ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รายงานว่า
ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐพุ่งขึ้นทะลุหลัก 60 ล้านรายแล้ว ณ วันอาทิตย์ที่ 9 ม.ค.ตามเวลาสหรัฐ
ข้อมูลจาก CSSE ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับ 60,062,077 ราย และยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นแตะระดับ 837,504 ราย ณ เวลา 16.41 น.ของวันอาทิตย์ที่ 9 ม.ค.ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันนี้ตามเวลาไทย
ทั้งนี้ สหรัฐยังคงเป็นประเทศที่มียอดติดเชื้อและยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 สูงสุดในโลก โดยยอดติดเชื้อในสหรัฐคิดเป็นสัดส่วน 20% ของยอดติดเชื้อทั่วโลก ส่วนยอดผู้เสียชีวิตคิดเป็นสัดส่วนกว่า 15% ของยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลก
สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทะลุหลัก 10 ล้านรายเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2563, ทะลุ 20 ล้านรายเมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2564, ทะลุหลัก 30 ล้านรายเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2564, ทะลุหลัก 40 ล้านรายเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2564 และทะลุหลัก 50 ล้านรายเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2564
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกยังไม่มีแนวโน้มบรรเทาลง ขณะที่นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ได้เรียกร้องให้รัฐบาลประเทศต่าง ๆ และผู้นำภาคธุรกิจให้ความสำคัญกับการกระจายวัคซีนอย่างเท่าเทียม เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายของ WHO ในการฉีดวัคซีนให้กับ 70% ของประชากรโลกภายในกลางปี 2565 อย่างไรก็ดี หากการอัตราฉีดวัคซีนยังคงเป็นไปเช่นในปัจจุบัน ก็จะมี 109 ประเทศที่ไม่สามารถทำตามเป้าหมายดังกล่าวได้ภายในเดือนก.ค.ปีนี้
ทั้งนี้ นายแพทย์ทีโดรสกล่าวว่า อัตราการฉีดวัคซีนที่ต่ำในประเทศที่ไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนได้อย่างกว้างขวางนั้น เป็นสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเกิดสายพันธุ์ใหม่ ๆ