 334.13 จุด หรือ -1.44%

นักลงทุนยังคงจับตาการระบาดของไวรัสโอมิครอนอย่างใกล้ชิด โดยล่าสุดนั้นนายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษประกาศว่า มีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลอังกฤษจะยกระดับความเข้มงวดของมาตรการควบคุมโควิด-19 ก่อนช่วงเทศกาลคริสต์มาส เนื่องจากอัตราการติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นและความไม่แน่นอนของสายพันธุ์โอมิครอน

นายจาวิดเปิดเผยว่า รัฐบาลอังกฤษกำลังประเมินสถานการณ์ปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเตือนประชาชนให้ใช้ความระมัดระวังในช่วงเวลาที่นักวิทยาศาสตร์ยังคงดำเนินการตรวจสอบข้อมูล โดยนายจาวิดระบุว่า ปัจจุบันยังมีข้อมูลไม่มากนักเกี่ยวกับสายพันธุ์โอมิครอน แต่โรงพยาบาลต่าง ๆ ก็เตรียมรับมือกับยอดผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้น



ทางด้านนายคาร์ล เลาเทอร์บัค รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของเยอรมนี ประกาศว่ารัฐบาลเยอรมนีจะไม่ล็อกดาวน์ประเทศในช่วงเทศกาลคริสต์มาส แต่เตือนว่าเยอรมนีอาจไม่สามารถหยุดการระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 5 พร้อมสนับสนุนการบังคับฉีดวัคซีนว่าเป็นวิธีเดียวที่จะหยุดการแพร่ระบาดได้

นอกจากนี้ ทางการเยอรมนีได้สั่งผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนห้ามเข้าสถานประกอบการที่ไม่จำเป็นต่อการดำรงชีพเมื่อต้นเดือนธ.ค.นี้ เพื่อควบคุมไม่ให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอน

ส่วนความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เผยว่า ทรัพย์สินของครัวเรือนญี่ปุ่นพุ่งทำสถิติสูงสุดที่ 1,999.8 ล้านล้านเยน ณ สิ้นเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูลในปี 2548 และเพิ่มขึ้น 5.7% เมื่อเทียบรายปี เนื่องจากประชาชนยังคงงดการใช้จ่ายเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และราคาหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้น