ผู้เขียน หัวข้อ: ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวแคบ ก่อนสหรัฐเผยตัวเลขเงินเฟ้อ  (อ่าน 406 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ PostDD

  • *
  • กระทู้: 929
  • Popular Vote : 0

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวแคบในวันนี้ ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อในคืนนี้

ณ เวลา 19.27 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 26 จุด หรือ 0.07% สู่ระดับ 36,154 จุด

นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในคืนนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขเงินเฟ้อดังกล่าวจะแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี

กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนธ.ค.ในคืนนี้ เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 7% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2525 จากระดับ 6.8% ในเดือนพ.ย.

เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี CPI ดีดตัวขึ้น 0.4% ในเดือนธ.ค.

นอกจากนี้ คาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะพุ่งขึ้น 5.4% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 4.9% ในเดือนพ.ย.

เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี CPI ดีดตัวขึ้น 0.5% ในเดือนธ.ค.

นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวยืนยันว่า เฟดจะใช้ความพยายามในการสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ แม้จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้

"ห่วงโซ่อุปทานที่กลับสู่ภาวะปกติจะช่วยผ่อนคลายแรงกดดันจากเงินเฟ้อในปีนี้ แต่เฟดก็ไม่กลัวที่จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่คาดไว้ หากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง" นายพาวเวลกล่าวต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาวานนี้

FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่า 90% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นเดือนที่เฟดยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ และจะเริ่มปรับลดขนาดงบดุลในเดือนก.ค.หรือเร็วกว่านั้น จากปัจจุบันที่พุ่งสูงกว่า 8 ล้านล้านดอลลาร์

ขณะเดียวกัน ตลาดจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ โดยธนาคารขนาดใหญ่ เช่น เจพีมอร์แกน เชส, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โกจะเปิดเผยผลประกอบการในวันศุกร์