นางคริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการ
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยในวันพุธ (12 ม.ค.) ว่า เงินเฟ้อในสหรัฐมีแนวโน้มปรับตัวลดลงในไตรมาส 2/2565
"นี่คือประเด็นที่เราต้องจัดการกับปัญหาติดขัดด้านห่วงโซ่อุปทาน แต่เรามองเห็นสัญญาณความคืบหน้าในประเด็นดังกล่าวบ้างแล้ว" นางจอร์เจียวากล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี
ในวันเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐพุ่งขึ้น 7.0% ในเดือนธ.ค.ปี 2564 ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบรายปีมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปี 2525
ส่วนทางด้านจีนนั้น นางจอร์เจียวาได้กล่าวว่าได้มีการยกเลิกนโยบายต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจก่อนเวลาอันควรเล็กน้อย โดยการบริโภคในจีนไม่ได้ปรับตัวขึ้นอย่างที่ควรจะเป็นเพื่อชดเชยภาวะชะงักงันในเศรษฐกิจ อันเกิดจากผลพวงของโรคโควิด-19
อย่างไรก็ดี นางจอร์เจียวาระบุว่า จีนสามารถใช้นโยบายทางการคลังในการกระตุ้นให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ถึง 5%
"ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ดำเนินการในทิศทางดังกล่าวบ้างแล้ว และดิฉันคาดการณ์ว่าจะมีการออกนโยบายเพิ่มเติมในอนาคต"
ก่อนหน้านี้ นางจอร์เจียวาได้ออกมาเตือนว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อจะยิ่งเพิ่มความอันตราย และตอกย้ำความเหลื่อมล้ำในการพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างชาติที่พัฒนาแล้วและชาติที่กำลังพัฒนา
"ธนาคารกลางสหรัฐและธนาคารกลางแห่งอื่น ๆ ต่างก็รู้ดีว่าจะจัดการกับเงินเฟ้ออย่างไร แต่สิ่งนี้จะต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อตลาดเกิดใหม่ และเพิ่มความเสี่ยงจากความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ"