ผู้เขียน หัวข้อ: ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 183.15 จุด  (อ่าน 430 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Naprapats

  • *
  • กระทู้: 931
  • Popular Vote : 0
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 183.15 จุด ขานรับถ้อยแถลงพาวเวล

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (11 ม.ค.) โดยหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นนำตลาด หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณเรื่องทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างไปจากเดิม นอกจากนี้ นายพาวเวลยังเชื่อมั่นว่า แผนการใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินของเฟดจะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการจ้างงานของสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,252.02 จุด เพิ่มขึ้น 183.15 จุด หรือ +0.51%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,713.07 จุด เพิ่มขึ้น 42.78 จุด หรือ +0.92% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,153.45 จุด พุ่งขึ้น 210.62 จุด หรือ +1.41%

นายพาวเวลได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาเมื่อคืนนี้ตามเวลาไทยว่า ห่วงโซ่อุปทานที่กลับสู่ภาวะปกติจะช่วยผ่อนคลายแรงกดดันจากเงินเฟ้อในปีนี้ แต่เฟดก็ไม่กลัวที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่คาดไว้หากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ดี นายพาวเวลเชื่อมั่นว่า แผนการใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินของเฟดในปีนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงาน และเศรษฐกิจสหรัฐก็แข็งแกร่งพอที่จะทำให้เฟดไม่ต้องใช้มาตรการกระตุ้นขนานใหญ่อีกต่อไป

นอกจากนี้ นายพาวเวลคาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะสามารถฝ่าฟันสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนไปได้ และเชื่อว่าผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจนั้นจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น

ไบรเอน ลันดิน นักวิเคราะห์จากบริษัท Gold Newsletter กล่าวว่า การแสดงความเห็นของนายพาวเวลครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า นโยบายคุมเข้มด้านการเงินของเฟดจะทำให้เศรษฐกิจปรับตัวในลักษณะ "ซอฟท์แลนดิ้ง" มากกว่าที่จะทำให้เศรษฐกิจหดตัว นอกจากนี้ นายพาวเวลยังทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่า เฟดจะไม่เร่งใช้นโยบายคุมเข้มที่รุนแรงเกินไป เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง

หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 3.41% หลังจากราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นทะลุระดับ 81 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน เพิ่มขึ้น 5.38% หุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 4.24% หุ้นเชฟรอน เพิ่มขึ้น 2.23% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ทะยานขึ้น 3.15%

ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น 1.21% โดยหุ้นแอมะซอน พุ่งขึ้น 2.4% หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ (เฟซบุ๊ก) พุ่งขึ้น 1.92% หุ้น NVIDIA พุ่งขึ้น 1.52% หุ้นอินเทล บวก 1.27% หุ้นอัลฟาเบท เพิ่มขึ้น 0.77% หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 1.68%

หุ้นไฟเซอร์ ดีดตัวขึ้น 0.8% หลังจากนายอัลเบิร์ต บูร์ลา ซีอีโอของบริษัทไฟเซอร์เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่เจาะจงสายพันธุ์โอมิครอนโดยเฉพาะนั้น จะเปิดตัวในเดือนมี.ค.นี้ และทางบริษัทได้เริ่มทำการผลิตแล้ว

นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 7.1% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 6.8% ในเดือนพ.ย. ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงานนั้น คาดว่าจะพุ่งขึ้น 5.4% ในเดือนธ.ค. จากระดับ 4.9% ในเดือนพ.ย.