ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันพฤหัสบดี (6 ม.ค.) โดยปรับตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก หลังจากรายงานการประชุมเดือนธ.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดกั้นอัตราเงินเฟ้อที่ระดับสูง
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,450.37 จุด ลดลง 66.50 จุด หรือ -0.88%
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มเฮลท์แคร์นำตลาดปรับตัวลง 2.6% และ 1.3% ตามลำดับ
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก หลังรายงานการประชุมของเฟดบ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานที่ตึงตัวอย่างมากและเงินเฟ้อที่ระดับสูงอาจทำให้เฟดต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด
หุ้นกลุ่มธนาคาร ปรับตัวขึ้น 2.1% สวนทางตลาด หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นโดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดัน หลังการเปิดเผยผลสำรวจบ่งชี้ว่า ภาคบริการของอังกฤษขยายตัวในเดือนธ.ค.ที่อัตราต่ำสุดนับตั้งแต่อังกฤษมีการล็อกดาวน์ครั้งล่าสุด เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรมและการเดินทาง
หุ้นกลุ่มเดินทางและสันทนาการ ร่วงลง 1.6%
บริษัทค้าปลีกชั้นนำ 3 แห่งของอังกฤษซึ่งได้แก่ บริษัทเน็กซ์, เกร็กส์ และบีแอนด์เอ็ม ได้บ่งชี้ถึงผลกระทบด้านเงินเฟ้อในปีนี้ โดยบริษัทดังกล่าวยังคงพยายามต่อสู้เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ ในขณะที่ฐานะการเงินของผู้บริโภคเผชิญแรงกดดัน และราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้น