ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (27 ธ.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มเฮลท์แคร์ โดยหุ้นโรชปรับตัวขึ้นหลังผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับโรคโควิด-19 ได้รับการอนุมัติด้านกฎระเบียบ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 485.49 จุด เพิ่มขึ้น 2.98 จุด หรือ +0.62%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,140.39 จุด เพิ่มขึ้น 53.81 จุด, +0.76% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,835.25 จุด เพิ่มขึ้น 78.94 จุด, +0.50% ส่วนตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการในวันจันทร์ที่ 27 ธ.ค. เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น ขณะที่การซื้อขายเป็นไปอย่างเบาบาง โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มปลอดภัย อาทิ กลุ่มเฮลท์แคร์ และกลุ่มก่อสร้างนำตลาดปรับตัวขึ้น
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นมากที่สุดในตลาดหุ้นยุโรปปีนี้ โดยอาจบวกขึ้นราว 33% ตามมาด้วยหุ้นกลุ่มธนาคาร
ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง โดยดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
ดัชนี STOXX 600 มีแนวโน้มพุ่งขึ้น 21.7% ในปีนี้ หลังจากการเปิดเผยผลการวิจัยในสัปดาห์ที่ผ่านมาช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับไวรัสโอมิครอน
หุ้นโรช ปรับตัวขึ้น 0.9% หลังจากองค์การอาหารและยาของประเทศสวิสเตอร์แลนด์ (Swissmedic) อนุมัติยา Ronapreve ซึ่งเป็นแอนติบอดีที่พัฒนาร่วมกับยา Regeneron เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19
นอกจากนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐได้อนุมัติใช้ชุดตรวจโควิด-19 ประจำบ้านของโรชเพื่อใช้เป็นกรณีฉุกเฉิน โดยใช้ได้กับผู้มีอายุ 14 ปีขึ้นไป