ดัชนีดาวโจนส์พลิกร่วงลงกว่า 100 จุดในวันนี้ หลังปรับตัวขึ้นในช่วงแรก ท่ามกลางความกังวลที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
ณ เวลา 22.21 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 36,243.69 จุด ลบ 163.42 จุด หรือ 0.45%
ดัชนี Nasdaq ร่วงลง 0.72% ขณะที่นักลงทุนพากันเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นในการซื้อขายวันนี้ ขานรับการที่เฟดมีแนวโน้มเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นเช่นกันตามราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การซื้อขายในตลาดถูกกดดันจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นเหนือระดับ 1.75% ในวันนี้ ขณะที่เฟดส่งสัญญาณว่าจะเริ่มปรับลดขนาดงบดุลหลังจากที่เฟดได้เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่านอกจากเฟดจะซื้อพันธบัตรในอัตราที่ลดลงจากการที่เฟดลดวงเงิน QE เฟดยังจะขายพันธบัตรที่ถือครองอยู่ออกมาเพื่อลดขนาดงบดุลของเฟดด้วย ซึ่งขณะนี้พุ่งสูงกว่า 8 ล้านล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีถือเป็นพันธบัตรที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้น จะทำให้บริษัทต่างๆ เผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าสหรัฐพุ่งขึ้น 19.4% สู่ระดับ 8.02 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.71 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 6.72 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค.
ก่อนหน้านี้ สหรัฐขาดดุลการค้ามากเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ย. โดยอยู่ที่ระดับ 8.14 หมื่นล้านดอลลาร์
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 7,000 ราย สู่ระดับ 207,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 195,000 ราย
อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกต่ำกว่าระดับ 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 204,500 ราย
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องเพิ่มขึ้น 36,000 ราย สู่ระดับ 1.75 ล้านราย
นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนึ่งในการกำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 422,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. และอัตราว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.1%
ก่อนหน้านี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 210,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 581,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 4.2% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.5%