ผู้เขียน หัวข้อ: TWZ ปลื้ม ! ปิดยอดระดมทุน 705.32 ลบ.หลังผู้ถือหุ้น  (อ่าน 427 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ PostDD

  • *
  • กระทู้: 929
  • Popular Vote : 0
TWZ ปลื้ม ! ปิดยอดระดมทุน 705.32 ลบ.หลังผู้ถือหุ้นใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนเต็มจำนวน เปิดศักราชใหม่พร้อมเดินหน้าลุยธุรกิจ Non-Telecom เต็มสูบ

TWZ ปิดจ๊อบระดมทุนด้วยการออกหุ้นเพิ่มทุนและหุ้นกู้แปลงสภาพ เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิม กวาดเงิน 705.32 ล้านบาท หลังผู้ถือหุ้นใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนเต็มจำนวน 4,964.475 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 496.447 ล้านบาท ขณะที่หุ้นกู้แปลงสภาพอัตราดอกเบี้ย 6.25% ต่อปี มีผู้ถือหุ้นใช้สิทธิจองซื้อ 208,876 หน่วย คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 208.876 ล้านบาท พร้อมติดปีกขยายธุรกิจ Non-Telecom ทั้งกัญชงกัญชา และยานยนต์พลังงานไฟฟ้า เพื่อสร้างโอกาสในการแสวงหาตอบแทนอย่างมั่นคงในอนาคต

นายกิตติพงศ์ กิตติภัสสร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TWZ เปิดเผยว่า แผนระดมทุนด้วยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวนไม่เกิน 4,964.47 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 496.447 ล้านบาท โดยจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 3 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาเสนอขายหุ้นละ 0.10 บาท รวมถึงการออกและเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพที่ให้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญของบริษัทฯ อายุ 2 ปี 6 เดือน กำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 6.25% ต่อปี จำนวนไม่เกิน 330,000 หน่วย ราคาเสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท รวมมูลค่าระดมทุน 330 ล้านบาท ปรากฏว่า บริษัทฯ สามารถระดมทุนได้ตามแผนที่วางไว้ โดยมีผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนเต็มจำนวน ขณะที่หุ้นกู้แปลงสภาพฯ มีผู้ใช้สิทธิจองซื้อ 208,876 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 208.876 ล้านบาท ทำให้มูลค่าระดมทุนรวมในครั้งนี้อยู่ที่ 705.32 ล้านบาท

"บริษัทฯ ต้องขอขอบคุณผู้ถือหุ้นที่ไว้วางใจและให้ความสนใจจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน รวมถึงหุ้นกู้แปลงสภาพ ทำให้เราสามารถระดมทุนได้ตามแผนที่วางไว้ ซึ่งเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนดังกล่าว นอกจากจะนำไปใช้ชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในอนาคตแล้ว บริษัทฯ ยังจะใช้เป็นเงินลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจที่ดำเนินการในปัจจุบัน ตลอดจนธุรกิจในอนาคตที่บริษัทฯ คาดว่าจะนำมาซึ่งรายได้และผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจ Non-Telecom ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจยานยนต์พลังงานไฟฟ้า และธุรกิจกัญชงกัญชา รวมถึงพืชกระท่อมและสมุนไพรอื่นๆ" นายกิตติพงศ์กล่าว

ที่ผ่านมา TWZ มีพัฒนาการด้านธุรกิจในสาย Non-Telecom อย่างมีนัยสำคัญ โดยในสายกัญชงกัญชานั้น หลังจาก TWZ ได้เข้าลงทุนจัดตั้งบริษัท สยามเมดิคอล แคนนาบิส จำกัด (SMC) ร่วมกับบริษัท เอเอไบโอ จำกัด (AABIO) โดย TWZ ถือหุ้นในสัดส่วน 49% ผ่านบริษัท ซีบีดี คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ TWZ และ AABIO ถือหุ้นในสัดส่วน 51% นั้น ล่าสุด บริษัท สยามเมดิคอล แคนนาบิส ก็ได้รับคำสั่งซื้อน้ำมันกัญชงสกัดล่วงหน้าจากบริษัท แคนน์ โกล. จำกัด (Cann Global) ยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมกัญชงของโลก โดยคาดว่าจะสามารถส่งสินค้าและรับรู้รายได้จากการขายเฟสแรกได้ในไตรมาสแรกของปี 2565

ขณะเดียวกัน บริษัท ซีบีดีฯ ซึ่งบริษัทย่อยของ TWZ โดยเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์เทคโนโลยี LED เพื่อการเพาะปลูกกัญชงและกัญชา ได้ลงนามความร่วมมือกับบริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA ในการจะซื้อจะขายผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีหลอดไฟ LED สำหรับใช้ในกลุ่มการเกษตร และในโรงเรือนเพาะปลูกกัญชงและกัญชา ซึ่งมีอัตราส่วนระหว่างแสงที่เหมาะสมสำหรับปลูกพืชกัญชงในโรงเรือน เพื่อส่งเสริมการปลูกกัญชงในเชิงพาณิชย์และการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด ที่สำคัญ NUSA และ TWZ จะร่วมมือกันพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีหลอดไฟ LED เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน รวมถึงการจัดตั้งโรงงานจัดประกอบภายในประเทศในอนาคตอีกด้วย

"ในขณะนี้ลูกค้าของบริษัท ซีบีดีฯ เป็นกลุ่มเกษตรและบริษัทเอกชน ซึ่งเป็นผู้ขออนุญาตผลิต (ปลูก) พืชกัญชง กัญชาเชิงพาณิชย์หรืออุตสาหกรรม กับทาง อย. โดยได้รับอนุญาตแล้ว 1,255 ราย มีเนื้อที่รวมกันกว่า 1 หมื่นไร่ มีโอกาสที่จะใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มผลผลิต ซึ่งเบื้องต้นมีผู้ที่สนใจและติดต่อเข้ามาเพื่อขอซื้อแล้ว โดยบริษัท ซีบีดีฯ สามารถรับรู้รายได้ได้ทันทีในไตรมาสแรกของปี 2565 เป็นเงิน 50 ล้านบาท และบริษัทฯ ได้ตั้งเป้ายอดขายอุปกรณ์เทคโนโลยี LED ไม่น้อยกว่า 10,000 ชุด ในปี 2565 รวมเป็นมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท" นายกิตติพงศ์กล่าว

ทางด้านธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้บรรลุข้อตกลงโครงการรถเมล์ไฟฟ้าที่ลงนามสัญญา กับ บริษัท ออลซีซันส์พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ใช้วิ่งเป็นรถ Shuttle Bus ของอาคารออล ซีซันส์ เพลซ และโรงแรมคอนราด กับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส เพลินจิต จำนวน 2 คัน ซึ่งโครงการนี้ TWZ รับผิดชอบดูแลทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นตัวรถ การบำรุงรักษา พนักงาน ขับรถ สถานีจ่ายไฟ โดยมีสัญญาระยะยาว 5 ปี ตั้งแต่ปี 2564-2569 ขณะที่อีก 1 โครงการได้ส่งมอบรถจำนวน 26 คันให้กับลูกค้าไปแล้วเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และล่าสุด บริษัทฯ ยังได้ผนึกความร่วมมือกับบริษัท โซลาตรอน จำกัด (มหาชน) หรือ SOLAR ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องพลังงานแสงอาทิตย์ ร่วมกันพัฒนาติดตั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้าอีวี ((Electric Vehicle : EV) ให้กับกลุ่มตลาดรถไฟฟ้าอีวี โดยเบื้องต้นจะเริ่มติดตั้งสถานีแรกในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้

"ความสำเร็จจากการเพิ่มทุนในครั้งนี้จะต่อยอดให้ธุรกิจของ TWZ สามารถเดินหน้าต่อไปได้ และจะสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับผู้ลงทุน รวมถึงสร้างโอกาสธุรกิจที่ยั่งยืนให้กับบริษัทฯ ในอนาคตอย่างแน่นอน" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TWZ กล่าว