ผู้เขียน หัวข้อ: ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ไหลไม่หยุด ล่าสุดดิ่งกว่า 400 จุด  (อ่าน 438 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Naprapats

  • *
  • กระทู้: 931
  • Popular Vote : 0
ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดิ่งลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดทรุดตัวกว่า 400 จุด บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวลงในคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจะกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ณ เวลา 20.31 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 430 จุด หรือ 1.22% สู่ระดับ 34,822 จุด

นายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว กล่าวว่า โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้แพร่ระบาดไปทั่วโลกแล้ว และสหรัฐกำลังเผชิญปัญหาจากการที่มีประชาชนจำนวนมากยังคงไม่เข้ารับการฉีดวัคซีน

ทางด้านผู้เชี่ยวชาญต่างมีความกังวลต่อแนวโน้มตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในช่วงปลายปีนี้ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน

"การคาดการณ์เรื่องซานต้าแรลลี่ในปีนี้เป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะตลาดได้ขึ้นมามากแล้วในขณะนี้ นอกจากนี้ ปริมาณการซื้อขายจะเบาบางลง ซึ่งจะทำให้ความผันผวนมากขึ้นในช่วงท้ายปี ขณะที่นักลงทุนมีความกังวลสูงเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน และการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด" นายไมเคิล เอโรน หัวหน้านักวิเคราะห์ของสเตท สตรีท โกล. แอดไวเซอร์ กล่าว

ส่วนนายเจฟฟ์ ไคลน์ท็อป หัวหน้านักวิเคราะห์จากชาร์ลส์ ชเวบ กล่าวว่า "ขณะที่เราก้าวเข้าสู่ช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของปีนี้ วอลุ่มการซื้อขายจะลดน้อยลง ขณะที่ความผันผวนจะมีมากขึ้น และแม้อาจเกิดซานต้าแรลลี่ แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าปริมาณการซื้อขายที่เบาบางจะทำให้ตลาดแกว่งตัวในช่วงขาลงเช่นกัน"

"เป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์ภาวะตลาดในช่วงปลายปี อันเนื่องจากปริมาณการซื้อขายที่ซบเซา และการขาดปัจจัยหนุนจากข่าวด้านเศรษฐกิจหรือข่าวภาคธุรกิจที่จะกระตุ้นตลาด ทำให้ดัชนีถูกขับเคลื่อนจากข่าวเกี่ยวกับโอมิครอนเป็นหลัก" นายไคลน์ท็อปกล่าว
ดัชนี S&P 500 ดิ่งลงเกือบ 2% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน และการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

อย่างไรก็ดี S&P 500 ยังคงดีดตัวขึ้น 1.2% เมื่อเทียบกับต้นเดือนธ.ค. และพุ่งขึ้น 23% จากต้นปี 2564

ที่ผ่านมา ปรากฎการณ์ "ซานต้า แรลลี่" มักเกิดขึ้นเป็นเวลา 7 วันทำการ โดยมีขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปีปัจจุบัน รวมทั้ง 2 วันแรกของปีใหม่

จากการรวบรวมสถิติการปรับตัวของตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วง 7 วันของซานต้า แรลลี่ พบว่า ดัชนีดาวโจนส์สามารถปิดตลาดในแดนบวกถึง 78% นับตั้งแต่ปี 2471

ด้านคณะกรรมการจัดการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) แถลงในวันนี้ว่า ทางคณะกรรมการได้ตัดสินใจเลื่อนการประชุม WEF ออกไป อันเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

"เวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่มจะเลื่อนการประชุมประจำปีที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ออกไปเป็นช่วงฤดูร้อนของปี 2565 เนื่องจากมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน" แถลงการณ์ของ WEF ระบุ
ก่อนหน้านี้ WEF มีกำหนดจัดการประชุมประจำปีในวันที่ 17-21 ม.ค.2565 โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญเดินทางเข้าร่วมการประชุมที่เมืองดาวอส เพื่อหารือกันเกี่ยวกับผลกระทบของโควิด-19 ที่จะมีต่อเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม การเมือง และสังคม

ที่ผ่านมา นักลงทุนให้ความสนใจต่อการประชุมประจำปีของ WEF ซึ่งผู้เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวมีจำนวนหลายพันคน โดยจะมีการเชิญบุคคลผู้มีชื่อเสียงในแวดวงอุตสาหกรรมและการเมือง มาแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม