ผู้เขียน หัวข้อ: ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 95.83 จุด  (อ่าน 398 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ fairya

  • *
  • กระทู้: 1,190
  • Popular Vote : 0
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 95.83 จุด ตลาดคลายกังวลผลกระทบโอมิครอน

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ เนื่องจากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่หุ้นบริษัทผลิตวัคซีนร่วงลง หลังจากกระแสความกังวลเกี่ยวกับไวรัสโอมิครอนเริ่มบรรเทาลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,398.21 จุด เพิ่มขึ้น 95.83 จุด หรือ +0.26%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,786.35 จุด ลดลง 4.84 จุด หรือ -0.10% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,781.72 จุด ลดลง 89.54 จุด หรือ -0.56%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวกติดต่อกัน 4 วันทำการเมื่อคืนนี้ หลังจากผลการวิจัยในแอฟริกาใต้ อังกฤษ และสกอตแลนด์ต่างบ่งชี้ว่า ผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนมีความเสี่ยงน้อยในการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล และมีอาการเจ็บป่วยน้อยกว่า เมื่อเทียบกับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา

ล่าสุด ผลการวิจัยของคณะนักวิทยาศาสตร์ในแอฟริกาใต้ระบุว่า การติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันชนิดลบล้างฤทธิ์ (Neutralizing Antibody) ที่สามารถต้านไวรัสเดลตาได้ โดยนายอเล็กซ์ ซีกัล ศาสตราจารย์ประจำสถาบันวิจัยสุขภาพแอฟริกาใต้กล่าวว่า หากเชื้อโอมิครอนมีความรุนแรงน้อยกว่าเมื่อพิจารณาจากการระบาดในแอฟริกาใต้ ก็อาจจะทำให้สายพันธุ์เดลตาหายไป


หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคดีดตัวขึ้น 0.93% และหุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคปรับตัวขึ้น 0.62% ทั้งนี้ หุ้นพีจีแอนด์อี คอร์ปอเรชั่น พุ่งขึ้น 1.17% หุ้นดุ๊ค เอนเนอร์จี เพิ่มขึ้น 1.24% หุ้นพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) เพิ่มขึ้น 0.54% หุ้นไทสัน ฟู้ดส์ บวก 0.59% หุ้นคราฟท์ ไฮนซ์ พุ่งขึ้น 1.21%

หุ้นกลุ่มสายการบินพุ่งขึ้น หลังจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) ได้ออกคำแนะนำให้รัฐบาลร่นเวลาในการกักตัวชาวอเมริกันที่ติดเชื้อโควิด-19 แบบไม่แสดงอาการลงเหลือเพียง 5 วัน จากเดิม 10 วัน ทั้งนี้ หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 1.55% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 2.04% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ดีดขึ้น 1.62% หุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน เพิ่มขึ้น 1.27%

หุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 1.46% ขานรับข่าวอินโดนีเซียอนุญาตให้เครื่องบินโบอิ้ง 737 Max กลับมาให้บริการตามปกติแล้ว หลังระงับการใช้งานนานกว่า 2 ปี อันเนื่องมาจากอุบัติเหตุเครื่องบินรุ่นดังกล่าวตกในอินโดนีเซียและเอธิโอเปีย ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

อย่างไรก็ดี หุ้นบริษัทผลิตวัคซีนร่วงลงหลังจากตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน โดยหุ้นไฟเซอร์ ร่วงลง 2.01% หุ้นไบออนเทค ดิ่งลง 5.27% หุ้นโมเดอร์นา ดิ่งลง 2.2% หุ้นโนวาแวกซ์ ร่วงลง 1.24%

ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้น Nvidia ร่วงลง 2.01% หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 0.35% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ ปรับตัวลง 0.78% หุ้นแอปเปิล ลดลง 0.58% หุ้นอินเทล ลดลง 0.35%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ เอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 19.1% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี แต่ต่ำกว่าระดับ 19.7% ในเดือนก.ย. โดยราคาบ้านยังคงได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ของผู้ซื้อบ้าน และสต็อกบ้านที่ตึงตัว รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่ระดับต่ำ