ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันจันทร์ (20 ธ.ค.) โดยปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้น ท่ามกลางความวิตกว่า การคุมเข้มมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโอมิครอนพุ่งสูงขึ้น
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 467.35 จุด ลดลง 6.55 จุด หรือ -1.38%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,870.10 จุด ลดลง 56.53 หรือ -0.82%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,239.67 จุด ลดลง 292.02 หรือ -1.88% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,198.03 จุด ลดลง 71.89 หรือ -0.99%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ โดยหุ้นทุกกลุ่มปรับตัวลง นำโดยกลุ่มน้ำมัน, เหมืองแร่ และกลุ่มรถยนต์
หุ้นกลุ่มเดินทาง ร่วงลง 1% แต่ก็ฟื้นตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดของวัน เนื่องจากเทรดเดอร์เชื่อว่าข่าวดีเกี่ยวกับวัคซีนได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มนี้ โดยมีข่าวว่า วัคซีนป้องกันโควิดเข็มบูสเตอร์ของโมเดอร์นาดูเหมือนจะสามารถป้องกันไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนได้ในการทดลองในห้องแล็บ
สื่อรายงานในวันจันทร์ว่า อังกฤษอาจกำหนดข้อจำกัดใหม่เพื่อชะลอการระบาดของไวรัสโอมิครอนหลังเทศกาลคริสต์มาส หลังจากเนเธอร์แลนด์เริ่มล็อกดาวน์ครั้งที่ 4 และประเทศอื่น ๆ ในยุโรปพิจารณาที่จะคุมเข้มมาตรการในช่วงคริสต์มาส
หุ้นกลุ่มน้ำมันร่วงลงตามราคาน้ำมัน เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโอมิครอนในยุโรปทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมัน
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ระบุว่า สภาพคล่องที่ลดลงในสัปดาห์ท้าย ๆ ของเดือนธ.ค. อาจทำให้การปรับตัวของตลาดเป็นไปอย่างรุนแรง