นาย ปรับ ทักราล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.บูทิค คอร์ปอเรชั่น (BC) เปิดเผยว่า บริษัทได้ส่งต่อโครงการโรงแรมที่สำคัญอย่าง ซิทาดีนส์ สุขุมวิท 23 ให้แก่บริษัท ภิรัชบุรี จำกัด บริษัท
พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และสำนักงานชั้นนำ มีผลตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2564
หลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ การขายเงินลงทุนในโรงแรมซิทาดีนส์ สุขุมวิท 23 ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับบริษัท The Ascott Limited ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม CapitaLand ที่สิงคโปร์ ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในฐานะผู้นำธุรกิจรูปแบบสร้าง ? ดำเนินงาน ? ขาย (Build, Operate and Sell model (BOS)) ของไทย ต่อเนื่องมาจากความสำเร็จในการขายโครงการซัมเมอร์ฮิลล์ (Summer Hill) และซัมเมอร์ ฮับ ออฟฟิศ (Summer Hub Offices) เมื่อกลางปี 2562 บริษัทเน้นการเพิ่มมูลค่าให้กับที่ดินด้วยการพัฒนาโครงการหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ต คอมมูนิตี้มอลล์ และอาคารสำนักงาน
"การขายโครงการโรงแรมซิทาดีนส์ สุขุมวิท 23 กรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ใจกลางความเจริญย่านสุขุมวิทนั้น ตอกย้ำความสำเร็จของธุรกิจแนว BOS ของเรา เราเล็งเห็นความต้องการโครงการโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ที่มีคุณภาพในย่านสุขุมวิท จึงตั้งใจสร้างขึ้นผ่านการวิเคราะห์แนวโน้มของตลาด และการสร้างมูลค่าให้แก่ที่ดินที่น่าจะติดตลาดในอนาคต"นายปรับ กล่าว
ทั้งนี้ ซินาดีนส์ สุขุมวิท 23 บางกอก ตั้งอยู่ใจกลางย่านสุขุมวิท เป็นที่พักในอุดมคติของเหล่านักธุรกิจและนักท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าที่เป็นที่นิยม สถานที่ให้ความบันเทิง รวมไปถึงร้านอาหารไทยและนานาชาติ และอาคารสำนักงานต่าง ๆ อีกทั้งยังสามารถเดินทางไปยังรถไฟฟ้าสถานีอโศกและรถไฟใต้ดินสถานีสุขุมวิทได้อย่างสะดวกง่ายดาย
"ถึงแม้ว่าสภาวะตลาดในช่วงนี้จะตึงเครียด แต่ธุรกิจรูปแบบ BOS ช่วยให้บูทิครักษาสภาพคล่องทางการเงิน จากความคล่องตัวในการขายเงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยดำเนินการแล้วเสร็จภายในหนึ่งถึงห้าปีนับจากโครงการแล้วเสร็จ เราจึงพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าและเรามั่นใจว่า ธุรกิจรูปแบบ BOS จะสร้างความสนใจให้กับธุรกิจของเราและผู้ลงทุน ด้วยการตอบโจทย์ของการนำเสนอไลฟ์สไตล์และที่พักในย่านที่ความต้องการของลูกค้ายังไม่ได้รับการตอบสนอง" นายปรับ กล่าว
สำหรับเม็ดเงินที่ได้จากการขายเงินลงทุนจะถูกนำไปต่อยอดธุรกิจในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา และโครงการที่น่าสนใจในอนาคต ซึ่งจะมีโครงสร้างการลงทุนคล้ายกับ Private Equity ที่ผู้ลงทุนจากธุรกิจครอบครัว (family office) และกองทุนส่วนบุคคลได้ร่วมลงทุนกับ BC ในโครงการของธุรกิจแนว BOS โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูงสุดของนักลงทุนและผู้ถือหุ้น
ปัจจุบัน BC มีโครงการที่อยู่ภายในการดำเนินการ บริหารและ/หรือ พัฒนาโครงการโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ทั้งสิ้น 2124 ห้อง มีพื้นที่อาคารรวมประมาณ 140,000 ตารางเมตร ซึ่งรวมถึง โครงการซัมเมอร์พอยท์ (Summer Point) โครงการโคฟฮิลล์ (Cove Hill) ย่านเจริญกรุงซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนา
และโครงการอื่น ๆ ที่รับบริหารจัดการให้สำหรับโครงการโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ ได้แก่ โนโวเทล เชียงใหม่ นิมมาน เจอร์นี่ย์ ฮับ ซิทาดีนส์ สุขุมวิท 8 บางกอก ซิทาดีนส์ สุขุมวิท 11 บางกอก ซิทาดีนส์ สุขุมวิท 16 บางกอก และ ซิทาดีนส์ สุขุมวิท 23 บางกอก โอ๊ควู้ด เรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 24 โอ๊ควู๊ด โฮเทล เจอร์นี่ย์ ฮับ พัทยา และ โอ๊ควู๊ด โฮเทล เจอร์นี่ย์ ฮับ ภูเก็ต นอกจากนี้ทางกลุ่มบริษัทกำลังขยายแพลตฟอร์มการพัฒนาโรงแรมในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในย่านหลัก ๆ ของสุขุมวิท เมืองภูเก็ต และเชียงใหม่