นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ รฟท. (บอร์ด รฟท.) ล่าสุด มีมติอนุมัติดำเนินโครงการก่อสร้าง
รถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กม. มูลค่าโครงการ 29,748 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าจ้างที่ปรึกษา สำรวจอสังหาริมทรัพย์ 9 ล้านบาท ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 369 ล้านบาท ค่าที่ปรึกษาจัดการประกวดราคา 7 ล้านบาท ค่าก่อสร้าง 28,759 ล้านบาท ค่าจ้างควบคุมงานก่อสร้าง 604 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินโครงการ ปี 2565-2569
โดยหลังจากนี้ รฟท. จะสรุปรายละเอียดนำเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติโครงการต่อไป
ทั้งนี้ ไทม์ไลน์เบื้องต้น คาดว่า ครม. จะอนุมัติโครงการประมาณ ไตรมาส 2/65 จากนั้นจะดำเนินการ ออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน ไตรมาส 3-4/65 พร้อมกับจัดทำร่าง TOR ราคากลางและประกวดราคา จากนั้นจะเริ่มสำรวจอสังหาริมทรัพย์ และจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินในปี 2566 -2567 และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้าง ในปี 2566 โดยใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน แล้วเสร็จต้นปี 2569
สำหรับรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย เป็นหนึ่งในโครงการในแผนการพัฒนารถไฟทางคู่ระยะ 2 ที่มีจำนวน 7 โครงการ ระยะทาง 1,483 กม. วงเงินลงทุนรวมกว่า 2.73 แสนล้านบาท ซึ่งจากที่สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ให้ รฟท.ศึกษาและจัดลำดับความสำคัญ พบว่าโครงการช่วงขอนแก่น-หนองคาย มีความสำคัญมากที่สุด เนื่องจากเป็นเส้นทางตามยุทธศาสตร์ที่เชื่อมต่อกับ สปป.ลาว ที่มีเส้นทางรถไฟเชื่อมไปยังประเทศจีนตอนใต้ และปัจจุบันได้เปิดให้บริการแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีความพร้อมที่สุด เพราะมีการออกแบบแล้ว ได้รับอนุมัติรายงานการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้ว มีอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) 18.46 %
นายนิรุฒ กล่าวว่า ส่วนรถไฟทางคู่ระยะ 2 ที่เหลืออีก 6 เส้นทาง ได้แก่ ปากน้ำโพ-เด่นชัย, เด่นชัย-เชียงใหม่, ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี, ชุมพร-สุราษฎร์ธานี, สุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา และชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์นั้น เส้นทางที่มีความสำคัญ และควรเร่งผลักดันในลำดับต่อไป คือ ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย เพื่อเชื่อมต่อกับรถไฟทางคู่สายใหม่ ช่วงเด่นชัย -เชียงราย-เชียงของ