บลจ.ทิสโก้ เปิดกอง "ทิสโก้ Cyber Security"
เกาะเทรนด์ Metaverse - ธุรกิจดิจิทัลพลิกโฉมโลก
บลจ.ทิสโก้ประเดิมปีขาล เปิดขาย "กองทุนเปิด ทิสโก้ Cyber Security" (TCYBER) ลงทุนธุรกิจด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ชี้โอกาสเติบโตเด่นตามความต้องการเพิ่มขึ้นจาก "Metaverse" และทุกอุตสาหกรรมในโลกเร่งลงทุนระบบป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ เปิดเสนอขาย IPO 4-12 มกราคม 2565
นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, Head of Marketing and Wealth Advisory, Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co., Ltd.) เปิดเผยว่า การเกิดขึ้นของเมตาเวิร์ส (Metaverse) ยิ่งตอกย้ำให้เห็นชัดว่าโลกกำลังพลิกโฉมและขับเคลื่อนไปสู่ "โลกดิจิทัล" อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งที่ผ่านมาทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจและผู้บริโภคล้วนส่งผ่านข้อมูลสำคัญ ทำธุรกรรม และดำเนินกิจกรรมต่างๆ ผ่านโลกดิจิทัล ในขณะเดียวกันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความเสียหายจากการโจรกรรมทางไซเบอร์ก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยในช่วง 20 ปีผ่านมามีการโจมตีทางไซเบอร์ที่ภาคธุรกิจรวมถึงองค์กรของรัฐทั่วโลกได้รับความเสียหายมากถึง 400 ครั้ง* และในปี 2563 การโจมตีทางไซเบอร์ได้สร้างความเสียหายทั่วโลกมากถึงวันละ 16.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ**
จากสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เร่งลงทุนระบบและอุปกรณ์เพื่อสร้างความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) โดย Cybersecurityventures.com คาดว่า ในระหว่างปี 2564 - 2568 จะมีเม็ดเงินลงทุนระบบ Cyber Security มากถึง 1.75 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้น 15% ต่อปี ซึ่งเติบโตตามความต้องการใช้ของ ภาครัฐ ภาคเอกชน และจะยิ่งมีโอกาสเติบโตอย่างทวีคูณเมื่อ Metaverse หรือโลกเสมือนเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภค นอกจากนี้ Gartner บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีในสแตมฟอร์ดยังคาดว่าในระหว่างปี 2564 - 2567 มูลค่าตลาด Cyber Security จะเติบโตเฉลี่ยปีละ 14% จาก 74 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2564 จะเพิ่มขึ้นเป็น 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2567
ดังนั้น เพื่อเพิ่มโอกาสให้ลูกค้ารับผลตอบแทนที่ดีสอดคล้องกับกับเมกะเทรนด์ของโลก บลจ.ทิสโก้จึงเปิดเสนอขาย กองทุนเปิด ทิสโก้ Cyber Security (TCYBER) ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ ที่มีการพัฒนาและจัดการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และได้รับประโยชน์จากการพัฒนาและการใช้เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ทั่วโลก ผ่านหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศ และ/หรือกองทุนรวมอีทีเอฟตราสารทุนต่างประเทศอย่างน้อย 2 กองทุน ซึ่งเบื้องต้นกองทุนได้ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ 2 กองทุน ได้แก่ กองทุน Global X Cybersecurity ETF และ กองทุน Allianz Global Investors Fund - Allianz Cyber Security กองทุนเปิด TCYBER ลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท เปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) วันที่ 4 - 12 มกราคม 2565 ผ่านธนาคารทิสโก้ จำกัด(มหาชน), บล. ทิสโก้ จำกัด, บลจ.ทิสโก้ จำกัด และช่องทาง ออนไลน์ eInvest, Application TISCO My Funds เท่านั้น ทั้งนี้ กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศจึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก
นายสาห์รัชกล่าวอีกว่า สำหรับจุดเด่นของกองทุน TCYBER คือ ลงทุนในกองทุน Global X Cybersecurity ETF และ กองทุน Allianz Global Investors Fund - Allianz Cyber Security ซึ่งทั้งสองกองทุนมีนโยบายการเลือกหุ้นที่แตกต่างกัน ทำให้นักลงทุนได้กระจายการลงทุนไปยังหุ้นเติบโต และหุ้นขนาดใหญ่พื้นฐานแกร่งไปพร้อมๆ กัน นอกจากนี้ ผู้จัดการกองทุนยังให้น้ำหนักการลงทุนผ่านกองทุนต่างประเทศทั้งสองกองทุนด้วยน้ำหนักการลงทุนที่เท่าๆ กัน โดยอิงจากผลตอบแทนในอดีตซึ่งพบว่าน้ำหนักลงทุนดังกล่าวจะเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีเมื่อเทียบกับความเสี่ยง
สำหรับตัวอย่างบริษัทที่กองทุนเข้าไปลงทุน เช่น Fortinet บริษัทผู้พัฒนาและจำหน่ายโซลูชั่นความ ปลอดภัยทางไซเบอร์ ครองส่วนแบ่งการตลาดกว่า 38% ในธุรกิจ "Network Firewalls" มีลูกค้ากระจายอยู่กว่า 100 ประเทศทั่วโลก คาดว่าปี 2654 รายได้แตะระดับ 3,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เติบโต 28.5% เมื่อเทียบปีก่อน มีโครงสร้างรายได้ที่มั่นคง โดยมีสัดส่วนจากการบริการถึง 65% ในปี 2653 ***
ตัวอย่างที่สองคือ Palo Alto เป็นผู้นำทางด้าน Network Security ด้านการปกป้องการคุกคามทาง Cyber เน้น Cloud เป็นหลัก มีลูกค้าองค์กรชั้นนำมากกว่า 85,000 องค์กร จาก 150 ประเทศทั่วโลก มีรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ และค่า Subscription ตามประเภทการใช้งานของลูกค้า ผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปีบัญชี 2564 มีรายได้ เติบโต 28% เมื่อเทียบปีก่อน ****
และสุดท้าย บริษัท Zscaler บริษัทด้าน Cloud Security-as-a-Service ช่วยให้ธุรกิจยุคใหม่ทำ Digital Transformation ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และ ยืดหยุ่น มีลูกค้ากว่า 5,600 ราย และกว่า 500 ราย เป็นบริษัทใน Forbes Global 2000 ผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปีบัญชี 2564 มีรายได้เติบโต 57% เมื่อเทียบปีก่อน และตัวอย่างสุดท้าย บริษัท Okta ผู้ให้บริการด้าน Identity ชั้นนำของโลก ปัจจุบันมีลูกค้าองค์กรมากกว่า 13,050 ราย คาดการณ์รายได้เติบโตเฉลี่ย 46% ต่อปีในช่วงปี 2562-2565 รายได้ไตรมาส 2 ปีบัญชี 2565 เติบโต 54.7% เมื่อเทียบปีก่อน คาดการณ์รายได้ ไตรมาส 3 ปีบัญชี 2565 เติบโต 50% เมื่อเทียบปีก่อน คาดการณ์รายได้เต็มปีบัญชี 2565 อยู่ระหว่าง 1,243-1,250 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เติบโต 49% - 50% เมื่อเทียบปีก่อน*
พิเศษสำหรับลูกค้าที่มียอดเงินลงทุนสะสมในกองทุน TCYBER ตั้งแต่วันที่ 4 - 12 มกราคม 2565 ตั้งแต่ 20 - 29.99 ล้านบาท รับทองคำหนัก 2 สลึง และยอดเงินลงทุนสะสมตั้งแต่ 30 ล้านบาทขึ้นไป รับทองคำหนัก 1 บาท (1 สิทธิ์ ต่อ 1 ท่าน) ต่อที่สอง สำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาที่ลงทุนกองทุน TCYBER ผ่านช่องทาง eInvest และ TISCO My Funds ตั้งแต่วันที่ 4 - 12 มกราคม 2565 ทุกๆ ยอดเงินลงทุนสะสม 50,000 บาท รับหน่วยลงทุนกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรระยะสั้น (TISCOSTF) มูลค่า 100 บาท สูงสุด 1,000 บาท
ทั้งนี้ กองทุนเปิด TCYBER อาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในต่างประเทศ จึงมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม ผู้สนใจลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า ศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนรวม โดยเฉพาะนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุนที่ได้เปิดเผยไว้ที่
www.tiscoasset.com และสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือ TISCO Contact Center โทร. 0 2633 6000 กด 4, 0 2080 6000 กด 4 และ
www.tiscoasset.com หรือ แอปพลิเคชัน TISCO My Funds