ผู้เขียน หัวข้อ: ดาวโจนส์พุ่งกว่า 100 จุด, S&P 500 ทำนิวไฮ ขานรับคลายกังวลโอมิครอน  (อ่าน 373 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Shopd2

  • *
  • กระทู้: 1,209
  • Popular Vote : 0
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ และดัชนี S&P 500 ดีดตัวแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน


ณ เวลา 21.54 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 36,456.28 จุด บวก 153.90 จุด หรือ 0.42% ส่วนดัชนี S&P 500 อยู่ที่ 4,801.52 จุด บวก 10.33 จุด หรือ 0.22% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และดัชนี Nasdaq อยู่ที่ 15,878.34 จุด บวก 7.08 จุด หรือ 0.04%

หุ้นกลุ่มสายการบินดีดตัวขึ้นในวันนี้ หลังจากดิ่งลงวานนี้ โดยได้รับผลกระทบจากการประกาศยกเลิกเที่ยวบิน เนื่องจากปัญหาขาดแคลนพนักงาน ขณะที่นักบินและพนักงานต้อนรับบนเครื่องจำนวนมากต้องถูกกักตัว จากสาเหตุการติดเชื้อโควิด-19

นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน หลังผลการศึกษาจากแอฟริกาใต้ อังกฤษ และสกอตแลนด์บ่งชี้ว่า ผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนมีความเสี่ยงน้อยในการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล เมื่อเทียบกับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อื่น

นอกจากนี้ ผลการศึกษาจากแอฟริกาใต้ยังระบุว่า การติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจะช่วยให้ร่างกายเพิ่มภูมิต้านทานต่อสายพันธุ์เดลตา

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ยังคงมีความเชื่อมั่นว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวขึ้นในช่วงปลายปีนี้

"เราไม่คาดว่าโอมิครอนจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ แต่กลับมีแนวโน้มเร่งไปสู่การยุติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19" นายดูบราฟโก ลาคอส-บูชาส นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกน เชส ระบุในรายงานที่มีการเปิดเผยวานนี้

รายงานดังกล่าวสอดคล้องกับรายงานของนายมาร์โก โคลาโนวิช หัวหน้านักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกน เชส ที่มีการเปิดเผยก่อนหน้านี้

"เรามองว่าปีหน้าจะเป็นปีที่เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ ขณะที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยุติลง และเศรษฐกิจกลับสู่ภาวะปกติ โดยสภาวะตลาดกลับสู่ช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19" นายโคลาโนวิชระบุในรายงาน

"แม้ว่าโอมิครอนจะระบาดได้รวดเร็วกว่า แต่รายงานก็บ่งชี้ว่าสายพันธุ์นี้มีความรุนแรงน้อยกว่า ซึ่งสอดคล้องกับรูปแบบวิวัฒนาการของไวรัสในอดีต และเรื่องนี้ถือเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง เนื่องจากเป็นการส่งสัญญาณว่าการแพร่ระบาดใกล้ยุติแล้ว"

"โอมิครอนสอดคล้องกับรูปแบบในอดีตที่บ่งชี้ว่า ไวรัสที่มีการแพร่ระบาดมากกว่า แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า จะเข้ามาแทนที่ไวรัสสายพันธุ์ที่มีความรุนแรงมากกว่า ซึ่งจะทำให้โอมิครอนเป็นตัวเร่งให้การแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของโควิด-19 กลายเป็นเพียงบางสิ่งที่คล้ายกับโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลเท่านั้น" รายงานระบุ
นายโคลาโนวิชยังคาดการณ์ว่า ดัชนี S&P 500 จะพุ่งขึ้นเกือบ 8% ในปีหน้า สู่ระดับ 5,050 จุด ขณะที่ตลาดหุ้นเกิดใหม่ทะยานขึ้น 18% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวแตะ 2.25% ในช่วงสิ้นปี 2565

นักลงทุนยังคงหวังว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในช่วงปลายปีนี้ จากปรากฎการณ์ "ซานต้า แรลลี่" ซึ่งมักเกิดขึ้นเป็นเวลา 7 วันทำการ โดยมีขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปีปัจจุบัน รวมทั้ง 2 วันแรกของปีใหม่

จากการรวบรวมสถิติการปรับตัวของตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วง 7 วันของซานต้า แรลลี่ พบว่า ดัชนีดาวโจนส์สามารถปิดตลาดในแดนบวกถึง 78% นับตั้งแต่ปี 2471