ราคาหุ้นไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ซึ่งเป็น
บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อันดับ 2 ของจีน ร่วงลงกว่า 9% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นฮ่องกงช่วงเช้านี้ หลังมีรายงานว่า เอเวอร์แกรนด์ผิดนัดชำระหนี้ดอกเบี้ยหุ้นกู้สกุลเงินต่างประเทศซึ่งครบกำหนดจ่ายเมื่อวันอังคารที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บริษัทเอเวอร์แกรนด์มีกำหนดต้องจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ครั้งใหม่จำนวน 255 ล้านดอลลาร์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2566 และ 2568
สถานะทางการเงินของเอเวอร์แกรนด์เริ่มสั่นคลอน หลังจากที่รัฐบาลจีนได้ออกมาตรการควบคุมภาวะร้อนแรงของภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งสกัดการก่อหนี้ของบริษัทขนาดใหญ่ในภาคดังกล่าว โดยภาคอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นเสาหลักสำคัญในการขยายตัวของจีน และมีสัดส่วนผลผลิตทางเศรษฐกิจสูงเกือบ 30% ซึ่งการล้มละลายของเอเวอร์แกรนด์จะส่งผลกระทบลุกลามไปยังบริษัทอื่น ๆ ในภาคอสังหาริมทรัพย์ และสร้างความเสี่ยงต่อระบบธนาคารของจีน