ผู้เขียน หัวข้อ: GUNKUL บวก 3.81% ขานรับแผนแลกหุ้นกลุ่ม JMART ต่อยอดธุรกิจกัญชง-ไฟฟ้า  (อ่าน 402 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ luktan1479

  • *
  • กระทู้: 1,132
  • Popular Vote : 0

หุ้น GUNKUL ราคาวิ่งขึ้น 3.81% มาอยู่ที่ 5.45 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 233.58 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.05 น. โดยเปิดตลาดที่ 5.35 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 5.50 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 5.30 บาท


ขณะที่หุ้น JMART บวก 0.44% มาอยู่ที่ 57.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 16.36 ล้านบาท

หุ้น SINGER ทรงตัวที่ 51.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 4.46 ล้านบาท

นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ มาร์ท (JMART) เปิดเผยว่า JMART และ บมจ.กัลกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) ได้ดำเนินการแลกหุ้น (Swap) ฝ่ายละมูลค่าประมาณ 500 ล้านบาทในวันนี้ ภายหลังจากการร่วมมือดำเนินธุรกิจ Solar Rooftop, สถานีชาร์จรถไฟฟ้า (EV Charging Station), กัญชง กัญชา เพื่อสุขภาพ และจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าและโซลาร์โซลูชั่น

ขณะที่ในอีก 6 เดือนข้างหน้าก็จะดำเนินการแลกหุ้นเพิ่มเติมอีกฝ่ายละมูลค่าประมาณ 500 ล้านบาทเช่นเดียวกัน ซึ่งจะรวมเป็นทั้งสิ้น 1,000 ล้านบาท เพื่อตอกย้ำความมั่นใจว่ากลุ่มเจมาร์ทและ GUNKUL จะมุ่งมั่นการทำธุรกิจและต่อยอดต่อไปด้วยกันทั้งคู่

ด้านนายกัลกุล ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการ GUNKUL กล่าวว่า การตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่าง กลุ่มเจมาร์ทและ GUNKUL ในครั้งนี้ จะสามารถสร้างการเติบโตและปรากฎการณ์ใหม่ในตลาดเมืองไทย ซึ่งมองตลาดพลังงานจากนี้ไปจะขยายลงสู่ตลาดล่างมากขึ้น โดยความแข็งแกร่งของกลุ่มเจมาร์ท โดยเฉพาะ บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) ซึ่งจะมีบทบาทในการจัดจำหน่ายแผงโซลาร์ที่ติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) และการติดตั้ง รวมถึงการให้สินเชื่อ ก็จะช่วยสนับสนุนให้รายย่อย หรือคนท้องถิ่นเข้าถึงพลังงานได้ อีกทั้งยังมีการศึกษาการติดตั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้า (EV Charging Station) เพื่อนำเข้าสู่ครัวเรือนในราคาที่ถูกลง หรือสามารถผ่อนได้

อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะดำเนินการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนดังกล่าวได้ในต้นปี 65 โดยจะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาทันที ซึ่งเบื้องต้นจะมีการออกผลิตภัณฑ์สู่ตลาดเป็นอย่างแรกคือ โซลาร์เซล ขณะเดียวกันยังร่วมกันศึกษานำ JFINCOIN มาใช้ในการประโยชน์ หรือนำมาปรับใช้กับสินค้าและบริการตามความเหมาะสมในอนาคตด้วย

ด้าน นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ SINGER เปิดเผยว่า ซิงเกอร์จะใช้จุดแข็งในเรื่องช่องทางการจำหน่ายและตัวแทนขายครอบคลุมทั่วประเทศ นำเสนอสินค้าและบริการภายใต้ JV ครั้งนี้ ออกสู่ตลาด รวมทั้ง เป็นการเพิ่มผลิตภัณฑ์กลุ่มใหม่ ทั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าและโซลาร์โซลูชั่น รวมทั้งการติดตั้ง Solar Rooftop ไปยังฐานลูกค้าของเราให้ง่ายต่อการเข้าถึง เป็นสินค้าที่ทุกบ้านจำเป็นต้องมี ลงลึกถึงระดับหมู่บ้าน และกลุ่มลูกค้ารากหญ้าทั่วประเทศไทย

ขณะที่ EV Charging Station จะสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทั้งในกลุ่มผู้บริโภค และกลุ่มร้านค้า ด้วยโปรแกรมการผ่อนสินค้ากับซิงเกอร์ รับเทรนด์พลังงานสะอาด และตลาดกัญชงที่กำลังจะขยายในวงกว้างในปี 65 สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการผสานจุดแข็งของทั้ง 3 บริษัท โดย GUNKUL บริษัทผู้นำด้านพลังงานซึ่งมีกลุ่มธุรกิจทั้งการลงทุนและก่อสร้างโรงไฟฟ้า กลุ่มพลังงานทดแทนและนวัตกรรมพลังงาน โดยล่าสุดจับตลาดกัญชงกัญชาต่อยอดกำไรบริษัท ร่วมมือกับ JMART บริษัทโฮลดิ้งที่มีกลยุทธ์การลงทุนแบบ Investment Holding Company (IHC) โดยมีกลุ่มธุรกิจด้านค้าปลีก การเงิน และเทคโนโลยี และเป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ผลักดันดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันให้ประสบความสำเร็จ

ขณะที่ SINGER เป็นผู้นำด้านเครือข่ายการขายครอบคลุมทั่วประเทศ เดินหน้าโครงการความร่วมมือเพื่อต่อยอดไปสู่ธุรกิจที่เป็นโอกาส เติมเต็มอีโคซิสเต็มให้ครบวงจร ปัจจุบัน อยู่ระหว่างการหารือร่วมกัน โดยธุรกิจภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ ประกอบด้วย

1. จัดจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าและโซลาร์โซลูชั่นผ่านเครือข่ายการจัดจำหน่าย และการจัดหาสินเชื่อโดยกลุ่มธุรกิจในเครือของบริษัททั่วประเทศ สำหรับสินค้าอุปกรณ์ไฟฟ้าและโซลาร์โซลูชั่น

2. พัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กัญชง ผ่านเครือข่ายการจัดจำหน่ายของกลุ่มธุรกิจในเครือของบริษัทรวมถึงศึกษาความเป็นไปได้ในการทำเรื่องศูนย์กัญชงกัญชาเพื่อสุขภาพ

3. พัฒนาการร่วมลงทุนให้การลงทุนติดตั้งระบบ Solar Rooftop เพื่อประหยัดค่าไฟฟ้า และโอกาสการขายไฟฟ้าร่วมกัน ภายใต้เครือของกลุ่มธุรกิจเจมาร์ท และการลงทุนทางด้าน EV Charging Station

4. ศึกษาความเป็นไปได้ Synergy ด้านอื่นเพิ่มเติม รวมถึงเรื่องการศึกษาเรื่อง Utility Token เพื่อนำมาปรับใช้ในผลิตภัณฑ์ของบริษัท

สัดส่วนการลงทุนร่วมกันครั้งนี้ GUNKUL จะเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 50% JMART ถือหุ้นสัดส่วน 40.1% และ SINGER ถือหุ้น 9.9% โดยมีเงินลงทุนขั้นต้น 1 ล้านบาท ในการนี้ บริษัทจะดำเนินการเพื่อการศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินธุรกิจดังกล่าว โดยหากผลการศึกษาที่ได้เป็นที่พึงพอใจ และได้ประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย บริษัทจะดำเนินการเจรจาเข้าทำสัญญาร่วมทุนกับผู้ร่วมทุน และจัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายในไตรมาส 1/65