ผู้เขียน หัวข้อ: IMET สานต่อความสำเร็จ 'อุทยานผู้นำ' เปิดตัว IMET MAX 4  (อ่าน 439 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Hanako5

  • *
  • กระทู้: 861
  • Popular Vote : 0
IMET สานต่อความสำเร็จ 'อุทยานผู้นำ' เปิดตัว IMET MAX 4 โครงการบ่มเพาะผู้นำรุ่นใหม่ หลังรุ่น 3 สำเร็จเกินคาดหมาย อิงรูปแบบ Hybrid Mentoring ตอบโจทย์ Next Normal

มูลนิธิเพื่อสถาบันการศึกษาวิชาการจัดการแห่งประเทศไทย หรือ IMET สานต่อโครงการ 'อุทยานผู้นำ' หรือ 'IMET MAX' เพื่อพัฒนานักบริหารชั้นนำรุ่นใหม่ที่ทั้งเก่งและดี สนับสนุนการพัฒนาและสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประเทศ พร้อมร่วมส่งเสริมจิตสำนึกการสร้างคุณค่าเพื่อตอบแทนสังคม หลังประสบความสำเร็จมีผู้นำคุณภาพสำเร็จโครงการจาก 3 รุ่นรวม 96 คน ในปีนี้พร้อมเปิดรับ IMET MAX รุ่นที่ 4 ตั้งแต่วันนี้ - 31 มกราคม 2565 โดยสามารถสมัครได้ที่ www.imet.or.th/imetmax

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิเพื่อสถาบันการศึกษาวิชาการจัดการแห่งประเทศไทย (IMET) กล่าวว่า 'ภาครัฐและเอกชนกำลังเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยต่างๆ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสาธารณสุข รวมถึงถูกดิสทรัปจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มูลนิธิ IMET เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาผู้นำที่มีศักยภาพและรับผิดชอบต่อสังคม จึงได้ดำเนินโครงการ 'IMET MAX' อย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 โดยในปี 2565 มูลนิธิ IMET ยังคงเดินหน้าสนับสนุนโครงการ IMET MAX 4 ด้วยความเชื่อมั่นว่า เมนที (Mentee) ที่เข้าร่วมโครงการนี้ จะกลายเป็นผู้นำรุ่นใหม่ที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม ประคองประเทศให้ก้าวผ่านพ้นสถานการณ์อันยากลำบากนี้'

ด้านนายธนพล ศิริธนชัย ประธานโครงการ IMET MAX (Mentorship Academy for Excellent Leaders) กล่าวว่า 'การดำเนินโครงการในรุ่นที่ 3 ที่ผ่านมา สะท้อนความสำเร็จในรูปแบบการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จากกระบวนการ Mentoring ที่เมนเทอร์ผู้นำองค์กรผู้มากประสบการณ์จับคู่เมนทีในลักษณะใกล้ชิดในสัดส่วน 1:3 ซึ่งแม้ว่าในช่วงประมาณ 12 เดือนนี้ จะเผชิญอุปสรรคจากสถานการณ์โควิด-19 บ้าง แต่การปรับรูปแบบเป็น Hybrid Mentoring ควบคู่ทั้งรูปแบบออฟไลน์-ออนไลน์ ผสมผสานกับกิจกรรมอื่นๆ ที่หลากหลาย ทำให้สามารถบรรลุผลสัมฤทธิ์ของโครงการในการสร้างผู้นำ 36 คนนี้ที่เป็นทั้งคนเก่งและคนดี คืนสู่สังคม ดังจะเห็นได้จากเสียงสะท้อนจากเมนเทอร์ซึ่งมีทั้งความภูมิใจและปลื้มใจที่สามารถนำประสบการณ์ชีวิตมาถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนกับเมนที ช่วยให้เขาเหล่านั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งในมิติของเป้าหมายชีวิตและทางเลือกในการจัดการกับปัญหาที่หลากหลายขึ้น เพื่อเป็นผู้นำที่จะสร้างประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวมให้ดีขึ้นต่อไป สมดังเจตนารมณ์ของโครงการในการสร้าง Wisdom for Life and Social Values'

นายธนพล กล่าวเพิ่มเติมว่า 'ฝั่งเมนทีบอกเราว่าสิ่งที่ได้รับเกินความคาดหวังอย่างมาก เพราะนอกจากจะได้รับการเติมเต็มทั้งในเรื่องงาน การใช้ชีวิต วิธีคิด รวมถึงแรงบันดาลใจจาก Role Model ที่เป็นเมนเทอร์ของโครงการ เพื่อนำไปสู่การใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าแล้ว ก็ยังได้มิตรภาพที่เป็น Life-Long Relationship อีกด้วย นอกจากนี้ เมื่อเมนทีเห็นคุณค่าจากโครงการนี้ก็อยากคืนประโยชน์สู่สังคม (Pay it Forward) ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งตัวอย่างของรุ่นที่ 3 มีให้เห็นทั้งการแบ่งปันความรู้ และการจัดกิจกรรมเพื่อระดมทุนให้กับมูลนิธิเพื่อการกุศลรวมกว่า 500,000 บาท'

ปี 2565 มูลนิธิ IMET จะเดินหน้าโครงการ IMET MAX เป็นปีที่ 4 ต่อไป โดยกำหนดคุณสมบัติที่สำคัญของเมนทีไว้ดังนี้ คือ มีอายุระหว่าง 33-45 ปี เป็นผู้นำที่มีศักยภาพสูงและมีบทบาทในการขับเคลื่อนองค์กร เป็นผู้ที่ต้องการได้รับคำแนะนำและมุมมองด้านการดำเนินชีวิตจากเมนเทอร์ เป็นผู้ที่ตระหนักถึงความสำคัญและมีความต้องการที่จะสร้างคุณค่าแก่ผู้อื่นและสังคม สามารถเข้าร่วมโครงการและกิจกรรมได้ครบตามที่กำหนด รวมถึงเป็นผู้มีจริยธรรมในการดำเนินชีวิตและการทำงาน

รายชื่อเมนเทอร์ (Mentor) IMET MAX 4

คุณกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด
ศ.(พิเศษ) กิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการ บริษัท ชีวามิตร วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด
คุณจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
คุณธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
คุณนาถ ลิ่วเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทจีเอเบิล และประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทชีดีจี
คุณบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
คุณปฐมา จันทรักษ์ รองประธานกลุ่มประเทศอินโดจีน และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด
ดร.ประวิช รัตนเพียร อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คุณปรีชา เอกคุณากูล กรรมการ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
คุณพรรณี ชัยกุล ประธานกรรมการ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานกรรมการ บริษัท โกล. เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน)
คุณภาณุ อิงคะวัต ผู้ริเริ่มและก่อตั้งบริษัท Greyhound และ Greyhound Cafe ประเทศไทย
ทั้งนี้ เมนเทอร์ (Mentor) ทุกท่านที่เข้าร่วมโครงการต่างเป็นผู้มีจิตสาธารณะพร้อมเสียสละและทุ่มเททำหน้าที่โดยไม่มีค่าตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น เป็นตัวอย่างของบุคลากรคุณภาพของชาติในการทำงานเพื่อสังคมอย่างแท้จริง โดยมูลนิธิ IMET เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายหลักทั้งหมดในการดำเนินโครงการ โดยผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.imet.or.th/imetmax และ YouTube Channel: IMET MAX Thailand และสมัครเข้าร่วมโครงการโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันนี้ - 31 มกราคม 2565

เกี่ยวกับมูลนิธิเพื่อสถาบันการศึกษาวิชาการจัดการแห่งประเทศไทย หรือ IMET

มูลนิธิ IMET เป็นองค์กรที่ไม่หวังผลกำไร ก่อตั้งเมื่อปี 2526 โดยร่วมกับเครือข่ายความร่วมมือที่เป็นสถาบันอุดมศึกษา องค์กรภาครัฐและเอกชนอีก 80 แห่ง มุ่งเน้นงานในการยกระดับศักยภาพ ความสามารถในการบริหารจัดการ และการบริหารความเปลี่ยนแปลงของผู้นำทุกระดับทั้งในระดับสูง และล่าง ในส่วนกลางและท้องถิ่น ควบคู่กับการส่งเสริมให้ผู้นำเหล่านั้นมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศและรับผิดชอบต่อสังคม มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อมุ่งพัฒนาผู้นำที่เป็นคนดี มีคุณธรรม จริยธรรม มีความรับผิดชอบต่อสังคมและประเทศ บนความคาดหวังว่าจะมีผลขับเคลื่อนให้ส่วนรวมสามารถก้าวผ่านยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

เกี่ยวกับโครงการ IMET MAX

IMET MAX เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้นักบริหารชั้นนำทั้งภาครัฐและเอกชน ที่มีศักยภาพสูงหรือมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมและประเทศชาติ ได้มีโอกาสเข้ารับการพัฒนาด้วยกระบวนการเมนเทอริ่ง (Mentoring Process) กล่าวคือ ได้มีโอกาสอย่างใกล้ชิดและเป็นส่วนตัวในการพูดคุยพร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเมนเทอร์ (Mentor) ซึ่งเป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงระดับประเทศ พร้อมได้รับคำแนะนำและได้รับการสะท้อนมุมมองและแนวคิด (Reflection) ทั้งในด้านการทำงาน การใช้ชีวิต และความจำเป็นในการสร้าง 'คุณค่าเพื่อสังคม' ให้กับตนเอง เพื่อให้เกิดสติปัญญาที่สมบูรณ์พร้อม (Wisdom for Life and Social Values) อันจะเป็นรากฐานสำคัญขององค์กร สังคม และประเทศชาติในการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป