THAI ยันจ่ายหนี้ตามนัด,รับเงินขายทรัพย์สินเกือบ 2 พันลบ.-แก้สัญญาเช่าเครื่องบินลดรายจ่าย
บมจ.การบินไทย (THAI) เปิดเผยว่าความคืบหน้าการดำเนินการแผนฟื้นฟูกิจการในงวดระหว่างวันที่ 15 ก.ย.-16 ธ.ค.64 ได้แก่
1.การชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ สำหรับงวดระหว่างวันที่ 15 ก.ย.-14 ธ.ค.64 ผู้บริหารแผนได้ชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในแผน โดยการชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยคงค้าง จนถึงวันที่ 15 พ.ย.64 รวมเป็นเงิน 1,298,476,908.50 บาท และบริษัทฯไม่ได้ผิดนัดแต่ประการใด
2.การขายทรัพย์สินรองที่ศาลได้มีคำสั่งอนุญาตแล้ว ในงวดนี้ไม่ได้มีการขายทรัพย์สินรอง
3.การขาย ให้เช่า หรือหาประโยชน์จากทรัพย์สินรองอื่น ได้แก่
ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างสำนักงานหลานหลวง ที่ราคา 957 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาประเมินและมูลค่าตามบัญชีสุทธิที่บริษัท- ได้บันทึกไว้ การบินไทยได้โอนกรรมสิทธิ์และรับเงินค่าขายสินทรัพย์รองดังกล่าวครบถ้วนแล้วเมื่อวันที่ 8 ต.ค.64
ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างสำนักงานภูเก็ต ในราคา 179 ล้านบาท เป็นราคาสูงกว่าราคาประเมินและมูลค่าตามบัญชีสุทธิที่บริษัทฯได้บันทึกไว้ การบินไทยได้โอนกรรมสิทธิ์และรับเงินค่าขายทรัพยส์สินรองดังกล่าวครบถ้วนแล้ว เมื่อวันที่ 7 ต.ค.64
ที่ดินเปล่าในจังหวัดเชียงใหม่ ในราคา 105 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาสูงกว่าราคาประเมินและมูลค่าตามบัญชีของที่ดินที่บริษัทฯบันทึกไว้ โดยการบินไทยได้โอนกรรมสิทธิ์และรับเงินค่าขายทรัพย์สินดังกล่าวครบถ้วนแล้ว เมื่อวันที่ 17 ก.ย.64
หุ้นบมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) ในส่วนที่นอกเหนือจากที่ได้รับอนุญาตจากศาลล้มละลายกลาง ตามคำสั่งเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.63 โดยเมื่อวันที่ 7 ต.ค.64 บริษัทฯได้ขายหุ้น BAFSให้แก่ผู้ยื่นซองประมูลซื้อในราคาสูงสุด จำนวน 15 ล้านหุ้น (คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 2.35 ของหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมดของ BAFS) ในราคาหุ้นละ 32 บาท คิดเป็นเงินจำนวน 480 ล้านบาท โดยบริษัทฯได้โอนหุ้น BAFS และได้รับเงินจากผู้ซื้อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ขายหุ้น BAFS ในตลาดหลักทรัพย์ระหว่างวันที่ 21 ก.ย.-15 พ.ย.64 รวมจำนวน 7,720,500 หุ้น ในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 29.51 บาท คิดเป็นรายรับรวม (สุทธิ) 227,319,589.73 บาท
4. การเข้าเจรจาเพื่อเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในสัญญาเดิมให้เป็นไปตามเงื่อนไขของบันทึกข้อตกลง (Letter of Intent) ตามที่กำหนดในแผนฟื้นฟูกิจการข้อ 5.3 เจ้าหนี้กลุ่มที่ 35 เจ้าหนี้ภาระผูกผันจากการเช่า /เช่าซื้อเครื่องบิน ในส่วนที่ผู้ทำแผนเห็นว่าเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นหลังวันที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการนั้น ผู้บริหารแผนได้ดำเนินการเจรจากับเจ้าหนี้กลุ่มที่ 35 เพื่อเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในสัญญาเดิมให้เป็นไปตามเงื่อนไขของบันทึกข้อตกลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วจนถึงวันที่ 15 พ.ย.64 รวมเป็นเครื่องบิน จำนวน 12 ลำ โดยคณะผู้บริหารแผนอยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญาที่เหลือกับเจ้าหนี้สำหรับเครื่องบินอีก 45 ลำ
สำหรับคณะกรรมการเจ้าหนี้ จนถึงวันที่ 15 พ.ย.64 ที่ประชุมคณะกรรมการเจ้าหนี้ได้รับทราบความคืบหน้าในการดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูกิจการ รวมถึงการติดตามสิทธิเรียกร้อง การปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย ปรับโครงสร้างและขนาดองค์กร เพิ่มรายได้ ปฏิรูปธุรกิจ และการหาแหล่งเงินทุนใหม่
ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานข้างต้นของบริษัทฯ แสดงถึงความสามารถในการชำระหนี้ได้ตามที่แผนฟื้นฟูกิจการกำหนด
