ผู้เขียน หัวข้อ: ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกงฮั่งเส็งปิดเช้าพุ่ง 502.09 จุด ตามทิศทางดาวโจนส์  (อ่าน 417 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Shopd2

  • *
  • กระทู้: 1,209
  • Popular Vote : 0

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าพุ่งขึ้นในวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดบวกในวันอังคาร (11 ม.ค.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณเรื่องทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างไปจากเดิม

ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 24,241.15 จุด เพิ่มขึ้น 502.09 จุด หรือ +2.12%

นายพาวเวลได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาเมื่อคืนนี้ตามเวลาไทยว่า ห่วงโซ่อุปทานที่กลับสู่ภาวะปกติจะช่วยผ่อนคลายแรงกดดันจากเงินเฟ้อในปีนี้ แต่เฟดก็ไม่กลัวที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่คาดไว้หากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง

อย่างไรก็ดี นายพาวเวลเชื่อมั่นว่า แผนการใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินของเฟดในปีนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงาน และเศรษฐกิจสหรัฐก็แข็งแกร่งพอที่จะทำให้เฟดไม่ต้องใช้มาตรการกระตุ้นขนานใหญ่อีกต่อไป

นอกจากนี้ นายพาวเวลคาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะสามารถฝ่าฟันสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนไปได้ และเชื่อว่าผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจนั้นจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น

ภาวะตลาดหุ้นอินเดีย: ดัชนี Sensex เปิดบวกเกือบ 400 จุด นลท.ซึมซับเฟดแถลง

ดัชนี Sensex ตลาดหุ้นอินเดียเปิดตลาดในแดนบวก โดยนักลงทุนซึมซับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ไม่ได้ส่งสัญญาณเรื่องทิศทางอัตราดอกเบี้ยแตกต่างไปจากเดิม

ดัชนี Sensex ตลาดหุ้นอินเดีย เปิดตลาดที่ระดับ 61,014.37 จุด เพิ่มขึ้น 397.48 จุด หรือ +0.66%

หุ้น RIL ขยับขึ้น 1.69%, หุ้น RIL เพิ่มขึ้น 1.45% และหุ้น SBI เพิ่มขึ้น 1.20%

ทั้งนี้ นายพาวเวลได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาเมื่อคืนนี้ตามเวลาไทยว่า ห่วงโซ่อุปทานที่กลับสู่ภาวะปกติจะช่วยผ่อนคลายแรงกดดันจากเงินเฟ้อในปีนี้ แต่เฟดก็ไม่กลัวที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่คาดไว้หากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง

อย่างไรก็ดี นายพาวเวลเชื่อมั่นว่า แผนการใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินของเฟดในปีนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงาน และเศรษฐกิจสหรัฐก็แข็งแกร่งพอที่จะทำให้เฟดไม่ต้องใช้มาตรการกระตุ้นขนานใหญ่อีกต่อไป นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะสามารถฝ่าฟันสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนไปได้ และเชื่อว่าผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจนั้นจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น