ตลาดหุ้นเอเชียเปิดแดนลบวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงเกือบ 400 จุดในวันพุธ (5 ม.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดิ่งลงรุนแรงที่สุดในรอบ 11 เดือน หลังจากรายงานการประชุมเดือนธ.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นี้
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 29,136.75 จุด ลดลง 195.41 จุด หรือ -0.67%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,843.20 จุด ลดลง 64.05 จุด หรือ -0.28% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,581.22 จุด ลดลง 13.96 จุด หรือ -0.39%
ภาวะการซื้อขายในภูมิภาคถูกกดดันหลังเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 14-15 ธ.ค. โดยระบุว่าตลาดแรงงานของสหรัฐอยู่ในภาวะตึงตัวอย่างมาก ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้เฟดต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการปรับลดการถือครองสินทรัพย์ทั้งหมดด้วย โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดการพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ
"กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเห็นว่า เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มเศรษฐกิจ, ภาวะตลาดแรงงานและเงินเฟ้อ ก็ถือเป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (Federal Funds Rate) ในเวลาที่รวดเร็วขึ้น หรือรวดเร็วกว่าที่กรรมการเฟดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่กรรมการเฟดบางส่วนมองว่า เป็นเรื่องที่เหมาะสมที่จะเริ่มปรับลดขนาดงบดุลบัญชี (Balance Sheet) ของเฟดในทันทีหลังจากที่มีการเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย" รายงานการประชุมระบุ
เจย์ แฮทฟิลด์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Infrastructure Capital Management กล่าวว่า หากเฟดปรับลดงบดุลบัญชี ก็ถือเป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้น เพราะเป็นการส่งสัญญาณว่า นอกจากเฟดจะไม่อัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจแล้ว เฟดยังจะระบายออกด้วย นอกจากนี้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมของภาคธุรกิจและผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้น และสร้างแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มต่าง ๆ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และหุ้นเติบโต (Growth Stocks)
ขณะเดียวกัน นักลงทุนในภูมิภาคยังจับตาความเคลื่อนไหวของบริษัท ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป โดยสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เอเวอร์แกรนด์กำลังหาทางชะลอเวลาในการไถ่ถอนและชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ของบริษัท เหิงต้า เรียล เอสเตท กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ เป็นวงเงิน 4.5 พันล้านหยวน (157 ล้านดอลลาร์) ออกไปอีกหกเดือนในการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ช่วงสุดสัปดาห์นี้ จากเดิมซึ่งมีกำหนดชำระดอกเบี้ยในวันที่ 8 ม.ค.นี้ ออกไปเป็นวันที่ 8 ก.ค. โดยหุ้นกู้ดังกล่าวมีกำหนดไถ่ถอนในเดือนม.ค. 2566
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาคที่น่าติดตามวันนี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนธ.ค.ของจีนจากไฉซิน