ผู้เขียน หัวข้อ: CHO เผย AOGOU ได้ไฟเขียวออก IPO รูปแบบ SPAC  (อ่าน 362 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ deam205

  • *
  • กระทู้: 1,097
  • Popular Vote : 0
CHO เผย AOGOU ได้ไฟเขียวออก IPO รูปแบบ SPAC
« เมื่อ: ธันวาคม 29, 2021, 03:29:37 am »
CHO เผย AOGOU ได้ไฟเขียวออก IPO รูปแบบ SPAC ในตลาด NASDAQ พุ่งเป้าลงทุน EV

บมจ.ช ทวี (CHO) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการลงทุนในบริษัทย่อยเพื่อระดมทุนในรูปแบบ Special Purpose Acquisition Company SPAC ในตลาดหลักทรัพย์ National Association of Securities Dealers Automated Quotations (NASDAQ) ของสหรัฐอเมริกาว่า ภายหลังจากบริษัท AROGO Capital Acquisition Corp. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา (The U.S. Securities and Exchange Commission) เพื่อขออนุมัติการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ Global Market

เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.64 ตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ได้แจ้งต่อบริษัทย่อย อนุมัติการออกและเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในรูปแบบ SPAC ในวันที่ 27 ธ.ค.64 ตามเวลาประเทศสหรัฐอเมริกา ในชื่อบริษัท Arogo Capital Acquisition Crop. ภายใต้สัญลักษณ์ AOGOU ซึ่งแต่ละหน่วยประกอบด้วยหุ้นสามัญคลาส A หนึ่งหุ้น และใบสำคัญแสดงสิทธิที่ไถ่ถอน (Warrant) ได้หนึ่งใบ ซึ่งให้สิทธิแก่ผู้ถือในการซื้อหุ้นสามัญประเภท A หนึ่งหุ้นในราคา 11.50 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น เมื่อหลักทรัพย์ที่ประกอบด้วยหน่วยเริ่มซื้อขายจะแยกกัน หุ้นสามัญประเภท A และใบสำคัญแสดงสิทธิ (Warrant) จะถูกจดทะเบียนในตลาด Nasdaq ภายใต้สัญลักษณ์ AOGO และ AOGOW ตามลำดับ โดยออกและเสนอขายจำนวน 9,000,000 หน่วย หน่วยละ 10 เหรียญสหรัฐ เนื่องจากนักลงทุน สนใจจองซื้อเกินจำนวนเสนอขาย จึงได้เสนอขายเพิ่มเติม (Greenshoe Option 15%) อีกจำนวน 1,350,000 หน่วย รวม AOGOU สามารถขายได้จำนวน 10,350,000 หน่วย (มูลค่าประมาณ 3,600 ล้านบาท) ถือเป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่สามารถระดมทุนใน รูปแบบ SPAC ผ่านตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ

ขณะนี้ AOGOU ยังไม่ได้เลือกเป้าหมายการลงทุนหรือเข้าซื้อกิจการกับบริษัทใด แต่มีแผนค้นหากิจการเป้าหมายเพื่อนำเงินดังกล่าวเข้าลงทุนหรือเข้าซื้อกิจการในธุรกิจประเภทเทคโนโลยียานพาหนะไฟฟ้า (EV) Smart Mobility หรือการขนส่งที่ยั่งยืนและระบบนิเวศทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกโดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งจะสอดรับกับแผน CHO Tech Riders 2030 ของบริษัทฯ เพื่อมุ่งสู่การเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีและระบบยานยนต์ไฟฟ้า