ผู้เขียน หัวข้อ: DRT ตั้งเป้าปี 65 โต 5% มองตลาดวัสดุก่อสร้างฟื้นตัวแม้โควิดยังเสี่ยง  (อ่าน 399 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Prichas

  • *
  • กระทู้: 1,059
  • Popular Vote : 0


นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร (DRT) เปิดเผยว่า แม้ปีนี้จะมีสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 และความท้าทายในการบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นแต่ด้วยศักยภาพและความพร้อมของ DRT ที่มีข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันทั้งด้านแบรนด์สินค้าเป็นที่ยอมรับ ผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายสามารถนำไปก่อสร้างบ้านได้ทั้งหลัง กำลังการผลิตที่มีเพียงพอและการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ

"เรามั่นใจว่าจะเอาชนะอุปสรรคและความท้าทายที่เกิดขึ้น ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ดี จึงตั้งเป้าปีนี้เติบโต 5% และตอกย้ำ DRT เป็นหุ้นปันผลที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง" นายสาธิต กล่าว
ภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างในปี 65 คาดว่าจะเติบโต 3-5% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งมีปัจจัยจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นและภาครัฐเดินหน้าโครงการเมกะโปรเจคด้านคมนาคมขนาดใหญ่ ที่ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของภาคเอกชน แม้สถานการณ์ปัจจุบันมีความเสี่ยงด้านการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน แต่พบว่าผู้ประกอบการร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างรายย่อย มีการสั่งสินค้าเพื่อเก็บ สต๊อกรอการขายเพิ่มขึ้น ขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เริ่มวางแผนเปิดโครงการใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับกลุ่มผู้ประกอบการห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ที่ยังคงเดินหน้าแผนการลงทุนขยายสาขา

ทั้งนี้ กลุ่มสินค้าวัสดุก่อสร้างที่จะได้รับความนิยมจากผู้บริโภค ยังคงเป็นกลุ่มไม้สังเคราะห์ เนื่องมีความสวยงามเสมือนไม้ธรรมชาติ สอดคล้องกับกระแสรักษ์โลก แข็งแรงทนทานและสะดวกรวดเร็วในการติดตั้ง จึงทำให้มีความต้องการผลิตภัณฑ์ไม้สังเคราะห์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง DRT มีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในกลุ่มนี้เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความหลากหลายให้แก่ผลิตภัณฑ์ที่เน้นฟังก์ชันที่สะดวก ง่ายต่อการติดตั้ง เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่กลุ่มช่างและผู้บริโภค รวมถึงบริษัทฯ ยังตอกย้ำกลยุทธ์การตลาดภายใต้แนวคิด ?สวยครบเซต ตราเพชรทั้งหลัง? และการบริหาร Product Mix เพื่อรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับ 27-29% ควบคู่กับการรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรโดยเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 80-90% เพื่อรับมือต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ตลอดจนลงทุนติดตั้งโรบอตในไลน์การผลิตตามแผนระยะยาว 5 ปี ตั้งเป้าจำนวน 50 ตัวใน 5 ปี เพื่อผลักดันฐานการผลิตไปสู่ Smart Factory

ขณะที่ ?ไดมอนด์ คาเฟ่? ร้านกาแฟสำเร็จรูปภายใต้แบรนด์ ?ตราเพชร? บริษัทฯ มีแผนจับมือกับพันธมิตรที่ทำธุรกิจเชนร้านกาแฟ เพื่อขยายตลาดจับลุ่มเป้าหมายผู้ประกอบการที่ต้องการเริ่มต้นทำธุรกิจร้านกาแฟด้วยงบประมาณก่อสร้างไม่บานปลาย ด้วยทีมช่างที่มีความชำนาญงานติดตั้งและสินค้าที่มีความคุณภาพได้มาตรฐาน จึงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่จะสร้างการเติบโตให้แก่บริษัทฯ ภายในปีนี้