ผู้เขียน หัวข้อ: ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์-วอลุ่มไม่มาก  (อ่าน 366 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Jenny937

  • *
  • กระทู้: 644
  • Popular Vote : 0
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์-วอลุ่มไม่มาก หวั่นจะมีมาตรการคุมโควิดโอมิครอน

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway ถึง Sideway up วอลุ่มเทรดไม่มาก โดยอาจมีหุ้นบางตัวที่ปรับตัวขึ้นได้อย่างหุ้นในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ และหุ้นในกลุ่มพลังงาน ขณะที่หุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวอาจจะไม่ดีนัก หลังจากบ้านเราเริ่มมีการติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนมากขึ้น ทำให้เริ่มหันมาจับตาบ้านเราจะมีการออกมาตรการควบคุมอะไรเพิ่ม ซึ่งข้อดีอาการไม่ได้ร้ายแรง แต่ก็เข้าโรงพยาบาลมากขึ้น นักท่องเที่ยวก็ไม่มา เป็นลบต่อหุ้นในกลุ่มเปิดเมือง และเป็นลบต่อหุ้นไทยด้วย

นอกจากนี้ ช่วงนี้นักลงทุนต่างชาติชะลอการลงทุนอยู่ อย่างไรก็ดี จะมีการปิดสัญญาอนุพันธ์ในวันพุธนี้ ซึ่งมีการทำ Long อยู่ส่วนใหญ่ ดังนั้นหุ้นจึงมีโอกาสที่จะปรับตัวลงได้น้อย

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวขึ้นกันทั่วหน้า ตามดัชนี S&P500 ที่ทำนิวไฮ พร้อมให้ติดตามการทำ Window Dressing ก่อนปิดปี โดยให้แนวรับ 1,629-1,625 จุด ส่วนแนวต้าน 1,641-1,646 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (27 ธ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,302.38 จุด เพิ่มขึ้น 351.82 จุด(+0.98%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,791.19 จุด เพิ่มขึ้น 65.40 จุด (+1.38%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,871.26 จุดเพิ่มขึ้น 217.89 จุด (+1.39%)
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 276.86 จุด หรือ +0.97%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 58.59 จุด หรือ +0.25% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 3.67 จุด หรือ +0.10%
ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (27 ธ.ค.) 1,636.50 จุด ลดลง 0.72 จุด (-0.04%)
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,544.11 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.64
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (27 ธ.ค.) ปิดที่ระดับ 75.57 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.78 ดอลลาร์ หรือ 2.4%
ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (27 ธ.ค.) อยู่ที่ 6.61 ดอลลาร์/บาร์เรล
เงินบาทเปิด 33.53/55 แนวโน้มแกว่งแคบ ธุรกรรมเบาบาง จับตาสถานการณ์โควิดในปท
รฟม.เปิดชิงโปรเจคส่งท้ายปี รถไฟฟ้าสีม่วงใต้ "เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ" 8.2 หมื่นล้าน "ช.การช่าง-ซิโนไทย" ชูประสบการณ์งานอุโมงค์ ผนึกสู้ "ไอทีดี-เนาวรัตน์" ด้านยูนิค ฉายเดี่ยวยื่นครบทั้ง 6 สัญญา ใช้ประสบการณ์รถไฟฟ้าสีส้มตะวันออกเข้าสู้ คาดสรุปชื่อผู้ชนะประมูลไตรมาส 1 ปีหน้า
CBRE ส่องตลาดอสังหาฯ ปี 64 ระบุคอนโดฯ หดตัวแรง 9 เดือนมีเพียง 11,760 ยูนิต ลดลง 72% เผยพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน มีความต้องการเพิ่มพื้นที่ที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
"อาคม" ปักธงเศรษฐกิจไทยปี 2565 โต 4% อานิสงส์ส่งออก-ลงทุน พ่วงมาตรการรัฐหนุนเต็มสูบ พร้อมเกาะติดโอมิครอน วอนประชาชนอย่าหย่อนยาน
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 65 รวม 4 วัน ระหว่างวันที่ 31 ธ.ค.64-3 ม.ค.65 ททท.ประเมินว่า บรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศน่าจะแผ่วลงกว่าช่วงวันหยุดก่อนหน้า เนื่องจากความกังวลต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน และภาวะเศรษฐกิจอยู่ในช่วงชะลอตัวต่อเนื่อง ประชาชนยังระมัดระวังการใช้จ่าย ในกรณีที่สถานการณ์ยังไม่ทวีความรุนแรงและไม่แพร่กระจายอย่างกว้างขวางหลายพื้นที่สามารถจัดงานเทศกาลปีใหม่เคานท์ดาวน์ได้ทำให้การเดินทางในช่วงเทศกาลนี้อยู่ที่ 2.63 ล้านคน-ครั้ง และมีรายได้ทางการท่องเที่ยว8,040 ล้านบาท โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 48%
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยหลังประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) ร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และผู้แทนภาคเอกชน ว่า ได้มีการประชุมกันคาดการณ์ว่าส่งออกปี 65 ยังคงขยายตัว คือเป็นบวกประมาณ 3-4% และคาดว่าจะมีตัวเลขการส่งออกประมาณ 9 ล้านล้านบาทหรือ 280,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งตัวเลขส่งออกในปี 65 นั้นจะมากกว่าปี64 ประมาณ 4 แสนล้านบาท
*หุ้นเด่นวันนี้

ANAN-W1 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 833,249,997 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.65 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปี นับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (15 ธันวาคม 2564) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหยดวันใช้สิทธิครั้งแรก 14 มิ.ย. 2565 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 14 ธ.ค. 2566
SPRC (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า 12 บาท ได้ Sentiment บวกราคาน้ำมันดิบบวกแรงทำให้ความเสี่ยงที่จะมี Stock loss ลดลง ขยะที่ค่าการกลั่นฟื้นตัวเร็วจากระดับ 2.3$/bbl ในช่วงปลายเดือน พ.ย.ขึ้นสู่ระดับ 6.6$/bbl ในปัจจุบัน
ORI (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 16 บาท ยังคงมุมมองบวกต่อการเติบโตระยะยาวสำหรับ ORI ที่จะเป็นมากกว่าบริษัทอสังหาฯจากการการต่อยอดลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่องใหม่ๆ ทั้งโลจิสติกส์ การแพทย์ กัญชง บริหารสินทรัพย์ พลังงาน ร่วมกับ Partner ในแต่ละอุตสาหกรรม ทั้งนี้ระยะสั้นโมเมนตัมกำไร Q4/64 คาดเร่งตัวขึ้นเด่น Q-Q และ Y-Y และเป็นจุดสูงสุดของปี จาก Backlog รอโอน 4.3 พันลบ. รวมถึงสต๊อกในมือที่สูงทำให้ได้ประโยชน์จากการผ่อนคลายเกณฑ์ LTV พร้อมให้แนวรับ 11.20-11 บาท แนวต้าน 11.80-12 บาท