ภาวะ
ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 25.93 จุด ตามตลาด ตปท.รับ Sentiment ลบโควิดโอมิครอนระบาดหนัก
ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,615.80 จุด ลดลง 25.93 จุด (-1.58%) มูลค่าการซื้อขาย 82,357.88 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,633.80 จุด และระดับต่ำสุด 1,612.96 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 335 หลักทรัพย์ ลดลง 1,523 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 281 หลักทรัพย์
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียติดลบเฉลี่ยกว่า 1%, ตลาดยุโรปเทรดบ่ายนี้ติดลบเฉลี่ย 2% และดาวโจนส์ฟิวเจอร์สก็ติดลบราว 1.4% รับ Sentiment เชิงลบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนในยุโรปที่มีการแพร่ระบาดพนักจนหลายประเทศต้องกลับมาใช้มาตรการคุมเข้ม
นอกจากนี้ ยังรับแรงกดดันจากสหรัฐฯกรณีที่นายโจ แมนชิน วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครต ประกาศไม่สนับสนุนกฎหมาย Build Back Better ทำให้ร่างกฏหมายฉบับที่เป็นแผนการใช้จ่ายมูลค่า 1.75 ล้านล้านดอลลาร์อาจไม่ผ่าน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ทำให้มีแรงขายสินทรัพย์เสี่ยงออกมาก่อน
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (21 ธ.ค.) นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า ตลาดฯยังมีน้ำหนักของการพักตัว จากการแพร่ระบาดโควิดสายพันธุ์โอมิครอนที่น่าจะได้เห็นการลุกลามมากขึ้น โดยให้แนวรับ 1,607 ถัดไป 1,600-1,590 จุด ส่วนแนวต้าน 1,625-1,630 จุด
อย่างไรก็ดี แนะติดตามผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพรุ่งนี้จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มหรือไม่ และมาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) รวมถึงให้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 22 ธ.ค.นี้
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
EA มูลค่าการซื้อขาย 4,078.93 ล้านบาท ปิดที่ 93.00 บาท ลดลง 0.25 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,538.07 ล้านบาท ปิดที่ 136.50 บาท ลดลง 4.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,307.45 ล้านบาท ปิดที่ 122.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,230.61 ล้านบาท ปิดที่ 58.75 บาท ลดลง 1.75 บาท
JMT มูลค่าการซื้อขาย 2,028.21 ล้านบาท ปิดที่ 66.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท